กกต.เปรียบการเมืองไทยเหมือนพม่า

นายสมชัย จึงประเสริฐ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ได้เป็นประธานเปิดการประชุมการฝึกอบรมพนักงานสืบสวนสอบสวน ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. รุ่นที่ 1 โดยมีตัวแทนพนักงานสืบสวนสอบสวน กกต.จังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด เข้าร่วมการประชุม โดยนายสมชัยกล่าวตอนหนึ่งว่า ขณะนี้บ้านเมืองเราเสียโอกาสในการเป็นแนวหน้าทางการเมือง ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคมากว่า 1 ปีเศษ ประเทศเกิดความสับสนแตกแยก ประชาชนไม่มั่นใจการเมือง ต่างชาติถอนการลงทุน แม้ก่อนหน้านี้ประเทศจะอยู่ในระดับต้นๆ ของภูมิภาค แต่ตอนนี้ประเทศเราอยู่ ระดับเดียวกับประเทศพม่า การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนถ่าย จากการยึดอำนาจมาสู่ประชาธิปไตย ทำให้ ทุกฝ่ายจับตามองว่า กกต.จะสามารถจัดการเลือกตั้งให้ สุจริตและเที่ยงธรรมได้หรือไม่

วอนทุกฝ่ายร่วมชี้ชะตาอนาคตชาติ

“ดังนั้น อนาคตประเทศจึงอยู่ที่การสืบสวนสอบสวน กรองคนดีเข้าสภา พนักงานสืบสวนต้องวางตัวเป็นกลาง รู้กฎระเบียบให้ถูกต้องแม่นยำ น่าเชื่อถือเพื่อป้องกันการถูกร้องเรียนว่าไม่เป็นกลาง การเลือกตั้งถือเป็นการชี้อนาคตของประเทศ อยากให้ทุกฝ่ายเกิดความภาคภูมิใจว่าเป็นส่วนหนึ่งของการถ่ายโอนอำนาจให้ ประเทศไปสู่ประชาธิปไตย หากถ่ายโอนได้สำเร็จก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ และทุกฝ่ายควรทำงานให้ดีที่สุดให้ประเทศมีประชาธิปไตยที่ทั่วโลกยอมรับ ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวกังวลว่าหลังการเลือกตั้ง กกต.จะสามารถปักธงให้เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายได้หรือไม่ ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องตั้งใจให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ ให้ประชาธิปไตยของไทยเป็นที่ยอมรับ” นายสมชัยกล่าว

สรุปซื้อเสียงโคราชภายในสัปดาห์นี้

นายสมชัยกล่าวการจับกุมนายตี๋ แซ่เหล็ก ที่อ.พระทองคำ จ.นครราชสีมา พร้อมเงินสดเย็บติดกับรายชื่อชาวบ้าน และรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชาชน เขต 3 จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมานี้ ว่า กกต.ได้ตั้งคณะกรรมการฝ่ายสืบสวนสอบสวนจากส่วนกลาง ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นการกระทำนั้นเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า กกต.จังหวัดนครราชสีมาได้สรุปสำนวนเสนอมายัง กกต.กลางแล้วนั้น เป็นเพียงการรายงานความคืบหน้ามาให้ทราบเท่านั้น โดย ข้อเท็จจริงยังอยู่ระหว่างสืบพยานหลักฐานแวดล้อมต่างๆให้แน่ชัด ทั้งนี้ คาดว่าไม่เกินสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน หากตรวจสอบพบว่ามีความผิดจริง และเป็นการกระทำเพื่อทุจริตเลือกตั้ง ก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ก็จะเป็นอำนาจของ กกต.ที่จะพิจารณาให้ใบแดงใบเหลือง แต่หากข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าเป็นการกระทำในเรื่องการทุจริตการเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องพิจารณาว่าเป็นความผิดในทางอาญาหรือไม่ ต้องรอผลสรุปที่แน่ชัดอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งคณะกรรมการฯลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเนื่องจากหลักฐานมีมูลใช่หรือไม่ นายสมชัยตอบว่า คงไม่ใช่เช่นนั้น การตั้งกรรมการฯขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่ามีการกระทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรมหรือไม่ ถ้าพบว่ามีผิดจริง แม้ไม่มีความผิดทางอาญา แต่หากมีพฤติการณ์บ่งชี้ว่ามีการกระทำเพื่อให้การ เลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ กกต.ก็พิจารณาให้ใบแดงใบเหลืองได้ “พฤติการณ์จะชี้ชัดจนถึงใบแดงใบเหลืองหรือไม่ ผมก็ยังบอกตอนนี้ไม่ได้ ต้องรอผลการสอบสวนก่อน เพราะต่างฝ่ายก็ต่างพูด เราจึงต้องให้ความเป็นธรรม ต้องรอบคอบ กฎหมายฉบับนี้กำหนดความผิดชัดเจน หากพบว่ามีการกระทำเพื่อซื้อเสียงจริง ความผิดก็ถึงขั้นยุบพรรค เราต้องให้ความเป็นธรรมกับพรรคการเมืองด้วย จะฟังข้อมูลเพียงแค่ว่าหมายเลขในแบงก์เรียงกันนั้น ก็ยังไม่เพียงพอ ต้องรอการสอบสวนให้สิ้นกระแสความก่อนว่ามีพยานหลักฐานที่จะบ่งชี้ไปทางหนึ่งทางใดหรือไม่ ผมไม่อยากพูดมากในตอนนี้ เพราะจะกลายเป็นการชี้นำ” นายสมชัยกล่าว

