ของแพง ปัญหาใหม่ของ ยิ่งลักษณ์ ปรองดอง ปัญหาหนักของ ทักษิณ

เบนซิน 91 ลิตรละ 42.58 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 40.23 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 38.48 บาท, อี 85 ลิตรละ 23.98 บาท, อี 20 ลิตรละ  37.48 บาท และดีเซล ลิตรละ 32.33 บาท ก๊าซแอลพีจี 20.38 บาทต่อกิโลกรัม หรือ 12.58 บาทต่อลิตร เอ็นจีวี 10 บาทต่อกิโลกรัม

นี่คือราคาพลังงานซึ่งเป็น ’ต้นทุน“ ของทุกอย่างที่ปรับตัวสูงขึ้นภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี

ทุกฝ่ายยอมรับกันว่า ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวเลขที่ ’เข้าหู“ คนไทยมากกว่า ’ตัวเลข“ ที่ฝ่ายการเมืองพูดกันมาก่อนหน้านี้ว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 มาตรา 309 มาตรา 237 มาตรา 190 ฯลฯ

พูดง่าย ๆ ก็คือว่า ปัญหา “ของแพง” เป็นเรื่องที่ ’น่าห่วง“ และน่าที่รัฐบาลจะหันมาให้ความสนใจแก้ไขมาก  กว่าที่จะเดินหน้าทางการเมืองเหมือนในช่วงที่ผ่าน ๆ มา


ของแพง ปัญหาใหม่ของ ยิ่งลักษณ์ ปรองดอง ปัญหาหนักของ ทักษิณ

’ความพยายาม“ ทางการเมืองใด ๆ ก็ตามจะสำเร็จขึ้นได้ต้องได้รับ ’การยอมรับ“ จากประชาชนเป็นเบื้องต้น และการจะได้มาซึ่งการยอมรับจากประชาชนนั้นก็คือ ’ผลงาน“ ของรัฐบาลว่าจะมีฝีมือการแก้ไขปัญหามากหรือน้อยขนาดไหน

’ชัยชนะ“ ทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยภายใต้การกำกับดูแลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ผ่านมาไม่ได้เกิดจากการชูธงเรื่อง ’ประชาธิปไตย“ เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเรื่องการแก้ไขปัญหา ’เศรษฐกิจ“ มาเป็น ’ปัจจัย“ หนึ่งที่สำคัญด้วย ไม่เช่นนั้นสโลแกน ’ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ“ คงไม่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา

ถึงวันนี้ ’ป่วยการ“ หากรัฐบาลจะเอาแต่เปรียบเทียบความถูกความแพงกับอดีตรัฐบาลที่ผ่านมา เพราะตลอดระยะเวลา 6-7 เดือนของการเป็นรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลายต่อหลายอย่างล้วน ’เอื้ออำนวย“ ให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็น ’ความเข้มแข็ง“ ทางการเมืองผ่านคะแนนเสียงของรัฐบาลที่มีถึง 300 เสียง ไร้ซึ่งขวากหนามอย่างการ ’ชุมนุม“ ทางการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น จะมีอย่างเดียวที่เป็น ’อุปสรรค“ ก็คือ ปัญหา ’น้ำท่วม“ ที่มา ’ขัดจังหวะ“ การทำงาน แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย รัฐบาลตั้งหลักได้ใช้การบริหารจัดการแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย ก็ต้องถือว่ารัฐบาลได้เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสได้อย่างน่าปรบมือให้

’ของแพง“ หรือ ’ค่าครองชีพ“ ที่เพิ่มสูงขึ้น จะเป็น ’ปัจจัย“ สำคัญของการเดินหน้าทางการเมืองของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็เพราะว่า ถึงวันนี้ต้องยอมรับว่าความ
สำเร็จของรัฐบาลยังไม่มีที่สามารถ ’จับต้อง“ ชนิด ’แปรเปลี่ยน“ มาเป็นความนิยมทางการเมืองให้เพิ่มมากขึ้นได้เลย เผลอ ๆ ด้วยระยะเวลาที่เนิ่นนานออกไปความนิยมของรัฐบาลก็ดูท่าจะลดลงกว่าในช่วงที่เริ่มเข้ามาทำหน้าที่ซะอีก 

