ข้อเสนอ′นิติราษฎร์′ ไม้ขีดก้านแรก ก่อเชื้อไฟ′ต้าน′ทักษิณ

(ที่มา : มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 29 กันยายน 2554 หน้า3) 


การปะทะกันทาง "ความคิด" ของ "คณะนิติราษฎร์" โดย "วรเจตน์ ภาคีรัตน์" และคณาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับพรรคประชาธิปัตย์ กำลังถูก "ขยายความ"

"ขยายความ" ที่อาจเป็น "จุดเริ่มต้น" ของความขัดแย้งครั้งใหม่

เพราะข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ ต้องการให้ทุกเหตุการณ์ที่เป็น "ผลพวง" มาจากการทำรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็น "โมฆะ" เพื่อนำไปสู่การปรองดอง

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ โดย "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" มองว่าข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ มีวาระซ่อนเร้นเพื่อเปิดทางนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

หากการปะทะ "ทางความคิด" ของคนสองกลุ่ม ไม่มีวาระซ่อนเร้น เป็นการขายความคิดด้วยความบริสุทธิ์ใจต่อบ้านเมือง

ก็น่าจะเป็นแนวทางหนึ่ง ที่ทำให้คนในสังคมมีความหวัง

ดีกว่านั่งอมทุกข์ในมุมมืด

ไม่เห็นถึงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

แต่การปะทะกันทางความคิดของคนสองกลุ่มก็มีช่องโหว่


เป้าหมายหลักของ คณะนิติราษฎร์ เนื้อแท้จริงๆ อาจอยู่ที่ลบล้าง "ผลกระทบ" ทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหาร

แต่ที่กลายเป็น "ช่องโหว่" มากที่สุดคือ การเข้าไปแตะมาตรา 112 ว่าด้วยการให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบัน

เช่นกัน พรรคประชาธิปัตย์ เนื้อแท้จริงๆ เป็นพรรคที่ต่อต้านการทำรัฐประหารมาโดยตลอด การไปแตะแค่ "ประเด็นรอง" คือการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ให้พ้นผิด มากกว่า "ประเด็นหลัก" เรื่องการต่อต้านรัฐประหาร

อีกทั้งพรรคประชาธิปัตย์เองก็ถูกสังคมตั้งข้อสงสัยมาโดยตลอดเกี่ยวกับการตั้งรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ในค่ายทหาร

ทำให้สังคมมองพรรคประชาธิปัตย์ และ "อภิสิทธิ์" ด้วยความแปลกแปร่ง

ด้วยช่องโหว่ดังกล่าว ทำให้การปะทะกันทางความคิดระหว่างคณะนิติราษฎร์ กับพรรคประชาธิปัตย์ ถูกจุดให้กลายเป็น "ความขัดแย้ง"

ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น "หัวเชื้อ"

ไม่แปลกที่จะมีคนจากหลายกลุ่ม ซึ่งยืนอยู่ "คนละมุม" กับ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย จะออกมา "เก็บเกี่ยว" ประโยชน์ จากเหตุการณ์ปะทะกันทางความคิดของคนสองกลุ่ม

"เสียงดังเข้มๆ" จาก ผบ.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จี้ให้สังคมจับตาคณะนิติราษฎร์ทำเพื่ออะไร "การดำเนินการใดๆ จะต้องไม่ละเมิดกฎหมาย สิ่งใดก็ตามที่ดีอยู่แล้วก็ไม่ควรไปยุ่ง และไม่ควรไปอาจเอื้อมด้วยซ้ำไป"

เป็นเสียงที่ไม่ควรมองข้าม

เช่นเดียวกับเสียงของ "สัก กอแสงเรือง" นายกสภาทนายความ ที่ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ ระบุไม่เห็นด้วยกับ "คำแถลงการณ์ของกลุ่มนิติราษฎร์" ทุกข้อ

ด้วยเหตุผล "คณะนิติราษฎร์เสนอเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่ออดีตนักการเมืองมากกว่าการแสวงหาความยุติธรรมให้แก่สังคม การฉ้อราษฎร์บังหลวงเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ ไม่มีนักการเมืองคนใดที่จะทำให้สังคมไทยรับรู้ว่าการโกงบ้านโกงเมืองนั้น เลวร้ายยิ่งกว่าการรัฐประหารที่มุ่งทำลายความเลวของนักการเมืองบางคนและกระทำการเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง"

ก็เป็นอีกเสียงที่ไม่ควรมองผ่าน

ดูเหมือนว่า "ข้อเสนอ" ทางความคิดของคณะนิติราษฎร์ ถูก "จุดพลุ" ให้กลายเป็นประเด็นการเมือง ที่พร้อมจะลุกลามดุจไฟลามทุ่ง

ณ เวลานี้ ทั้งพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ คงมองเกมขาด อ่านเกมออก ว่าการเดินไปสู่ "เป้าหมาย" ด้วยการนำความยุติธรรมกลับคืนสู่สังคม ซึ่งหมายรวมถึงการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านในระยะเวลาอันใกล้

ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด

แม้จะเป็น "ผู้ชนะ" แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก็ไม่ได้หมายความว่า "แรงต้าน" พ.ต.ท.ทักษิณ จะหมดหรือหายไป

เพียงแต่รอเวลาที่เหมาะสม รอโอกาสที่พอเหมาะเท่านั้น

การโยน "ความคิด" ออกมาสู่สังคมของคณะนิติราษฎร์ จึงเป็นเหมือนการ "หยั่งเชิง" ให้รู้ว่า "แรงต้าน" พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ซุกซ่อนอยู่ทุกอณูของสังคม ยังมีอยู่ และมีพลังมากน้อยแค่ไหน

ที่สำคัญ นี่อาจเป็น "ไม้ขีดก้านแรก" ที่ถูกจุดขึ้นจากกลุ่มอำนาจนอกระบบที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามระบอบทักษิณ

รอเพียงเวลา พรรคเพื่อไทย หรือคนเสื้อแดง เร่งเชื้อไฟให้ลุกโชนมากขึ้นเท่านั้น

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์