ทำตรงไปตรงมาไม่เชือดไก่ให้ลิงดู

เมื่อถามว่ากรณีนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างที่ กกต.จะเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายสมชัยตอบว่า เราคงไม่มีอาชีพขายไก่ คงไม่ต้องเชือดไก่ให้ลิงดู เราทำงานอย่างตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าผิด ต้องดูตามกฎหมายเป็นหลัก เราไม่ทำตัวเป็นพ่อค้าว่าจะเชือดไก่หรือเลี้ยงลิง เราตรงไปตรงมา สำหรับกรณีที่พบว่ามีหัวคะแนนใน จ.สระแก้ว เก็บบัตรประชาชนชาวบ้านเพื่อแลกกับเงินนั้น เรื่องนี้ในวันอังคารที่ 27 พ.ย. เจ้าหน้าที่ฝ่ายการข่าวสืบสวนสอบสวนของ กกต.จะแถลงชี้แจงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง ตอนนี้ขอให้อดใจรอไว้ก่อน ให้เราได้วิเคราะห์และประมวลผลอีกครั้ง

แนะผู้สมัครตกม้าร้องศาลใน 7 วัน

นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต. กล่าวถึงกรณีที่ทางกกต.ยังไม่สามารถประกาศรับรองผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตได้ครบว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ ผอ.กต.เขตทั้ง 157 เขต ที่เป็นผู้พิจารณาว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นผู้สมัครหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ถูกตัดสิทธิก็สามารถยื่นร้องต่อศาลฎีกาได้ภายใน 7 วัน เพื่อให้ กกต.ประกาศ ขณะนี้รายชื่อที่ ผอ.กต.เขตกำลังทยอยส่งกลับมายังส่วนกลางยังไม่หมด สำหรับผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วนที่ กกต.ไม่ประกาศให้เป็นผู้สมัคร และมีข้อโต้แย้งก็ไปชี้แจงต่อศาล เพื่อให้ศาลสั่ง กกต.รับเป็นผู้สมัครได้

เตรียมพร้อมรับคนแห่ใช้สิทธิ์ล่วงหน้า

นายประพันธ์ยังกล่าวถึงยอดผู้ลงทะเบียนนอกเขตจังหวัด ที่ขณะนี้มีจำนวนมากถึง 2,090,369 คน ว่า ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงมากกว่าปีที่ผ่านๆมา และมากกว่าการเลือกตั้งปี 2548 ถึง 5 เท่า ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ประชาชนให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไร ก็ตาม หลังจากนี้จะเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ให้มากขึ้น เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจและไม่สับสนต่อวิธีการและขั้นตอนในการลงคะแนนทั้ง ส.ส.สัดส่วนและ ส.ส.เขต คิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และการที่ประชาชนมาลงทะเบียนถึง 2 ล้านกว่าคนนั้น ก็ถือว่าเป็นตัวเลขสูง จึงมอบนโยบายให้ไปดูว่าจังหวัดหรือเขตใดที่มีประชาชนมาลงทะเบียนเกิน 1 หมื่นคน ก็ให้เตรียมแผนการปฏิบัติการให้ดี และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย