คตส.-คมช.ยันไม่รับสินบน ยึดเงินแม้ว 6.9 หมื่นล้านแน่! ผบ.สส.เชื่ออดีต คมช.ถูกปรับปรำอาจฟ้องกลับ

วิชิต ปลั่งศรีสกุล

คตส.โต้ที่ปรึกษากม."ทักษิณ" ยันไม่มีใครออกมารับสินบนยึดทรัพย์"แม้ว"แน่นอน ระบุยึดได้ 6.9 หมื่นล้าน หายไป 9 พันล้านไม่จำเป็นต้องไปตามจะไม่มีการชี้เบาะแสในส่วนนี้ นัดแถลง18 ส.ค. ยันระเบียบ คตส.กำหนดชัดเจน ทีมกม."ทักษิณ"แย้งมีผู้แจ้งเบาะแสแบบไม่เผยตัวได้และเหตุใดจึงระบุให้เอาเงินงบประมาณแผ่นดินมาจ่าย ทนาย"แม้ว" หาช่องเอา7 หมื่นล้านคืน ผบ.สส.เชื่ออาจมีอดีต คมช.ถูกปรับปรำฟ้องกลับ


 

'วิชิต'ท้า'นาม'ยันไม่มีรับสินบน

นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี   กล่าวถึงกรณีนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการ คตส. ระบุคดีการอายัดทรัพย์ 69,000 ล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นการดำเนินการติดตามบัญชีโดยคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการติดตามบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเงิน 73,000 ล้านบาท ในการขายหุ้นชินคอร์ป ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จึงไม่มีใครจะได้รับสินบน 25 เปอร์เซ็นต์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ว่า ยังติดใจคำชี้แจงดังกล่าว เพราะโดยเฉพาะที่นายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธาน คตส. ที่ตอบไม่ตรงประเด็น เพราะประเด็นอยู่ที่การออกระเบียบ คตส. ว่าด้วยการจ่ายสินบนในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของ คตส. พ.ศ.2549 ให้สินบนผู้ชี้เบาะแส 25 เปอร์เซ็นต์ เหตุใดจึงระบุให้เอาเงินงบประมาณแผ่นดินมาจ่าย

นายวิชิตกล่าวว่า ที่สำคัญคือ ระเบียบในข้อ 6 ระบุ ผู้ชี้เบาะแสมีทั้งแบบเปิดเผยตัวและไม่เปิดเผยตัว แต่ไม่ต้องทำตามระเบียบอะไรเลย ไม่ต้องแจ้งชื่อ ที่อยู่ พอศาลตัดสินให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน นายนามสามารถลงนามรับรองจ่ายได้เลยภายใน 30 วัน แม้ คตส.จะยืนยันว่า ตอนนี้ไม่ใครโผล่ออกมาก็จริง แต่อาจจะไปโผล่ตอนหลังก็ได้ นายนามบอกว่า ตัวเองและเจ้าหน้าที่ คตส.ไม่มีสิทธิได้รับสินบนส่วนนี้ แต่ในอนาคตคนนอกหรือนอมินีอาจเข้ามาได้ ไอ้โม่งอาจจะโผล่มาก็ได้

'เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ขอให้นายนามยืนยันด้วยว่าในอนาคตจะไม่มีคนมาขอส่วนแบ่งเงิน หากศาลตัดสินเด็ดขาดให้ริบทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน' นายวิชิตกล่าว

ข้องใจทำไมไม่เลิกระเบียบสินบน

'สังคมจะได้วางใจว่ามีความโปร่งใส ไม่ใช่มีคนใน คมช. หรือคนตามข่าวลือ อาทิ คนที่เกี่ยวข้องกับ คมช. ญาติ คมช. โผล่ขึ้นมาขอรับสินบน และให้ตอบให้ชัดว่า ระเบียบดังกล่าว โดยเฉพาะข้อที่ 6 ยังมีผลบังคับใช้อยู่หรือไม่ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาโอ้โม่งที่จะโผล่ออกมา โดยอ้างนายนามแล้วไม่ต้องเปิดเผยตัว ผมไม่ได้ออกมาเรียกร้องประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีออเดอร์ แต่อยากเห็นการใช้กฎหมายโดยหลักนิติธรรมเกิดขึ้นในสังคม' นายวิชิตกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ระบุว่ามีคนใน คมช.บางคนพูดว่าเราจะรวยแล้ว มีข้อมูลหรือไม่ว่าเป็นใคร นายวิชิตกล่าวว่า เป็นข่าวลือที่หนาหูมาก พูดกันปากต่อปาก ตนไม่ยืนยันว่าจริงหรือไม่ แต่ยืนยันว่ากระบวนการหวังประโยชน์จากการยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณในวันนี้นั้นมีจริง มีการเคลื่อนไหวกันมาตลอด มีคนไปฟ้องศาลปกครอง มีคนไปเผาแบงก์กงเต๊กเงินสินบน ดังนั้น ถ้าไม่มีเจตนาอื่น ทำไมไม่ยกเลิกระเบียบดังกล่าวเสีย ทั้งที่ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบที่แท้จริง ยังไม่มีการออกระเบียบในลักษณะดังกล่าวเลย

ยันไม่มีใครได้-นัดแถลง18 ส.ค.

