ขอวิจารณ์เถอะ! “มงคลกิตติ์” วิจารณ์ยับ “นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ” 3.16 เเสนล้าน “ถนัดเเต่ใช้เงิน”

วันที่ 18 ส.ค. 62 นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ได้โพสต์ข้อความ วิจารณ์นายกรัฐมนตรี ผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง มีเนื้อหาทั้งหมด ดังนี้

#ประชานิยมหายนะ ลุงตู่ อนุมัติวงเงินกว่า 316,000 ล้านบาท แก้ปัญหาเฉพาะหน้า มีแต่แนวทางใช้เงิน ไม่มีแนวทางหาเงินที่ชัดเจน น่าเป็นห่วงประเทศไทย ผู้นำถนัดแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการใช้เงินในอนาคต ถ้าหาเงินมันปวดหัวนะ ครม.เศรษฐกิจไฟเขียวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน 3.16 แสนล้านบาท ก่อนชงที่ประชุมครม. 20 ส.ค.นี้

ผลการประชุม ครม. เศรษฐกิจ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้เห็นชอบชุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร่งด่วน เพื่อสร้างความมั่นใจและให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากที่สุด วงเงินรวมทั้งหมด 3.16 แสนล้านบาท

หาก ครม. เห็นชอบในสัปดาห์หน้า ก็จะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 3% ได้แก่ ด้านภัยแล้ง ดำเนินการโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งใน 13 จังหวัด คิดเป็น 9.9 แสนราย ประกอบด้วย 

พักชำระหนี้ และลดอัตราดอกเบี้ย เป็นเวลา 1 ปี สินเชื่อฉุกเฉิน ให้กู้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ดอกเบี้ย 0% ปีแรก วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท สินเชื่อฉุกเฉิน ให้กู้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท ดอกเบี้ย 0% ปีแรก วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ขยายเวลาชำระหนี้เงินกู้ของ ธ.ก.ส. และช่วยเหลือต้นทุนการผลิตกับชาวนาที่ปลูกข้าวนาปี ฤดูกาลผลิต 2562/2563 จำนวน 3 ล้านราย

กระตุ้นการบริโภคและการลงทุน ประกอบด้วย มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ชิม ช้อป ใช้ โดยแจกเงินผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อี-วอลเลท) ให้แก่ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป คนละ 1,000 บาท เพื่อใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในจังหวัดนอกเขตภูมิลำเนา ตั้งเป้าหมาย 10 ล้านคน ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชันที่กระทรวงการคลังจัดทำขึ้น ให้ผู้ที่ได้สิทธิ์สามารถนำค่าใช้จ่ายจริงจากการเดินทางท่องเที่ยวมาขอคืนเงินได้อีก 15% ของค่าใช้จ่ายที่ไม่เกินวงเงิน 30,000 บาท

ขยายเวลาฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีนและอินเดียอีกระยะเวลาหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะต้องรอหารือกับฝ่ายความมั่นคง กระตุ้นการลงทุน มาตรการกระตุ้นการอุปโภคบริโภค กระตุ้นการท่องเที่ยว ผ่านมาตรการ "ชิม ช้อป ใช้" ได้แก่ 

ผู้ประกอบการที่ซื้อเครื่องจักร สามารถนำมาหักภาษีได้ 1.5 เท่า ปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ระยะเวลากู้ 7 ปี ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษให้ธุรกิจรายเล็กเช่นเดียวกัน วงเงินรวม 1 แสนล้านบาท ซึ่งบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จะเข้ามาช่วยค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการ โดยไม่คิดค่าธรรมเนียม

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ วงเงินรวม 5.2 หมื่นล้านบาท

ด้านค่าครองชีพ 

เติมเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14.5 ล้านคน สำหรับกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาท รับค่าครองชีพเพิ่ม 200 บาทต่อคน กลุ่มรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี รับค่าครองชีพ 300 บาทต่อคน ทำให้ทั้ง 2 กลุ่มได้รับเพิ่มเป็น 500 บาท  ผู้ที่อายุมากกว่า 60 ปี จะได้เพิ่มอีก 500 บาทต่อเดือน 

กรณีที่ต้องดูแลบุตรจะเพิ่มอีก 300 บาทต่อเดือน ทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ ส.ค. - ก.ย.62 เห็นชอบให้พักชำระเงินต้นของกองทุนหมู่บ้าน ที่กู้จาก ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน วงเงินสินเชื่อคงค้าง 6.7 หมื่นล้านบาท จากอาร์เจนตินา กรีซ ถึง เวเนซุเอลา โมเดลประชานิยมบ่มเพาะ ‘หายนะ'