ก๊วนเนวินยกโขยงตอบโต้ “เฉลิม”

กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ หัวหน้ากลุ่มเพื่อนเนวิน แถลงข่าวเปิดใจถึงสาเหตุที่ถอนตัวออกมาจาก พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งหลั่งน้ำตาเรียกร้องให้


พ.ต.ท.ทักษิณหยุดก้าวล่วงพระราชอำนาจและหยุดความเคลื่อนไหวที่ทำให้บ้านเมืองแตกแยก ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยนำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายเนวินทันควันนั้น  

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่รัฐสภา ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน พรรคภูมิใจไทย จำนวน 8 คน นำโดยนายศุภชัย โพธิสุ ส.ส.นครพนม และนายเชิดชัย วิเชียรวรรณ ส.ส.อุดรธานี เปิดแถลงข่าวตอบโต้

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาระบุว่านายเนวิน ชิดชอบ สำคัญตัวเองผิดคิดว่าเป็นผู้มีบารมี แต่เล่าความจริงให้กับประชาชนฟังไม่ครบ โดยนายเชิดชัยกล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมคือมนุษย์พันธุ์พิเศษ เพราะในอดีตเคยด่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แบบเสียๆ หายๆ ถึงขนาดว่าชาตินี้จะไม่ยอมเผาผีกัน หรือว่าวันนี้ได้เป็นทาสตัวใหม่ของ พ.ต.ท.ทักษิณไปแล้ว หรือ ร.ต.อ.เฉลิมฝันอยากเป็นนายกฯ อยากบอกว่าถ้าจะเป็นได้ก็คงได้แค่นายกฯ จำอวดในสภา หรือนายกฯ ขายฝันเท่านั้น

 

ถามเจ็บตอนปฏิวัติไปมุดหัวอยู่ที่ไหน

 

นายศุภชัยกล่าวว่า ในฐานะคนใกล้ชิดนายเนวินเข้าใจดีว่า ตั้งแต่มีการเปลี่ยนขั้วทางการเมือง นายเนวินและพวกตนก็ถูกพรรคเพื่อไทยและ พ.ต.ท.ทักษิณโจมตีใส่ร้ายป้ายสีมาตลอดว่าทรยศ หักหลัง เนรคุณ พวกเราถูกกระทำมาหลายเดือน จึงมีความจำเป็นต้องนำความจริงเบื้องลึกเบื้องหลังมาชี้แจงให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับทราบ ไม่ใช่การสำคัญตัวเองผิดอย่างที่ถูกกล่าวหา ร.ต.อ. เฉลิมไม่ทราบข้อเท็จจริง เพราะช่วงที่ คมช.ทำการปฏิวัติรัฐประหาร พวกตนและนายเนวินต้องต่อสู้กับ คมช. แต่ไม่รู้ว่าช่วงเวลาดังกล่าว ร.ต.อ.เฉลิมไปหลบหัวอยู่ที่ไหน

 

อ้างตั้ง “ชัย” เพราะหาคนไว้วางใจไม่ได้

 

นายศุภชัยกล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้งว่าผู้ที่ถูกหักหลังจริง ๆ คือนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เพราะในวันนัดลงคะแนนเสียงเลือกนายกฯ วันที่ 12 ก.ย. 2551 เวลา 09.00 น. พวกตนยังได้รับโทรศัพท์จากนายใหญ่ให้สนับสนุนนายสมัครทุกวิถีทาง ในขณะที่ทางลึกกลับมีการประสาน งานกับพรรคร่วมรัฐบาลที่จะไม่เอานายสมัคร อย่างนี้ยังเรียกว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกหักหลังอีกหรือ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยไปกราบไหว้นายสมัครให้มาต่อสู้แทน แต่สุดท้าย นายสมัครก็ถูกทรยศ ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณให้รางวัลนายเนวินด้วยกับผลักดันให้นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่เป็นความจริง เพราะนายชัยได้รับการเสนอชื่อหลังจากที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ถูก กกต.ตัดสิทธิ ทางการเมือง

และการที่ พ.ต.ท.ทักษิณเสนอชื่อนายชัยเพราะหาคนที่ไว้วางใจในพรรคไม่ได้ ประกอบกับต้องการแก้ไขปัญหาภายในพรรคพลังประชาชนขณะนั้นด้วย เนื่องจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตรองประธานสภาฯ อยากจะขึ้นเป็นประธานสภาฯเช่นกัน หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะให้รางวัลนายเนวินจริงๆ ทำไมจึงไม่เสนอชื่อนายชัยเป็นประธานสภาฯตั้งแต่แรก

ปลัดกลาโหมชม “เนวิน” ห่วงชาติ

 

พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ที่ออกมาวิจารณ์ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรว่า ดูจากการสัมภาษณ์นายเนวินห่วงผลประโยชน์ของชาติและประชาชน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม สิ่งที่นายเนวินพูดส่วนหนึ่งที่มองเป็นเรื่องจริงคือ การชุมนุมทุกครั้งแกนนำไม่เคยได้รับบาดเจ็บ ไม่เคยโดนอะไรเลย ไม่ว่าจากการปฏิบัติการของฝ่ายใด แต่ประชาชนรากหญ้าที่มาชุมนุมกลับได้รับผลกระทบมากที่สุด

