´สพรั่ง´การันตี ไม่มีปฏิวัติซ้อน

"เตรียมจัดองค์กรถ่ายทอดการทำงานให้ ปชช.รับรู้"


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. กล่าวถึงกรณีที่นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์ประชาธิปไตย (ครป.) ต้องการให้ คมช. เร่งการประชาสัมพันธ์ผลงาน และสื่อสารกับประชาชนถึงการทำงานมากขึ้นว่า ขณะนี้ คมช.ได้แก้ไขแล้ว เรากำลังจัดตั้งองค์กรในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ซึ่งคนไทยใจร้อน เมื่อถามว่า รูปแบบองค์กรใหม่จะเป็นอย่างไร

พล.อ.สนธิตอบว่า เราจะจัดเป็นองค์กรที่สามารถถ่ายทอดการทำงานของเราให้ประชาชนได้รับทราบทั้งประเทศ เมื่อถามว่า ท่านมีกำหนดเดินทางไปเยือนปากีสถาน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางทหาร ระหว่างวันที่ 20-23 พ.ย.นี้ ในห้วง 3 วันที่อยู่ต่างประเทศ มีความเป็นห่วงว่าจะมีการปฏิวัติซ้อนหรือไม่ พล.อ.สนธิปฏิเสธตอบคำถามพร้อมกับหัวเราะ ก่อนจะเดินเลี่ยงผู้สื่อข่าว เพื่อขึ้นไปปฏิบัติภารกิจในสำนักงาน ผบ.ทบ.

ตีปี๊บ 4 ประเด็นหลักทำรัฐประหาร


พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการ คมช. กล่าวว่า คมช.จะเดินหน้าทำงานแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองอย่างเต็มที่ ตามที่ได้มีการปฏิรูปการปกครอง โดยเฉพาะใน 4 ประเด็นหลัก ขณะนี้ อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่ง คมช.จะไปเร่งรัดการทำงานคงไม่ได้ จะต้องค่อยๆตรวจสอบไป

คมช.ไม่ได้ซื้อเวลาในการแก้ไขปัญหา แต่การทำงานจะต้องใช้ระยะเวลา การแก้ไขปัญหาจะใช้อคติ หรือความสะใจคงไม่ได้ การที่จะไปข่มขู่หรือจับกุมใคร หรือไปใช้วิธีไม่ถูกต้องกับข้าราชการสถาบันต่างๆ โดยที่ไม่มีความผิด ไม่ใช่พวกเรา คมช.จะใช้วิธีที่ถูกต้องและเป็นธรรม แต่อยากให้สื่อมวลชนเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา อย่าเสนอข่าวด้วยความสะใจ ทำให้สังคมคล้อยตาม เพราะอาจทำให้บ้านเมืองเสียหาย และสื่อมวลชนก็จะมีผลกระทบเสียหายไปด้วย พล.อ.สพรั่งกล่าว

เปรียบ ทักษิณ เป็นพวกโจรบัณฑิต


เมื่อถามถึงกระแสข่าวความขัดแย้งกับ พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร. พล.อ.สพรั่งตอบว่า ใน คมช.พี่น้องกันทั้งนั้น ไม่มีความขัดแย้ง แม้การเสนอความเห็นบางเรื่องอาจไม่ตรงกัน แต่เรามีเหตุผลอยู่ที่การดำเนินการให้ทุกอย่างเรียบร้อย เมื่อถามว่าหมายถึงเรื่องการดำเนิน คดีต่างๆ ที่ คมช.ให้ตำรวจดำเนินการ แต่ไม่คืบหน้าใช่หรือไม่ พล.อ.สพรั่งตอบว่า คงไม่ต้องบอกก็น่าจะรู้หมายถึงเรื่องใดบ้าง รุ่นพี่ใน คมช.ต้องการให้ค่อยเป็นค่อยไป แต่ผมต้องการความฉับไว ความกระฉับกระเฉงบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นไม่กินเส้น

