กกต.สั่งเช็คข่าวนักการเมืองวิ่งเต้น 10 ล. -ก่อนฟ้องกลับ

กกต.สั่งเช็คข่าวนักการเมืองวิ่งเต้น 10 ล. -ก่อนฟ้องกลับ

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 1 มกราคม 2550 17:39 น.

อภิชาต โวยถูกการเมืองกลั่นแกล้ง ป้ายสีรับเงิน 10 ล้าน ช่วยเหลือผู้สมัครท้องถิ่น สั่งสอบต้นตอหลังพบบัตรสนเท่ห์ เตรียมฟ้องกลับหากมีหลักฐานชัดเจน เปรยหลังปีใหม่จะจัดสถานที่ให้โปร่งใสไว้พบผู้มาติดต่อ เพื่อขจัดข้อครหา

วันนี้ (1 ม.ค.) นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) กล่าวยอมรับว่า ขณะนี้มีความพยายามของนักการเมืองทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่นต่าง ๆ ได้เข้าพบเพื่อขอให้ช่วยเหลือผู้สมัครท้องถิ่น และเมื่อไม่นานมานี้ ได้เจอด้วยตัวเอง มีการเขียนบัตรสนเท่ห์ กล่าวหาตนช่วยเหลือผู้สมัครท้องถิ่นคนหนึ่งให้ได้รับการเลือกตั้ง และได้รับเงิน 10 ล้านบาท โดยส่งถึง กกต.ทั้ง 4 คน และเลขาธิการ กกต. แต่ไม่ส่งถึงตน เมื่ออ่านแล้วเห็นว่าจะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะได้ยินข่าวมาหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้มีการเขียนโยงใยถึงบุคคลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน และมีที่อยู่ที่น่าจะสืบได้เป็นการกระทำของใคร

ผมอ่านบัตรสนเท่ห์แล้วก็คิดว่าจะฟ้อง เพราะไม่เป็นความจริงเลย

และสร้างความเสียหาย และความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียง วงค์ตระกูล ให้กับผมอย่างมาก เพราะพวกผม 5 คน พยายามประกาศเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต แล้วยังมีการนำชื่อไปแอบอ้างอย่างนี้ หากเสียหายผมคงต้องฟ้องคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานอยู่ ดูว่ามีหลักฐานสามารถฟ้องร้องดำเนินคดีได้หรือไม่ จะได้ฟ้องให้เป็นตัวอย่าง เพราะไม่เช่นนั้นผมก็จะถูกกล่าวหาไปเรื่อย ๆ คนที่ไม่รู้ว่าตัวผมเป็นอย่างไร ก็อาจจะเชื่อใบปลิวหรือบัตรสนเท่ห์ก็ได้ นายอภิชาต กล่าว

ประธาน กกต. กล่าวว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งจนถึงขณะนี้

มีนักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติเข้าพบเป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้พูดอะไร ก็มีการนำไปพูดเป็นเรื่องเป็นราวว่าได้เข้าพบแล้วอย่างนั้นอย่างนี้ บางคนต่อสายโทรศัพท์หาผู้ใหญ่ที่เป็นนักการเมือง ซึ่งตนรู้จักดี แต่ปฏิเสธไม่ขอพูดสายด้วย เพราะไม่ใช่หน้าที่ ที่จะต้องไปคุยด้วย

ปีใหม่นี้ถ้าห้องผมมีการเปลี่ยนแปลงไปก็ไม่ต้องสงสัย

เพราะว่าผมได้บอกเจ้าหน้าที่แล้วว่า จะจัดสถานที่ภายในบริเวณห้องใหม่ โดยจะไม่มีห้องรับแขกแล้ว และเวลาจะคุยกับใคร จะต้องมีประจักษ์พยานรับรู้ คือหากมีการพูดคุยกันก็ต้องคุยกันหลาย ๆ คน ไม่มีอะไรเป็นความลับ เพราะถ้าเป็นความลับหรือไปคุยกันในห้องส่วนตัว จะถูกกล่าวหาอีกว่ามีการตกลงอะไรกัน คิดแล้วไม่ต้องมีห้องรับแขกจะเป็นการดี และหากมีใครพูดว่าไปพบผมที่ไหน หรือมีผลประโยชน์อะไร ก็ให้เอาหลักฐานและรูปถ่าย วิดีโอมายืนยันเลย เพราะสมัยนี้เครื่องมือทันสมัย ถ้าเห็นก็ถ่ายมาเลย ไม่อย่างนั้นผมฟ้องแน่ นายอภิชาต กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์