การุณ ปลุกพลังเงียบบุกสภาร่วมเลือกตัวนายกฯ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2549 01:47 น.

การุณ ระบุบทบาท เนวิน โผสวมกอดทักษิณหลังประกาศเว้นวรรคสุดน่ารัก เผย กกต.ดื้อเปิดรับสมัคร ส.ส.ทั้งๆ รู้ว่าผิดกฎหมาย เรียกร้องคนใต้ลุกขึ้นต่อสู้ ระบอบทักษิณ ร่วมโนโหวตเลือกตั้งรอบสอง ปลุกพลังเงียบบุกสภาร่วมเลือกตัวนายกฯ

นายการุณ ใสงาม รักษาการ ส.ว.บุรีรัมย์ กล่าวปราศรัยบนเวที หยุดระบอบทักษิณ ณ สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อเวลา 23.40 น.ที่ผ่านมาว่า ผมเป็นคนบุรีรัมย์ แต่จากภาพที่ผมได้เห็นเนวิน (เนวิน ชิดชอบ) โผเข้าสวมกอด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังจากแถลงข่าวไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นการแสดงบทบาทที่ดี สุดน่ารักมาก

นายการุณ กล่าวต่อว่า วันนี้อยากให้พี่น้องย้อนกลับไปดูผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา มันบ่งบอกให้ทักษิณ (พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร) เห็นว่า คนภาคใต้ไม่เอาระบอบทักษิณ คนภาคใต้จะร่วมโนโหวตในการเลือกตั้งรอบสอง ถึงแม้จะมีความพยายามส่งผู้สมัครลงมาประกบกับผู้สมัครพรรคไทยรักไทยในเขตพื้นที่ต่างๆ แต่ก็เชื่อว่าพี่น้องชาวใต้จะออกมาร่วมกาช่องไม่เลือกใครอีกครั้ง

การที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดให้มีการรับสมัคร ส.ส.ใหม่ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ แต่ กกต.ก็ดื้อทำให้สมประโยชน์กับพรรคไทยรักไทย และพ.ต.ท.ทักษิณ ดังนั้น การเลือกตั้งในวันที่ 23 เมษายน นี้ ขอเรียกร้องให้พี่น้องชาวใต้ลุกขึ้นมาต่อสู้กับอำนาจระบอบทักษิณ โดยใช้อารยะขัดขืน ทำให้พรรคไทยรักไทยได้คะแนนไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

นายการุณ กล่าวอีกว่า ในเมื่อรัฐบาลเล่นคนเดียว วิ่งคนเดียว เราก็ต้องเข้าไปมีส่วนร่วม โดยการเดินเข้าสู่สภาด้วยสิทธิ์ของหนึ่งเสียงที่กาช่องไม่เลือกใคร พี่น้องต้องมีส่วนร่วมในการเลือกคนที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้น ถ้าสภาเปิดเราจะต้องร่วมกันเดินไปที่สภาเพื่อร่วมประชุมและเลือกตัวนายกรัฐมนตรีด้วยสิทธิ์และเสียงของเรา ทำให้สภาเต็มไปด้วยประชาชนที่กาช่องไม่เลือกใคร

นายการุณ ยังตั้งข้อสังเกตทิ้งท้ายอีกว่า การประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้หมายความว่าระบอบทักษิณจะหมดตามไป ที่ผ่านมาระบอบทักษิณสร้างความแตกแยกในสังคมเป็นอย่างมาก ดังนั้น การประกาศลาออกจึงไม่เพียงพอ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องออกมาประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสถานเดียว ทั้งนี้ก็เพื่อขจัดระบอบทักษิณให้ราบคาบ ไม่ให้มีการสืบทอดระบอบกันต่อไปเรื่อยๆ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2549 00:44 น.