หรือเป็นเกาเหลากัน เมื่อถามว่าประชาชนเรียกร้องให้ คมช.ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ. สพรั่งตอบว่า การตัดสินคงจะขึ้นอยู่กับกรรม คนทำผิดก็ต้องติดคุกหรือรอลงอาญา เรามาทำงานก็แค่สะสางปัญหา ส่วนใครจะมีความผิดอะไร ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละบุคคล แต่คงไม่ใช่หมายความว่ากฎหมายไปไม่ถึง เพราะปัจจุบันมันก็มีพวกโจรบัณฑิต มีความรู้เป็นบัณฑิต แต่มีใจเป็นโจร เวลาทำอะไรจะแยบยล ตำรวจตามไปไม่ถึง

ไม่หนักใจยังวนเวียนอยู่รอบประเทศ


เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วนเวียนอยู่ในประเทศรอบบ้าน คมช.มีความหนักใจหรือไม่ พล.อ.สพรั่งตอบว่า ไม่หนักใจ เพราะกติกาเราให้เขาเคลื่อนไหวได้ ถ้าทำได้เขาก็ต้องทำ เราไม่ได้กำหนดให้เขาต้องอยู่นิ่ง แต่สื่อมวลชนไปให้ความสำคัญกับเขา เราเข้าใจเจตนาดีของสื่อที่นำเสนอ คล้ายแจ้งเตือน คมช.ว่า เขาทำอะไรอยู่ที่ไหน เราก็รู้และจำใจให้นำเสนอได้ แต่มีสื่อบางแห่งรับจ้างเขาเลย เพื่อต้องการเสนอภาพข่าวให้เห็นว่าความหวังของเขายังมี

แต่ไม่ขอเปิดเผยว่าสื่อไหน อยากให้ สังคมรู้ว่า คมช.เข้ามาดำเนินการสร้างกติกาใหม่ ไม่ต้อง การสืบทอดอำนาจ ไม่เคยใช้อำนาจข่มขู่ใคร เมื่อคนมีอำนาจฟันเฟือน เราจึงเข้ามาจัดระเบียบใหม่ เมื่อถามว่าเหตุใด คมช. จึงไม่มีการพิจารณายกเลิกกฎอัยการศึก พล.อ.สพรั่งตอบว่า กฎอัยการศึกมีไว้เพื่อป้องกันหากมีเหตุร้ายเกิดขึ้น และจำเป็นต้องใช้กำลังทหาร เวลานี้ประชาชนทั่วไปก็ยังดำรงชีวิตตามปกติสุขได้ มีแต่คนเลวที่เขาเดือดร้อน เรามีอำนาจแต่ไม่เคยใช้อำนาจคุกคามข่มขู่ใคร เราจะใช้เมื่อมีความจำเป็นและต้องใช้อย่างเพียงพอ เพื่อให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยและมั่นคง

คุยกับ จาตุรนต์ แล้วเข้าใจกันดี


เมื่อถามถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ออกมาระบุว่ามีทหารกองทัพภาคที่ 2 และ 3 เข้าไปข่มขู่รีดไถอดีต ส.ส.ไทยรักไทยในพื้นที่ พล.อ.สพรั่งกล่าวว่า ได้โทรศัพท์ไปถามนายจาตุรนต์ด้วยตนเอง เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยบอกเขาว่า หากมีรายชื่อทหารที่กระทำเช่นนั้น ก็ให้เปิดเผยออกมาว่าเป็นใคร เรายินดี ขอให้บอกมาว่าเป็นใครเราจะจัดการลงโทษให้ดูด้วย

ผมได้คุยกับเขาแบบสุภาพบุรุษว่า หากมีอะไรขอให้บอกเราโดยตรง อย่าไปออกทางสื่อ อย่าเล่นเกมการเมือง เพราะเขาอาจได้ข้อมูลที่บิดเบือน อย่าออกข่าวในลักษณะที่ไม่ชัดเจน เพราะออกสื่อแล้วมันกระเพื่อม และขออย่าเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยการแจกใบปลิวหรืออย่างอื่น ขอให้เขารอเวลาปกติมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีกติกาใหม่ ค่อยออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง เขาก็บอกตกลงและบอกว่าไม่ได้เล่นการเมือง ผมก็ตกลงถือเป็นสัญญาสุภาพบุรุษ พล.อ.สพรั่งกล่าว