ยกตัวอย่างในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ชัดเจนมากกับเหตุการณ์ที่เกิดกับกลุ่มเสื้อเหลือง “อยากเตือนประชาชนที่มาร่วมชุมนุมไม่ว่าด้วยอุดมการณ์ หรือความเห็นไม่ตรงกันขอให้ระมัดระวัง ผมห่วงประชาชน เพราะทุกฝ่ายใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการตอบสนองความต้องการตัวเอง ประชาชนอาจได้แสดงออกในสิ่งที่ท่านคิด แต่ท่านอาจไม่ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องชัดเจน จึงเข้าไปเป็นฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ผมยืนยันว่าทุกฝ่ายมีประโยชน์ ซ่อนเร้นของตัวเองทั้งสิ้น”

 

หวั่นม็อบแรงประเทศย่อยยับ

 

ต่อข้อถามว่าแนวทางการเจรจาเป็นไปได้หรือไม่ พล.อ.อภิชาตตอบว่า ทหารไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการ เจรจา เป็นเรื่องการเมืองกับการเมืองที่ต้องเจรจากัน ซึ่งฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณไม่เปิดโอกาสให้เจรจา แม้ฝ่ายรัฐบาลยืนยันว่าพร้อมเจรจา เมื่อถามว่าการเมืองขณะนี้ต่อสู้กันเพื่อให้ย่อยยับตามกันไป พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า เป็นอย่างที่พูด เป็นสิ่งที่เราห่วงใยโดยเฉพาะกลุ่มเสื้อแดงที่พยายามเอาชนะ หรืออย่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าต้องแตกหักให้ได้ ตนมองว่าไม่เห็นประโยชน์ใดที่จะเกิดขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือความย่อยยับของประเทศชาติ ขณะนี้กัมพูชาก็นั่งมองอยู่ เขากำลังหัวเราะด้วยซ้ำว่าบ้านเมืองเราเป็นอย่างนี้เมื่อไหร่จะไปสู้เขาได้   เมื่อไหร่เราจะไปแก้ปัญหาเรื่องพิพาทเขาพระวิหารได้ เรื่องเศรษฐกิจก็เช่นกัน ไม่มีโอกาสฟื้นตัวได้เลย นี่คือสิ่งที่เราห่วงใยและไม่อยากให้เกิดขึ้น

 

จวกยับ “ทักษิณ” ทิฐิสูง

 

เมื่อถามว่า เป็นกรรมของประเทศหรือไม่ที่เลือก พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ พล.อ.อภิชาตตอบว่า เป็นส่วนบังเอิญ อาจเป็นคนมีทิฐิสูง เลยคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ เป็นสิ่งที่ถูกกลั่นแกล้ง แต่อยากให้ มองย้อนกลับไปสมัยเป็นนายกฯว่าได้ทำอะไรลงไป ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากปัจจุบัน แต่สืบเนื่องมาสมัยที่ พ.ต.ท. ทักษิณเป็นนายกฯ ลองย้อนกลับไปดูว่าสิ่งที่ทำไว้สร้างความเป็นธรรมให้กับข้าราชการหรือไม่ พูดเรื่องจัดซื้อยุทโธปกรณ์ของกองทัพว่าทำบนพื้นฐานความจำเป็นเท่านั้น ไม่เห็นต้องมาจัดซื้อมากมาย แต่ช่วงที่อยู่เขาเสนอให้ กองทัพทำเป็นแพ็กเกจ วงเงินก้อนใหญ่ๆลองตอบคำถามตัวเองว่าคิดอะไรอยู่สมัยนั้น มาถึงตอนนี้ก็คิดอีกอย่าง

 

ชี้ถ้าหยุดเคลื่อนไหว-ปัญหาจบ

 

เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะจบลงที่ พ.ต.ท.ทักษิณยุติการเคลื่อนไหวใช่หรือไม่ ปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า คงใช่ หากอยากเห็นบ้านเมืองกลับสู่ภาวะปกติอย่างที่พูดมาตลอด การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ท่านพยายามบอกประชาชนนั้น ถามว่าเกิดขึ้นได้หรือไม่ด้วยคำพูด เชื่อว่าทำไม่ได้ เป็นลักษณะของการป่วนมากกว่าว่า ขณะนี้การปกครองไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยหรือ ขอถามว่าตอนที่เลือกนายกฯแข่งกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เลือกคนจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ก็ไม่ใช่ แต่ไปเลือก พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อแผ่นดิน หากตอนนั้น พล.ต.อ.ประชาเป็นนายกฯ จะตอบคำถามประชาชนได้อย่างไร เขาพูดเอาแต่ได้ เอาประโยชน์ส่วนตัวเป็นหลัก ไม่อยู่บนพื้นฐานความจริง