วุฒิพงษ์ เข้าคิวถล่ม แม้ว แฉประกาศเว้นวรรคแค่เกม ถ้าจริงใจต้องลาออกตั้งแต่ 2 เดือนก่อน ไม่ต้องยุบสภาเสียเงินเสียเวลาเลือกตั้ง ยันพันธมิตรฯ ไม่หลงกล เดินหน้าขับไล่ ให้ลาออกสถานเดียว

ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผอ.สถาบันสหสวรรษ กล่าวบนเวที หยุดระบอบทักษิณ ที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 5 เม.ย.ว่า การประกาศเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เป็นการเสียสละแต่อย่างใด แต่เป็นเพียงเกมการเมืองเท่านั้น

ที่ผมกล้าพูดเพราะผมรู้จักทักษิณดี ในชีวิตนี้เขาไม่เคยเสียผลประโยชน์ส่วนตัวเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมเลย มีแต่เอาผลประโยชน์ส่วนรวมของพ่อแม่พี่น้องไปใส่กระเป๋าตัวเองทั้งนั้น

ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวต่อว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการจะเว้นวรรคทางการเมืองโดยไม่รับตำแหน่งนายกฯ ด้วยความจริงใจ เขาทำได้ตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนก่อนแล้ว ไม่ต้องมาเสียเวลา และไม่ต้องใช้เงินประชาชนเป็นพันล้านจัดการเลือกตั้งเพื่อฟอกตัวเอง

นี่หรือเสียสละเพื่อส่วนรวม ไม่ใช่แน่ๆ แต่เป็นเกมสลายกำลังของประชาชนเป็นเกมทดสอบการสลายกำลังของพวกเรามากกว่า เขาได้ทดสอบเรา แต่เขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะเราจะทำสิ่งเดิมอีก คือไล่เขาออกไป

ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวต่อว่า การประกาศไม่รับตำแหน่งของ พ.ต.ท.ทักษิณพร้อมกับน้ำตาไหลพราก น่าจะมอบรางวัลดารานำฝ่ายชายยอดเยี่ยมให้ ส่วนรางวัลดาราประกอบฝ่ายชายยอดเยี่ยม คือ นายเนวิน ชิดชอบ ขณะที่ดารานำฝ่ายหญิงก็ให้คุณหญิงพจมาน และคุณหญิงสุดารัตน์ ให้ไปแย่งชิงกันเอง ดังนั้น การประกาศไม่รับตำแหน่งของ พ.ต.ท.ทักษิณทั้งหมด จึงเป็นการแสดงละครทางการเมืองที่น่าจะต้องได้รางวัลเมขลา

ประเด็นต่อมา ดร.วุฒิพงษ์ ได้กล่าวถึงทางออกสำหรับ พ.ต.ท.ทักษิณที่ควรจะเป็นว่า ณ วันนี้ วันที่ 5 เมษายน ก็ยังเหมือนกับ 2 เดือนก่อน นั่นคือต้องออกไปโดยไม่มีเงื่อนไขและออกไปสถานเดียว ไม่ว่าเขาจะพยายามสร้างความไขว้เขวอย่างใด ไม่มีทางทำให้เรามึนงงได้

เขาบอกไม่รับตำแหน่ง แต่จะเอาเดี่ยวมือ 2 ของไทยรักไทยมาเป็น เรายอมได้ไหม เรารับไม่ได้ทั้งนั้น ท้ายสุดมันเป็นการเปลี่ยนละครน้ำเน่า จากเรื่อง ไอ้เหลี่ยมอำมหิต มาเป็น ทายาทอสูร ซึ่งสังคมไทยไม่ได้อะไรเลย

ดร.วุฒิพงษ์ กล่าวอีกว่า จะเห็นว่าหลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณยุบสภาแล้ว จัดให้มีการเลือกตั้งแล้ว มีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ไม่มีเลย นอกจากเสียเงิน 2 พันล้าน และเสียเวลาไปอีก 2 เดือน เป็นการฟอกตัวที่ราคาแพงที่สุด แถมเป็นการใช้เงินประชาชนมาฟอกตัว เพราะฉะนั้น การจัดเลือกตั้งคราวนี้เรายอมรับไม่ได้เด็ดขาด