กปปส.ซัดรัฐบาล-ตำรวจ สร้างความรุนแรง หวังงัด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่การชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข(กปปส.) เวทีแยกปทุมวัน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. แถลงว่า ขณะนี้ชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลกำลังเข้าตาจน เพราะไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การชุมนุมของประชาชนได้ กปปส.ตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์รุนแรงทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพื่อจะประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาปราบปรามการชุมนุม

โดยมีการทำเป็นกระบวนการคือ 1.รัฐบาลว่าจ้างอันธพาลเข้ามาสร้างสถานการณ์ความรุนแรงต่างๆ  ทั้งที่เกิดขึ้นที่ถนนบรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 2.เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐใส่เกียร์ว่าง ไม่สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้ และ 3.รัฐบาลพยายามโยนบาปให้กลุ่มผู้ชุมนุม โดยทำเป็นขบวนการ เพราะจากกรณีเหตุระเบิดที่ถนนบรรทัดทอง และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีการปั้นหลักฐานผ่านในไลน์ของตำรวจเพื่อใส่ร้ายผู้ชุมนุมทันที ทั้งที่ยังไม่มีการตรวจสอบข้อมูล หลักฐาน

นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่าการที่นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ และพล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.

ออกมาแถลงข่าวใส่ร้ายผู้ชุมนุม มีการเอาคลิปเหตุการณ์ระเบิดที่ถนนบรรทัดทองมาปั้นข้อมูล ทั้งที่คลิปดังกล่าวไม่ได้ทำให้เห็นชัดเจนเลยว่าระเบิดมาจากที่ใด และ กปปส.ได้ยืนยันแล้วโดยนำพยานที่เป็นคนขับรถและคนที่อยู่บนรถมายืนยันว่าไม่ได้เป็นคนโยนระเบิดลงมาจากรถตามที่ถูกกล่าวหา และการเดินหาสิ่งของหลังเกิดเหตุก็เป็นการหาสลักระเบิด เพื่อนำไปเป็นหลักฐานซึ่งไม่มีอะไรผิดสังเกต นอกจากนั้น การ์ดของ กปปส.ได้จับตัวผู้ที่เข้ามาสร้างสถานการณ์ที่เวทีปทุมวันได้ 2 คน ซึ่งได้รับสารภาพว่าถูกว่าจ้างมาสร้างสถานการณ์ โดยมีเป้าหมายปฏิบัติการที่หัวหน้าการ์ด ไม่ใช่ระดับแกนนำ ซึ่งจากการตรวจค้นพบข้อมูลและรูปของหัวหน้าการ์ดด้วย ทั้งที่ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่หาได้ยาก ซึ่งต้องเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และหน่วยงานความมั่นคงเท่านั้นที่จะหาข้อมูลนี้ได้

นายเอกนัฏ กล่าวอีกว่า ขณะนี้องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือฮิวแมนไรท์วอทซ์ จะเข้าสังเกตุการณ์การชุมนุมของ กปปส. และร่วมหารือ

เพราะมีความเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวัน เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และตำรวจไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนได้ ทั้งนี้แกนนำ กปปส.ได้มีการหารือกันในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยโดยการปรับเปลี่ยนมาตรการดูแลความปลอดภัยนั้นจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแกนนำแต่ละเวที ส่วนการดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น ขอให้ตั้งด่านตรวจนอกพื้นที่ชุมนุม และแต่งเครื่องแบบให้เห็นได้ชัด เนื่องจากการตั้งด่านตรวจร่วมกันระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจก็ไม่สามารถป้องกันเหตุรุนแรงได้อย่างกรณีที่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ดังนั้นหากตำรวจมีความจริงใจควรเร่งหาตัวคนกระทำผิดและเลิกแถลงข่าวใส่ร้ายผู้ชุมนุม

 โฆษก กปปส. ยังชี้แจงถึงการที่ กปปส.ต้องปิดธนาคารออมสินสาขาใหญ่

เพราะรัฐบาลกำลังจะเอาเงินจากธนาคารออมสินไปขัดตาทัพเรื่องปัญหาโครงการจำนำข้าวที่ตอนนี้ไม่มีเงินจ่ายให้กับชาวนา ทั้งที่ต้นเหตุมาจากรัฐบาลที่ทำนโยบายที่ไม่สามารถทำได้ และไม่สามารถระบายข้าวเพื่อนำเงินมาจ่ายให้กับชาวนาได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นปัญหาที่รัฐบาลเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่า กปปส.จะไม่ปิดธนาคารอื่น จะปิดเพียงธนาคารออมสินเท่านั้น เพื่อป้องกันรัฐบาลเอาเงินจากธนาคารออมสินไปจ่ายในปัญหาที่รัฐบาลสร้างขึ้น.