คมช.ยันมั่นใจไม่มีการปฏิวัติซ้อน


ผู้สื่อข่าวรายงานจาก คมช. ถึงกระแสข่าวการปฏิวัติซ้อนว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการปฏิวัติซ้อนและคงไม่มีใครคิดจะทำ ไม่ว่าจะเป็นกำลังจากกองทัพอากาศหรือกองทัพเรือ เพราะโดยพื้นฐานนั้น กำลังพลจากกองทัพอื่นๆ เปรียบเทียบกับกองทัพบกไม่ได้ นอกจากกำลังพลของกองทัพบกอยู่เฉยๆ ปล่อยให้มีการปฏิวัติซ้อน ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่น่าจะมีปฏิวัติซ้อนคือ 1. กองทัพบกไม่ร่วมด้วย และไม่ยอมให้มีการปฏิวัติ 2. กำลังจากกองทัพอื่นๆน้อยกว่ากองทัพบก และเมื่อมีการเคลื่อนย้ายกำลังพลเมื่อใด เราก็ทราบ คงไม่มีใครกล้าเสี่ยง

และสาเหตุอีกประการหนึ่งคือ ไม่มีเหตุผลที่จะทำ และจะทำเพื่ออะไร เพราะเมื่อทำขึ้นมาก็เกิดแต่ปัญหา และอาจทำให้สูญเสียเลือดเนื้อได้ และหากตำรวจจะลุกขึ้นมาปฏิวัติก็เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากตำรวจไม่เชี่ยวชาญการรบเท่ากับทหาร และไม่มีอาวุธหนักมีเพียงอาวุธเบาเท่านั้น กระแสข่าวปฏิวัติซ้อนที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นการปล่อยข่าวของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อสร้างสถานการณ์ ขณะนี้มีอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มอำนาจเก่า 2. กลุ่มต่อต้าน คมช. และ 3. กลุ่มผู้เสียผลประโยชน์ ทางการเมือง

ภาคเหนือ-อีสานยังมีคลื่นใต้น้ำ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มที่ คมช.ระวังมากที่สุดคือกลุ่มอำนาจเก่า และขณะนี้ในต่างจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน มีความพยายามรวมคนกันอยู่ โดยพยายามสร้างพื้นที่ข่าว และสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น ขณะนี้รอเพียงเงินและรอสถานการณ์ให้เอื้ออำนวย ก็พร้อมที่จะเคลื่อนไหวได้ทันที แต่สิ่งที่เกิดขึ้นประธานคมช.ไม่ได้หวั่นวิตก แม้จะต้องเดินทางเยือนปากีสถานถึง 3 วัน เนื่องจากทุกอย่างเป็นไปตามสายบังคับบัญชา

และหากเกิดเหตุร้ายอะไรขึ้นในกรุงเทพฯ แม่ทัพภาคที่ 1 ก็จะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก ความจริง คมช.อยากจะประกาศยกเลิก แต่หวั่นว่าหากเลิกกฎอัยการศึกแล้ว จะทำให้มีการรวมตัวกันของกลุ่มคนที่ไม่หวังดี และอาจทำให้บ้านเมืองแตกแยก หากประกาศเลิกกฎอัยการศึก ทหารไม่สามารถออกมาใช้กำลังได้ ขณะนี้สถานการณ์เงียบสงบอยู่ได้ เพราะเราสามารถใช้ กำลังทหาร และสามารถ บล็อกคนได้ เป็นการปล่อยข่าวสร้างความแตกแยกใน คมช. กลุ่มคนที่ปล่อยข่าวต้องการนำเรื่องเล็กๆมาตีให้เป็นเรื่องใหญ่

มหาดไทยไม่สนผลประเมิน ครป.


พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. ในฐานะสมาชิกคมช. กล่าวภายหลังที่ คมช.ทำงานครบ 2 เดือนว่า ดี และทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย และแผนที่ทาง คมช.วางไว้ ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างเริ่มเป็นรูปร่าง โดยขอเวลาสักระยะหนึ่งเพราะไม่ใช่ทำก๋วยเตี๋ยวที่ทำเพียง 5-10 นาทีก็เสร็จ เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางอยู่รอบๆประเทศไทยจะส่งผลต่อรัฐบาลหรือไม่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ตอบว่า คงไม่เกี่ยว รัฐบาลก็ทำงานปกติ ไม่มีอะไร

นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ ครป.ประเมินว่ารัฐบาลทำงานล่าช้า ไม่เป็นรูปธรรมว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยไม่มีปัญหาติดขัดอะไร การประเมินก็แล้วแต่ผู้ประเมินว่ามีแนวทางประเมินอย่างไร ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ต้องสอบถามไปที่นายกฯ คงให้คำตอบไม่ได้ ทั้งนี้ งานที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่เฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้น แต่ทำทั่วประเทศ เรื่องการเมืองบางทีเราพูดมากไปไม่ค่อยจะดี ส่วนผลประเมินออกมาแบบไหน ขอให้แจ้งให้ทราบว่า สิ่งไหนที่ต้องเร่งทำหรือเป็นปัญหา เรายินดีจะแก้ไข

อานันท์ จี้รัฐบาลสางปมยึดอำนาจ


นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลและ คมช.ในช่วง 2 เดือนว่า ตนคงไม่มีข้อเสนออะไร แม้ว่าจะมีบางอย่างคล้ายคลึงกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเมื่อ 15 ปีที่แล้ว แต่ก็มีหลายอย่างที่ไม่คล้ายคลึงกัน เมื่อถามว่า การที่มีหลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลและ คมช.อยู่ในช่วงขาลง มีสาเหตุมาจากอะไร นายอานันท์กล่าวว่า คงเป็นผลสะท้อนจากคนที่มีความอึดอัดใจมาก และมีความรู้สึกรุนแรงต่อรัฐบาลที่แล้ว

เมื่อมีรัฐบาลใหม่มาจึงเป็นสัญชาตญาณและปฏิกิริยาของคนกลุ่มนี้ที่จะรู้สึกว่าทุกอย่างที่ทำมันช้าไป อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากพูดว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง แต่คิดว่ารัฐบาลก็คงพยายามแก้ไขใน 4 ประเด็นที่เป็นเหตุของการยึดอำนาจ แต่คงจะต้องเร่งเครื่องกันมากกว่านี้แต่เราต้องเข้าใจว่าปัญหาต่างๆไม่ใช่ว่าเข้ามาแล้วจะทำได้ ทันทีเหมือนเปิดปุ๊บติดปับ อย่างปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ แน่ใจว่าคงต้องใช้เวลา 3-4 ปี

บุช มีท่าทีเข้าใจแค่พิธีทางการทูต


ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าขณะนี้นานาชาติเริ่มเชื่อมั่นกระบวนการสร้างประชาธิปไตยในประเทศไทยหรือยัง นายอานันท์ตอบว่า นานาชาติก็เริ่มเข้าใจแล้ว อย่าไปห่วงเขามาก อย่าไปคิดว่าพูดคุยกับประธานาธิบดีบุชหน่อย ก็รู้สึกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยแล้ว อย่าไปคิดถึงขั้นนั้น เพราะมันไม่มีอะไรเลย การเมืองระหว่างประเทศก็มีจับมือกันยิ้มให้กัน เพราะมันเป็นพิธีการที่ต้องพูดแบบนั้น ใครบ้างจะไปบอกว่าสนับสนุนให้มีการรัฐประหาร เขาพูดไม่ได้ ดังนั้นอย่าไปคิดอะไรมาก คนไทยชอบตื่นฝรั่ง

เมื่อถามถึงการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรจะยึดรัฐธรรมนูญปี 40 เป็นแนวทางหรือไม่ นายอานันท์ตอบว่า เท่าที่ฟังมาทุกคนก็ค่อนข้างมีฉันทามติว่า หากจะมีการปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ควรไปเริ่มร่างฉบับใหม่ขึ้นมา แต่ควรจะใช้ปี 40 เป็นพื้นฐาน โดยเฉพาะเรื่องของสิทธิประชาชน เพราะปัญหาที่ผ่านมา ไม่ใช่เพราะรัฐธรรมนูญบกพร่อง อาจเป็นเพราะรัฐธรรมนูญดีเกินไป แต่คนใช้ไม่ค่อยดี


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์