นายบรรเจิด สิงคะเนติ อดีตกรรมการ คตส. กล่าวว่า เรื่องเกี่ยวกับการที่จะมีใครได้ประโยชน์จากระเบียบ คตส.นั้น ระเบียบ คตส.กำหนดชัดเจนอยู่แล้วว่า คนที่จะได้ประโยชน์ต้องเป็นคนนอก ไม่ใช่ตัวกรรมการ คตส. หรือเจ้าหน้าที่ และกรณีที่จะได้รับสินบน คือ ต้องมีการชี้ช่อง ชี้เบาะแส ว่าทรัพย์ไปซุกซ่อนอยู่ที่ไหนบ้าง และต้องเป็นข้อมูลใหม่ ที่คณะตรวจสอบไม่รู้มาก่อน และนำไปสู่ช่องทางในการยึดหรืออายัดทรัพย์ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ในส่วนของการติดตามเงินจากการขายหุ้นชินคอร์ปทั้งหมด 7.6 หมื่นล้านบาท ในส่วนของ 6.9 หมื่นบ้านบาทที่อายัดได้ เป็นเรื่องที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปติดตามจากบัญชีธนาคาร

'ปัญหาที่สำคัญขณะนี้ คือ คตส.หมดอายุไปตามกาลเวลาแล้ว และงานทั้งหมดก็ถูกส่งไปที่ ป.ป.ช. ก็ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่า ปัจจุบัน ป.ป.ช.มีอำนาจในการอายัดทรัพย์ หรือมีแนวทางการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร เพราะต้องเข้าใจว่า อำนาจ คตส.มาจากประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ซึ่งจึงแตกต่างจากอำนาจของ ป.ป.ช. ส่วนที่จะมีคนมาตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ มันก็บอกอยู่แล้วว่า วัตถุประสงค์ของคนที่พูดต้องการอะไร แต่สิ่งที่อยากให้สังคมพิจารณากัน คือ ข้อเท็จจริงของระเบียบ คตส.คืออะไร จะมีคนได้ประโยชน์จากสินบนหรือไม่ ข้อเท็จจริงคือ ไม่มีคนได้อะไรเลย' นายบรรเจิดกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า หากศาลมีคำสั่งถึงที่สุด ให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน จะไม่มีใครโผล่ออกมาขอเงินสินบนตามระเบียบ คตส. นายบรรเจิดกล่าวว่า ไม่มีแน่นอน ในวันที่ 18 สิงหาคมนี้ อดีตกรรมการ คตส.จะนัดหมายประชุมพบปะกัน โดยนายสัก กอแสงเรือง อดีตโฆษก คตส. จะเป็นผู้แถลงข่าวชี้แจงให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดด้วย

ระบุเป็นทรัพย์ประจักษ์ไม่ต้องมีคนชี้

แหล่งข่าวจากอดีตกรรมการ คตส. กล่าวว่า ที่นายวิชิตออกมาพูดว่าจะมีใครได้ประโยชน์จากสินบนการอายัดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ไม่  ทราบว่านายวิชิตเอามาจากไหน และที่ว่ามีคนใน คมช.พูดว่าเราจะรวยกันแล้ว ก็เชื่อว่าไม่มีคนใน คมช.พูดอย่างนั้นแน่ เพราะ คมช.ไม่ได้ทำทุจริตอะไร ไม่เหมือนกับคนบางกลุ่ม ที่ทำทุจริตไปแล้ว และพยายามหาทางรอด

แหล่งข่าวจากอดีตกรรมการ คตส.กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้แยกแยะได้ว่า คตส.สามารถอายัดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณจากการขายหุ้นชินคอร์ปได้เพียง 6.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์ในส่วนที่มีตัวตน อยู่ในบัญชีธนาคาร และดำเนินการตามการติดตามทรัพย์สินของ สตง.ที่ดำเนินการกันมา จากเงินจากการขายหุ้นทั้งหมด 7.6 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ยังมีส่วนที่ตามหาไม่พบอีก 9 พันล้านบาท ตอนนี้ถ้าศาลมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์เป็นตกเป็นของแผ่นดิน ก็ยึดได้แค่ 6.9 หมื่นบ้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 9 พันล้านบาท ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปตามหาให้เจอ เพราะไม่มีการชี้เบาะแสในส่วนนี้ ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน แต่ศาลสามารถใช้อำนาจยึดทรัพย์ในส่วนอื่นที่เป็นประจักษ์ได้ เช่น อสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่  เป็นต้น

