´สุรพงษ์´แจง´ผู้มีบารมี´แค่สามัญชนไม่ใช่´ป๋าเปรม´

กรุงเทพธุรกิจ

5 กรกฎาคม 2549 17:39 น.
´หมอสุรพงษ์´แจงผู้มีบารมีแค่´สามัญชน´ ไม่หมายถึง´ป๋าเปรม´ หรือโยงสถาบันเบื้องสูง อ้าง´ทักษิณ´พูดเพื่อเตือนข้าราชการ และป้องกันถ้าเกิดขึ้นจริง ติง´มีชัย´ อ้างถึงมาตรา 8 ต้องระวังเรื่องความสมควร

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงบทความวิจารณ์ของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานวุฒิสมาชิกว่า ด้วยความเคารพข้อเสนอแนะของนายมีชัย และเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะได้พูดถึงประเด็นนี้ให้ชัดเจนเพิ่มเติม

ตนอยากเรียนว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการ นายกรัฐมนตรี พูดในที่ประชุมอธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น แก่นของเนื้อหาที่นายกฯ พูดคือ ต้องการให้ทุกคนในสังคม โดยเฉพาะข้าราชการได้ปฏิบัติหน้าที่ ในความรับผิดชอบให้ดีที่สุด รู้จักหน้าที่ของตนเอง เคารพกติกาของบ้านเมือง กติกาประชาธิปไตย ซึ่งมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

"ดังนั้นหากมีอะไรที่มาทำให้เกิดการทำงานที่อยู่นอกเหนือกติกาสังคม กติกาที่ระบุในรัฐธรรมนูญ ก็ต้องละเว้นไม่ทำตามนั้น เพราะนั่นคือแก่นที่นายกฯต้องการให้ข้าราชการยึดมั่นไว้"

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าหมายถึงระดับสามัญชนธรรมดาใช่หรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ที่นายกฯ พูดวันนั้น หมายถึงสามัญชน จะเป็นคน หรือกลุ่มคน ซึ่งอาจจะเป็นผู้มีบารมีทางด้านสังคม ทางด้านการเมือง หรืออาจจะเป็นผู้มีบารมีทางด้านการเงิน ซึ่งเข้ามามีบทบาทในช่วงวิกฤติที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า นายมีชัย ระบุว่า สังคมกำลังเคลือบแคลงสิ่งที่นายกฯพูด จึงเรียกร้องให้ออกมาพูดให้ชัดเจน เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของนายกฯ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า นายกฯพูดชัดเจนอยู่แล้วว่า มีความพยามของคน หรือกลุ่มคน ที่ต้องการละเมิดกติกาที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญ และคนหรือกลุ่มคนนั้นก็คือสามัญชน

แต่ในขณะนี้ อาจจะยังไม่สามารถมีหลักฐานบ่งบอกออกมาได้เป็นตัวตนชัดเจน ดังนั้นการจะไประบุว่าเป็นใคร ก็จะนอกเหนือจากการที่หลักฐานยึดโยงไปถึงได้ นายกฯจึงได้เรียนต่ออธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปว่าขอให้ระวังพฤติการณ์ เพื่อไม่ให้พฤติการณ์เหล่านี้เข้ามามีบทบาทในการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ

ต่อข้อถามว่า จะกลายเป็นว่าไม่เป็นธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพราะระดับผู้นำก็ไม่มีหลักฐานที่จะยึดโยงไปถึงได้ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เมื่อมีพฤติการณ์ที่เราระแวดระวัง ว่าอาจจะเกิดปัญหา ก็เหมือนกรณีอื่นๆ อาทิ เรื่องความมั่นคง การสอบสวน สืบสวน ในเรื่องต่างๆเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเตือนฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ระมัดระวัง ดังนั้นการเตือนผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องการเตือน แต่การจะดำเนินการอย่างไร จะต้องมีพยานแวดล้อมที่ชัดเจน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการกล่าวหาปรักปรำไปได้ สิ่งที่นายกฯต้องการ เพื่อไม่ให้เกิดการลุกลามของปัญหามากขึ้นกว่านี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยังไม่มีความชัดเจนจากนายกฯ อาจจะมีการเคลื่อนไหวต่างๆ วุ่นวายอีกครั้ง น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ความชัดเจนมีอยู่แล้ว อย่างที่เรียนแล้วว่า มีความพยามของคน หรือกลุ่มคน เช่น กรณีเทียบเคียงที่มีการวางระเบิดที่นั่นที่นี่ ก็เป็นความพยามของคน หรือกลุ่มคนที่ต้องการให้เกิด ความไม่สงบ ดังนั้นเราจึงต้องบอกไปว่าต้องพยามป้องกันไม่ให้เกิดการวางระเบิด พยามใช้วิธีการต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการก่อกวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.พ.สุรพงษ์ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ในประเด็นที่นายมีชัยกล่าวหา นายกฯกำลังละเมิดรัฐธรรมนูญมาตรา 8 ว่าใครที่จะพูดเรื่องมาตรา 8 นั้น ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าเป็นสิ่งที่สมควรกระทำหรือไม่ รวมทั้งการระบุว่านายกฯพูดถึงประชาธิปไตย แต่ไม่ได้พูดว่าประเทศไทยปกครองโดยระบบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขนั้น

ขอยืนยันว่ารัฐบาลมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดของประเทศ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ วันนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆว่า รัฐบาลไม่จงรักภักดี เพราะรัฐบาลทิดทูนสถาบันเหนือสิ่งอื่นใด แต่ปัญหาที่กำลังเผชิญในช่วงนี้

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์