กองทัพให้ข้อมูลนายกฯ ประเมินเขมรสับเปลี่ยนกำลัง

แหล่งข่าวทางทหาร กล่าวว่า ในที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หน่วยงานด้านการข่าวได้สรุปสถานการณ์ และ ขั้นตอนการปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนของทุกกองกำลัง

พร้อมทั้งมีการประเมินการสับเปลี่ยนกำลังของฝ่ายกัมพูชา โดยฝ่ายทหารย้ำว่า การทำหน้าที่รักษาชายแดน และรักษาความความปลอดภัยของประชาชนนั้น กองทัพมีความพร้อม โดยกองทัพได้ให้ข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบว่า ความสัมพันธ์ทางทหารในพื้นที่ของสองประเทศอยู่ในระดับที่ดี ซึ่งนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าการดำเนินการของรัฐบาลจะเป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติตามหลักสากล และจะไม่ให้ขยายความขัดแย้งออกไป ให้การกระทบกระทั่งที่มีต่อกันอย่าขยายวงออกไป

“ ในอนาคตก็ให้ลดดีกรีไปตามสถานการณ์ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางออกจากกัมพูชาในวันเสาร์นี้แล้ว วันนี้ สมช. ได้สรุปในภาพรวมให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบข้อมูลอย่างรอบด้าน และเตรียมความพร้อมในการไปประชุมที่สิงคโปร์วันที่ 15 พ.ย.นี้ ที่จะพบกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯด้วย”แหล่งข่าวกล่าว

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางทหารได้ให้ความมั่นในศักยภาพที่มีอยู่ในการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน

นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายในการใช้ความรุนแรง และขอให้กองทัพดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งฝ่ายทหารระบุว่า ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเป็นหน้าที่อยู่แล้ว และ ได้เล่าถึงขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ซึ่งเป็นความลับไม่อาจเปิดเผยได้ ซึ่งกองทัพย้ำว่าความสัมพันธ์ทางด้านการทหารระหว่างสองประเทศเป็นไปด้วยดี และ เข้าใจว่าการปฏิบัติของรัฐบาลในการลดระดับด้านการทูตเป็นคนละส่วนกัน ส่วนการยกเลิกเอ็มโอยูเขตทับซ้อนทางทะเลนั้น

นายปณิธาน กล่าวว่า ความจริงมีข้อถกเถียงของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการยกเลิกเอ็มโอยู ฉบับดังกล่าวอยู่แล้ว นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ทางกระทรวงการต่างประเทศไปทำรายงานเพื่อชี้แจงในรายละเอียด ซึ่งมีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย

พร้อมทั้งไปจัดระบบและวางมาตรการรองรับหากมีการยกเลิก เป็นการขอให้กระทรวงการต่างประเทศหาข้อสรุปให้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ครม.จะเห็นชอบเรื่องการยุติการดำเนินการของ เอ็มโอยู ได้มีการปรึกษาหารือฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เห็นสอดคล้องกันให้รัฐบาลเดินหน้า ซึ่งเราได้ประเมินแล้วว่ามีข้อดีมากกว่าข้อเสียอีกทั้ง 8 ปีที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดยต่อไปก็ขึ้นอยู่กับสภาฯ ในการพิจารณาว่าจะยกเลิกหรือไม่.

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์