ผบ.สส.เชื่ออาจมีอดีตคมช.ฟ้องกลับ

ที่ จ.นครราชสีมา พล.อ.บุญสร้าง เนียม ประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) และอดีตสมาชิก คมช.ให้สัมภาษณ์กรณีนายวิชิตอ้าง อดีต คมช.จะได้รับเงินสินบนนำจากการชี้เบาะแสอายัดทรัพย์ว่า ยืนยันไม่ได้เงิน และก็ไม่อยากได้ ไม่ทราบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง ถ้าเราไม่ได้ทำ พูดไปก็เหนื่อยเปล่า เรื่องนี้พิสูจน์ได้เสมอ

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีอดีต คมช.ฟ้องกลับกรณีดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า 'น่าจะ มีคนฟ้องกลับ'เมื่อถามว่า ถือเป็นการพยายามสร้างความชอบธรรมให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณหรือ    ไม่ พล.อ.บุญสร้างกล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียดว่า พูดแค่ไหน ซึ่งคงจะมีผู้เกี่ยวข้องหลายคนดำเนินการอยู่ ไม่ห่วงว่าจะเป็นการปรักปรำอดีต คมช. เพราะถ้าของที่ดี จะอยู่ได้ และชี้แจงได้เสมอ ถ้าไม่ดี ก็ชี้แจงไม่ได้ ของดีต้องทนต่อการพิสูจน์

ทนาย"แม้ว" หาช่องเอา7หมื่นล้านคืน

นายประเกียรติ นาสิมา อดีต ส.ว.ร้อยเอ็ด ทนายความส่วนตัว พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวถึงแนวทางการต่อสู้คดีเพื่อนำทรัพย์สินที่ถูก คตส.สั่งอายัดไว้กลับคืนมาว่า ข้อต่อสู้ทางกฎหมายคือ ประเด็นที่กรรมการ คตส.ได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ดังนั้น กฎหมายหรือระเบียบต่างๆ ที่ คตส.ออกมาก็ต้องพ้นสภาพไปด้วย ดังนั้น ข้อต่อสู้ของ พ.ต.ท.ทักษิณก็คือ ต้องพยายามขอถอนเงินที่อยู่ในธนาคารซึ่งถูก คตส.สั่งอายัดไว้ออกมา แต่ธนาคารคงไม่อนุมัติ ดังนั้น ก็ต้องต่อสู้คดีกัน แต่สุดท้ายหาก พ.ต.ท.ทักษิณสามารถพิสูจน์ได้ถึงความชอบธรรมในทรัพย์สินเหล่านั้น คนที่ต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นก็คือธนาคาร

"นอกจากนี้การสั่งอายัดทรัพย์ในข้อหาร่ำรวยผิดปกติ เป็นข้อกล่าวหาสำหรับนักการเมือง แต่คุณหญิงพจมานหรือลูกๆ ไม่ได้เป็นนักการเมืองด้วยก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป เพราะทรัพย์สินที่ถูกอายัดไว้ทั้งหมดยังไม่มีข้อยุติว่าครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณได้มาโดยไม่ชอบอย่างไร ถึงกล่าวหาเรื่องคดีที่ดินรัชดาฯ ก็ไม่ใช่เรื่องทุจริต เพียงแต่กล่าวหาว่าใช้อำนาจโดยไม่ชอบให้ได้มาในราคาถูก และต้องแยกพิสูจน์กันเป็นคดีๆ ไป จะมาเหมารวมแล้วยึดทั้ง 7 หมื่นล้านบาท ไม่ได้ "

นายประเกียรติกล่าวต่อว่า การที่นายแก้วสรรออกมาโจมตีทำลายความน่าชื่อถือการทำหน้าที่ของทีมทนายความนั้น อยากให้แต่ละฝ่ายเคารพการทำหน้าที่ของกันและกัน อย่ามาดิสเครดิตกันแบบนี้ใช้ไม่ได้ และโดยหลักวิชาชีพทนายความแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องปกป้องประโยชน์ทางคดีของลูกความ และการพิสูจน์ความจริง ถือเป็นอำนาจของศาลไม่ใช่ คตส. และยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณเองยังเชื่อมั่นในระบบศาล เพียงแต่ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการสอบสวนขั้นต้นคือ คตส.เพราะเป็นอริกัน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์