ระบุไม่เห็นใครมีบารมีหย่าศึกได้

 

เมื่อถามถึงผู้ที่มีบารมีมากกว่า พล.อ.เปรม ติณ สูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่จะมาเป็นตัวกลางเจรจาแก้ปัญหา หมายถึงใคร พล.อ.อภิชาตตอบว่า ไม่ทราบ แต่ไม่เห็นมีใครสามารถเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยได้ เมื่อถามว่า เหนื่อยใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ. อภิชาตกล่าวว่า ยอมรับว่าเหนื่อยใจ เพราะไม่อยากให้ ประเทศชาติต้องมาเสียเวลาเรื่องเหล่านี้ ไม่อยากให้ ประชาชนเข้าใจผิดและสร้างความแตกแยกต่อกัน

 

พท.เย้ย “เนวิน” หลั่งน้ำตาจระเข้

 

ด้านนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ หลั่งน้ำตาเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หยุดเคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนว่า น้ำตาจระเข้ไหลแบบนี้ไม่มีใครเชื่อถือนายเนวินอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะคนเสื้อแดงคำพูดของนายเนวินได้กลายเป็นเชื้อเติมไฟเรียกแขกให้คนเสื้อแดงมาชุมนุมมากขึ้น เพราะไปเพิ่มความโกรธให้พวกเขาที่ไปเนรคุณ พ.ต.ท. ทักษิณ ในที่สุดนายเนวิน และ ส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวินจะไม่สามารถกลับพื้นที่ในจังหวัดภาคอีสานได้

 

นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าที่นายเนวินร้องไห้เป็นเพราะห่วงสถาบันหรือห่วงว่าจะถอนทุนไม่ทันกันแน่

 

แฉมีคลิปนั่งรถไปบ้านสี่เสาฯ

 

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่นายเนวินแถลงข่าวเปิดใจแสดงละครน้ำเน่า บีบน้ำตางูเห่าแล้ว ปรากฏว่ามีประชาชนหมั่นไส้ทั้งนายเนวินและคนที่ออกใบสั่งให้กับนายเนวิน จึงส่งคลิปที่มีรูปนายเนวินและนายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย มาให้กับพรรคเพื่อไทย โดยเป็นรูปขณะที่นายเนวินกำลังขึ้นรถตู้ออกจากพรรคภูมิใจไทยในเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 6 เม.ย. และมีรถมอเตอร์ไซค์ตำรวจนำมุ่งหน้าไปที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ รถนำคันดังกล่าวเคยนำขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ หลังจากที่นายเนวินเข้าไปในบ้านสี่เสาเทเวศร์ประมาณ 1 ชั่วโมงก็ขึ้นรถตู้กลับออกมาเดินทางกลับไปที่พรรคภูมิใจไทย แสดงให้เห็นว่านายเนวินแถลงข่าวตามใบสั่ง ดังนั้นจะนำเรื่องนี้ปรึกษากับผู้ใหญ่ของพรรค หากเห็นว่าเรื่องนี้เป็น ประโยชน์กับบ้านเมือง อาจจะแถลงข่าวในวันที่ 12 เม.ย. โดยนำคลิปดังกล่าวอัดเป็นรูปภาพนิ่ง เพื่อให้สื่อมวลชนเห็นหน้าบุคคลในคลิปดังกล่าวอย่างชัดเจน และเป็นการจับโกหกนายเนวินว่าร้องไห้ตามใบสั่ง

 

ไล่บี้นายกฯยุบสภา

 นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า อยากฝากให้รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติควบคุมสถานการณ์ ดูแลระวังมือที่สามเข้ามาแทรกแซงก่อความรุนแรง เพราะถ้าเกิดเหตุอะไรขึ้นรัฐบาลคงปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ สำหรับปัญหาความขัดแย้งขณะนี้ต้องหาข้อยุติให้กับทุกฝ่าย มันมีวิธีการนิดเดียวถ้ารัฐบาลมีความจริงใจ ไม่เห็นแก่ลาภยศตำแหน่ง ยอมเสียสละเพื่อประเทศชาติด้วยการยุบสภาไปสู่การเลือกตั้งใหม่ เชื่อว่าจะเป็นทางออกที่ดี ทำให้สังคมกลับสู่ความสงบสุข อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี คงไม่ทำ แต่เลือกที่จะอยู่บนตำแหน่งไปนานๆ แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเป็นนายกฯบนซากปรักหักพัง เป็นผู้นำบนความขัดแย้งของคนในชาติ

ดังนั้นอยากให้นายอภิสิทธิ์ทบทวนก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ตอนที่นายอภิสิทธิ์เป็นฝ่ายค้านก็เคยเสนอให้รัฐบาลขณะนั้นลาออก หรือยุบสภา พอมาวันนี้เป็นนายกฯกรรมตามสนอง ท้ายที่สุดก็ไม่ยอมทำตามแนวทางที่เคยพูดไว้