กลุ่มปชช.ไทยเปิดหลักฐานใหม่ รัฐแจ้งแผนที่ไทย-ฝรั่งเศสโมฆะ

กลุ่มประชาชนชาวไทยฯ เผยหลักฐานรัฐบาลแจ้งแผนที่สยาม-ฝรั่งเศส L7017 โมฆะหลอกลวงคนไทยทั้งชาติ ค้าน“นพดล”กับพวกไปแคนาดา หวั่นมุบมิบรับรองกัมพูชา ไม่เชื่อ“ปองพล” ไปจะได้ผลบวก จี้แจงผลหลังบินกลับ

(4ก.ค.) ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า) กลุ่มประชาชนชาวไทย ผู้เป็นตัวแทนประเทศไทย โดย มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ ผู้อำนวยการสถาบันไทยคีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รศ.ทวีศักดิ์ สูกวาทิน รองอธิบการบดีฝ่ายวางแผน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นายพรเทพ สิมะวานิชกุล นักวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ นายประกาสิทธิ์ แก้วมงคล ผู้ช่วยนักวิจัย สถาบันไทยคดีศึกษา ได้เปิดแถลงข่าว“การขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก”


มล.วัลย์วิภา กล่าวว่า รัฐบาลโกหกประชาชนมาตลอด ไม่เคยให้ข้อมูลที่เท็จจริง ถามว่าเขารู้หรือเปล่ารู้ข้าราชการประจำเองก็เหมือนกันทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของบุคคลไม่ได้ปกป้องประเทศ และตลอดเวลาพยายามทำให้ข้อมูลที่แท้จริงถูกบิดเบือน ข่มขู่กีดกัน ทำให้สังคมเข้าใจผิด พยามยามทำให้คนที่ปกป้องประเทศกลายเป็นครนผิด โดยการสร้างวาทะกรรมคลั่งชาติ

“วันนี้เรามีข้อมูลเด็ดแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ไม่ควรอย่างยิ่งของรัฐบาล โดยมีหนังสือ ด่วนที่สุดที่ กต.0803/453 เรื่องผลการดำเนินการเจรจาของกระทรวงต่างประเทศกรณีกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกโดยข้อที่ 2 มีการนำเสนอสำเนาแผนที่คณะกรรมการปักปันสยามฝรั่งเศสเปรียบเทียบกับแผนที่ L7017 ทั้งที่แผนที่ฉบับดังกล่าวเป็นโมฆะเหตุผลเพราะว่าฝรั่งเศสทำฝ่ายเดียว จึงเป็นการหลอกลวงคนทั้งประเทศ กล้าทำกันถึงขนาดนี้ดังนั้นในวันที่ 5 ก.ค.ที่นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศและพวก จะเดินทางไปชี้แจงและเสนอเพิกถอนการสนับสนุนกัมพูชาในการขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกต่อที่ประชุม UNESCO นั้นพวกเราไม่อาจไว้วางใจได้เลย และเห็นว่านายนพดล กับพวกนั้นไม่สมควรไปอย่างยิ่ง เพราะกลัวว่าจะไปเพื่อเป็นการแสตมป์ในเชิงยอมรับ สวนกรณีของคุณปองพล อดิเรกสาร เราก็ไม่แน่ใจว่าผลออกมาจะเป็นบวกหรือลบ ” มล.วัลย์วิภา กล่าว

นายประกาสิทธิ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลไทยไปลงนามในแถลงการณ์ร่วม( Joint CommuniQue ) นั้นทำให้ไทยต้องสูญเสียพื้นที่ 30 เมตรบริเวณรอบพระวิหารรวมทั้งหมด 1 : 4 ตารางกิโลเมตร และจะเสียพื้นที่อนุรักษ์รอบนอกตัวประสาท ประมาณ 2,000 ไร่ เนื่องจากในขณะนี้ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวทางกัมพูชาได้สร้างหลักฐานไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่ว่าเป็นจะร้านค้าในตลาดกว่า 1,000 ร้านค้า วัด รวมถึงมีการตัดถนนสัญจรไปมา เป็นต้น นอกจากนี้ไทยยังจะเสียพท้นที่ในบริเวณอ่าวไทยในฝั่งเกาะกูดกินพื้นที่กว่า 2,600 ตารางไมล์ ดังนั้นรัฐบาลต้องยกเลิกแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว ซึ่งต้องให้ทางกัมพูชารับรู้ด้วย ซึ่งหากยกเลิกไม่ได้ขอให้รัฐบาลใหม่เข้ามาดำเนินการแทน ไม่ควรปล่อยให้เนิ่นนานเพราะจะทำให้ไทยเสียทั้งดินแดนและอธิปไตยอย่างมหาศาล

ด้านนายพรเทพ กล่าวว่า การลงนามคำแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวไม่ได้มีการชี้แจงและเสนอกรอบเจรจาต่อรัฐสภาและรับความเห็นชอบจากสภา และไม่ได้ให้ข้อมูลและจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนก่อนเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 อย่างชัดแจ้ง และการที่นายนพดล ไปลงนามนั้นมีเหตุจูงใจมาจากการที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลของกัมพูชาเสนอให้ผลประโยชน์เกี่ยวกับสัมปทานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและการลงทุนเปิดบ่อนคาสิโนในเกาะกง ให้แก่อดีตนายกรัฐบมนตรีไทยอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นพฤติกรรมของานพดล จึงถือว่าเป็นการประพฤติมิชอบ( Corruption ) ทั้งนี้ถือว่าคำแถลงการณ์ร่วมไม่สมบูรณ์เป็นโมฆะ ไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย อันเนื่องมาจากกการกระทำของกัมพูชา แต่ทั้งนี้นายนพดลและพวกพ้องต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างร้ายแรง อย่างไรก็ตามขอเรียกร้องให้นายนพดล เปิดเผยข้อเท็จจริงในการยกเลิกแถลงการณ์ร่วมในที่ประชุม UNESCO ให้สาธารณะชนรับทราบอย่างเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว รศ.ทวีศักดิ์ ได้มีการแสดงเอกสารด่วนที่สุด ที่ กต. 0803/453 โดยนายทวีศักดิ์ ระบุว่าหนังสือฉบับดังกล่าวกระทรวงต่างประเทศ โดยนายกฤต ไกรจิตติ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงต่างประเทศ ได้ลงนาม เรียนไปยังสำนักราชเลขาธิการ ชี้แจงผลการดำเนินการและเจรจาของกระทรวงต่างประเทศกรณีกัมพูชาขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการแสดงและแนบสำเนาแผนที่คณะกรรมการปักปันสยามฝรั่งเศสเปรียบเทียบกับแผนที่ L7017 เพราะ แผนที่ดังกล่าวเป็นแผนที่โมฆะ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์