ต้องยอมรับว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะวางตัวเพื่อให้ทำหน้าที่เฉพาะฝ่ายบริหารและปล่อยให้ส่วนอื่นของรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ กันไป แต่หลายต่อหลายครั้งรัฐบาลก็ถูกตั้งคำถามถึงความพยายามทางการเมืองเพื่อแก้ปัญหาทางการเมืองมากกว่าจะเข้ามาทำหน้าที่รัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาของชาติบ้านเมือง

ในทางการเมืองนั้น หากเมื่อใดที่ ’ความนิยม“ ทางการเมืองลดลง เสียงของรัฐบาลก็จะเบาลงตามไปด้วยและเมื่อนั้น การตอบสนองของสังคมที่มีต่อรัฐบาลก็จะเปลี่ยนไป

จากเดิมที่เคยให้การสนับสนุน ก็เปลี่ยนมาเป็นอยู่เฉย ๆ และจากที่เคยอยู่เฉย ๆ ก็อาจจะลุกขึ้นมาแสดงออกทางการเมืองก็เป็นได้

สภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ตอนนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็น ’ผลพวง“ มาจากปัญหา ’น้ำท่วม“ ที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากปัจจัยภายนอกประเทศ แต่อีกส่วนที่ต้องยอมรับก็คือ มาจากนโยบายของรัฐบาลเอง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศไว้ช่วงหาเสียงว่าจะ ’กระชาก“ ค่าครองชีพให้ ’ต่ำ“  ลง
แต่บัดนี้ล่วงเลยมากว่า 7 เดือนแล้ว นอกจากจะไม่เป็นเช่นนั้น ค่าครองชีพยังถูกกระชากให้ ’สูง“ ขึ้นไปอีก

ความปรองดองจะทำได้ก็ต่อเมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีผลงานเป็นที่ยอมรับ

’แกนนำ“ คนหนึ่งของรัฐบาลพูดไว้เช่นนั้น ถือเป็นการสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่า ถ้าตราบใดที่รัฐบาลใช้เวลาในการทำงานอย่าง ’ฟุ่มเฟือย“ แต่ผลงานไม่มีรูปธรรมปรากฏ โอกาสที่รัฐบาลจะแสวงหาความร่วมมือในการแก้ปัญหา อย่างการสร้างความปรองดองจึงเป็นเรื่องยาก แม้การสร้างความปรองดองนั้นมุ่งที่จะทำเพื่อส่วนรวมหรือมุ่งหวังที่จะช่วยเหลือ ’คนหนึ่งคนใด“ ในทางการเมืองก็ตาม

ก่อนหน้าที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสียงรัฐบาลแยกเป็น 2 ทาง ทางหนึ่งอยากจะเห็นผลงานของรัฐบาลซะก่อน ขณะที่อีกฝ่ายมองว่า ยิ่งรอนานยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะผลักดันแก้ไข

ความพยายามปรองดองก็เช่นกัน วันนี้พรรคเพื่อไทย ก็กลายเป็น 2 ความเห็น ความเห็นหนึ่งคือตามข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าที่เสนอให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่มี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิเป็นประธาน ขณะที่อีกทางคือแนวทางของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เห็นว่า แนวทางนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง ยิ่งทำจะยิ่งล่าช้าและยิ่งขัดแย้ง โดยเห็นว่าแนวทางการออกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่ตัวเองเสนอซึ่งมี 6 มาตราจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

ในท่ามกลาง ’ความปรองดอง“ ที่พรรคแกนนำรัฐบาลกำลัง ’ถกเถียง“ เพื่อหาทางออก ปัญหา ’ของแพง“ ก็ดูจะโหมกระหน่ำ เร่งเร้าให้รัฐบาลรีบเดินหน้าแก้ไข

’น้ำท่วม“ เป็นเรื่องภัยธรรมชาติ เอาอยู่ หรือเอาไม่อยู่ อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าได้เห็นกัน แต่ปัญหา ’ค่าครองชีพ“ ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ควบคุมบริหารจัดการได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่รัฐบาลจะมี ’ฝีมือ“ ขนาดไหน

รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ’ล้มเหลว“ เมื่อไหร่ พ.ต.ท. ทักษิณ ก็ล้มละลายเมื่อนั้น แต่หากรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้รับการยอมรับเมื่อไหร่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้รับการยอมรับ
เช่นกัน

เมื่อเป็นที่ยอมรับ ก็เชื่อว่า ความปรองดองก็คงจะอยู่ไม่ไกล.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์