ขึ้นบัญชี(ดำ) หัวคะแนน กกต.รุกฆาต...นักเลือกตั้ง

ภาวการณ์การเมืองไทยในขณะนี้คงทำให้ปวดเศียรเวียนเกล้ากันอยู่ไม่น้อย


เพราะขนาดคำพูดของคนระดับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่อุตส่าห์มานั่งประชุมหารือร่วมกัน เสียเวลาดูข้อมูลตารางการเมืองกันเป็นชั่วโมงก่อนที่จะเคาะให้วันที่ 23 ธันวาคม เป็นวันเลือกตั้งทั่วไปก็ยังไม่มีใครเชื่อถือ


เกิดกระแสตีกลับอย่างหนัก ถึงขนาดคนที่ออกมาประกาศเองยังต้องพลิกพลิ้วหาคำพูดใหม่มา

เพื่ออธิบายเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้รับมือหากเกิดมี 'เงื่อนไขใหม่' มาทำให้การเลือกตั้งจากกำหนดเดิมจะต้องเลื่อนออกไป แต่สำหรับฝ่ายปฏิบัติการอย่าง กกต. ที่มีหน้าที่โดยตรงในการจัดการเลือกตั้ง แม้จะเริ่มมีการไถ่ถามกันว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 23 ธันวาคม จริงหรือเปล่า แต่ในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นยังคงต้องมีอยู่ต่อไป


ทั้งการจัดประชุมเตรียมการ ประชุมฝึกอบรมพนักงาน กกต. และ ผอ.กกต.เขตเลือกตั้งทั่วประเทศ


และมาตรการเชิงรุก 'ขึ้นบัญชีลับ' บรรดาหัวคะแนนนักการเมือง ที่ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ประกาศมาล่าสุดนี้ คาดว่าคงทำให้บรรดาพรรคการ เมืองและนักการเมืองที่สบประมาทว่า กกต. 'ไม่ทำอะไรเลย' ชักหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว


เล่ากันว่า แผนการนี้ เตรียมกันมาตั้งสมัยที่ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน กกต.

แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการ จนกระทั่งถึงยุคนี้ จึงเห็นเป็นรูปธรรม เมื่อ กกต.สมชัยที่ดูแลด้านสืบสวนสอบสวน เห็นด้วยและสั่งการให้ทีมงานเดินเครื่องเรื่องนี้เต็มที่ ขณะนี้พื้นที่ภาคตะวันออกมี 'ข้อมูล' เชิงลึกของหัวคะแนนนักการเมืองครบทุกจังหวัดแล้ว และเริ่มขยับไปเก็บข้อมูลในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ รวมกันแล้ว 30 กว่าจังหวัด คาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน คงมีข้อมูลผู้ให้การสนับสนุนนักการเมืองครบทุกจังหวัดทั่วประเทศ


ใน 'บัญชีรายชื่อ' ผู้สนับสนุนหรือหัวคะแนนนักการเมืองนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ

1.รายชื่อของหัวคะแนน พร้อมด้วยประวัติ 2.ข้อมูลของผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เป็นลูกน้องของนักการเมือง ซึ่งเคยมีพฤติกรรมไปข่มขู่ คุกคาม บังคับขู่เข็ญให้ประชาชนในพื้นที่ลงคะแนนไปในทางหนึ่งทางใด และ 3.กลุ่มของข้าราชการ พนักงานของรัฐที่มีพฤติกรรม 'น่าสงสัย' และอยู่ในข่ายว่าไม่เป็น กลางทางการเมือง  กว่าจะได้ 'บัญชีลับ' นี้มาได้ ฝ่ายปฏิบัติงานต้องใช้ทุกวิถีทางในการสืบเสาะแสวงหาข้อมูล โดยเป็นการผสมผสานการทำงานทางลับ ระหว่างส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และจะมีการอัพเดตปรับปรุงให้ข้อมูลทันสมัยอยู่ตลอด เพราะหัวคะแนนบางรายในการเลือกตั้งท้องถิ่นช่วยเหลือฝั่งนี้ แต่พอการเลือกตั้งใหญ่กลับเปลี่ยนขั้วไปช่วยอีกฝ่าย หรือในบางรายที่เคยเป็นหัวคะแนน มาครั้งนี้อาจจะเลิกเป็นหัวคะแนน เพราะไม่กล้าออกหน้าช่วยเหลือใครเนื่องจากกลัวโทษอาญาที่กำหนดไว้ในกฎหมายลูกก็ได้


นายสมชัยยอมรับว่า เมื่อออกมาตรการนี้ออกมา นักการเมืองก็คงหลบไปทำอย่างอื่น

แต่เชื่อว่าการซื้อเสียงที่โจ๋งครึ่มเหมือนดังในอดีตคงจะทำกันไม่ได้แล้ว 'เราไม่เพียงแต่จะไล่ล่าคนทุจริตเลือกตั้งมาลงโทษเท่านั้น แต่ กกต.ยังต้องวิ่งแซงหน้านักการเมือง เพื่อหาทางป้องกันทุกวิถีทางอีกด้วย เพราะกกต.ก็อยากได้คนดีๆ เข้ามาบริหารประเทศเหมือนกัน' กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนย้ำ


ประกาศกันชัด-ชัดอย่างนี้แล้ว อยากรู้ว่ายังจะมีใครฝืนกฎเหล็กไปซื้อสิทธิขายเสียงกันอีกหรือเปล่า..!


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์