´อภิสิทธิ์´ แนะรัฐอิง WTO ต่อสู้สหรัฐฯ

กรณีที่ผู้แทนการค้า สหรัฐฯปรับเปลี่ยนสถานะของไทยจากประเทศที่ต้องจับตาเป็นประเทศที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ

โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของไทย โดยเฉพาะกรณีที่รัฐบาลประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา(ซีแอล)

ซึ่งมีข่าวว่าบริษัทล็อบบี้ยิสต์อยู่เบื้องหลังที่เป็นบริษัทที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวข้อง ว่า ในส่วนนโยบายของเราและต้องการรักษาผลประโยชน์ของเรา

ก็จะต้องอ้างอิงเรื่องขององค์การการค้าโลก(ดับเบิ้ลยูทีโอ)ไว้ เพราะถ้าการใช้สิทธิ์ของเราสอดคล้องกับแนวทางที่กำหนดโดยดับเบิ้ลยูทีโอ ก็จะเห็นได้ชัดว่าการหยิบยกเรื่องนี้มาตอบโต้เรานั้น เป็นเรื่องที่ไม่ชอบ ซึ่งจะช่วยในการต่อสู้ได้มาก

จากการติดตามสื่อต่างประเทศค่อนข้างมาก ตนเห็นว่ามีขบวนการผิดปกติ แม้กระทั่งการต่อสู้ของบริษัทยาก็เกินเลยไปถึงประเด็นอื่นๆซึ่งเป็นเรื่องการเมือง

รัฐบาลจึงต้องติดตามตรงนี้อย่างเข้มข้นว่าขบวนการที่เคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร เพราะขบวนการนี้ทำลายผลประโยชน์ของชาติ และส่งผลกระทบมาถึงสถาบันหลักของชาติด้วย

นอกจากนี้ รัฐบาลจะต้องพูดคุยกับรัฐบาลของประเทศต่างๆ โดยน่าจะเชิญเอกอัครราชทูตต่างประเทศในไทยมาหารือ ว่ามีขบวนการลักษณะนี้ที่มีเป้าหมายเรื่องการเมืองภายในประเทศอย่างชัดเจน ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

จึงไม่ควรปล่อยให้ทำกันตามใจชอบอ้างว่าเป็นเรื่องของเอกชนกับเอกชน

สร้างความแตกแยก ความเกลียดชัง หรือไปแทรกแซงการเมืองภายในประเทศ เขาก็ไม่ให้ทำ

ฉะนั้น ต้องปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน รัฐบาลของต่างประเทศจะนิ่งนอนใจแล้วพยายามลอยตัวอยู่เหนือปัญหา คงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการเคลื่อนไหวแล้วมาอ้างนำมาสู่การตอบโต้ทางเศรษฐกิจด้วย

ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่เรื่องที่จะประนีประนอมในบางเรื่อง ส่วนการเจรจาทางการค้า ก็ต้องว่าไปตามกติกา ถ้าเราทำถูกต้องตามกฎของดับเบิลยูทีโอ ก็ไม่มีใครที่จะมีความชอบธรรมมาตอบโต้เรา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ต่อข้อถามที่ว่ามีการวิเคราะห์หรือไม่ว่ามีการรุกคืบเพื่อรองรับ หากพรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรคหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ผู้สูญเสียอำนาจเขาดิ้นรนอยู่แล้ว

แต่หลายคนไม่คาดคิดว่าจะดิ้นรนถึงขั้นทำให้ประเทศชาติเสียหาย จึงต้องเอาข้อเท็จจริงออกมาให้ได้

ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์