´ทักษิณ´ ปราศรัย ประกาศสู้ เพื่อรักษาศักดิ์ศรี

หลังนายจักรภพ เพ็ญแข


หนึ่งในแกนนำ นปก.ระบุว่าในคืนวานนี้ (15 มิ.ย.) มีการต่อสัญญาณแพร่ภาพการปราศรัยผ่านอินเตอร์เน็ตของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มายังเวทีการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ให้ ผู้ชุมนุมได้เห็นภาพและได้ยินเสียงสดๆ ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้หลายฝ่ายออกมาหวั่นวิตกว่า การปราศรัยของอดีตนายกรัฐมนตรีนั้น จะเป็นการยั่วยุให้ม็อบเกิดความฮึกเหิม จนอาจก่อเหตุรุนแรงได้

ขณะที่หลายฝ่ายก็ต้องการที่จะทราบว่า

พ.ต.ท.ทักษิณจะปราศรัยเรื่องอะไร โดยฝ่ายทหารเตรียมพร้อมเต็มพิกัด ในการวางแผนรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม ที่ประกาศจะเคลื่อนพลจากท้องสนามหลวงไปปักหลักชุมนุมที่หน้ากองทัพบกในคืนวันที่ 15-16 มิ.ย. ท่ามกลางความระทึกใจของผู้คนทั่วประเทศ ที่จับตาดูว่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงลุกลามบานปลายเกิดขึ้นและรัฐบาลจะประกาศภาวะฉุกเฉินหรือไม่

ไฟเขียวทักษิณสายตรงคุยกับผู้ชุมนุม


ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายจักรภพ เพ็ญแข แกนนำม็อบระบุว่า จะมีการถ่ายทอดเสียงปราศรัยของ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กับม็อบ รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร จะมีการตัดสายหรือไม่

พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า

ไม่มีการตัดสาย สามารถทำได้ เพราะว่าถ้าจะมีการปราศรัยในลักษณะที่ไม่ยั่วยุให้เกิดปัญหา ในส่วนของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงพยายามจะยืนอยู่ในด้านของตัวบทกฎหมาย ยืนอยู่ในด้านความชอบธรรม แต่ละคนก็มีสิทธิ์ที่จะให้ข้อคิดเห็น แต่ไม่ใช่ยั่วยุให้เกิดปัญหาขึ้น เมื่อถามว่า กลุ่มรักทักษิณมีแนวโน้มที่จะยั่วยุให้เกิดความวุ่นวายขึ้นจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ตอบว่า ถ้าเผื่อไม่เกิดก็ดี การยั่วยุนั้นจะเกิดผลหรือไม่เกิดผลคงอยู่ที่ประชาชน หากประชาชนไม่เห็นด้วย คงได้แค่ยั่วยุ

ยิ่งค่ำคนยิ่งแห่จองที่ฟังปราศรัย


กระทั่งเวลา 19.00 น. บรรยากาศการชุมนุมเริ่มคึกคัก ประชาชนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ที่สนใจต่างทยอยเข้าจับจองพื้นที่ชุมนุม บริเวณใกล้จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่กันอย่างแน่น ขนัด เนื่องจากทุกคนต้องการฟัง พ.ต.ท.ทักษิณพูดอย่างใกล้ชิดอย่างมากที่สุด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ซึ่งดูแลบริเวณพื้นที่ชุมนุมรายงานว่า

ในเวลา 19.00 น.

มีประชาชนสนใจรอฟังสายตรง พ.ต.ท.ทักษิณกว่า 8,000 คนแล้ว ขณะที่บนเวทีปราศรัยก็ยังดำเนินไปอย่างเผ็ดร้อน โดยนางศิริวรรณ นิมิตรศิลป แกนนำกลุ่มคนไทยรักประเทศ ไทยในอเมริกา หนึ่งในองค์กรพันธมิตร นปก. กล่าวว่า จากการที่เคยพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สหรัฐฯ อดีตนายก รัฐมนตรีได้กล่าวฝากมาขอบคุณพี่น้องคนไทยทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เสมอมา และได้ยกย่องนายนวมทอง ไพรวัลย์ แท็กซี่ที่ผูกคอตายประท้วงการทำรัฐประหาร เป็นวีรบุรุษประชาธิปไตย

เริ่มต้นชี้แจงเรื่องการขายหุ้นชิน


กระทั่งเวลาสำคัญมาถึงในเวลา 21.00 น. มีการแพร่สัญญาณภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ มายังเวทีการชุมนุมที่สนามหลวง โดยเป็นภาพ พ.ต.ท.ทักษิณนั่งที่โต๊ะทำงานแล้วกล่าวกับประชาชนว่า > ตอนนี้ตนได้ถูกยึดทรัพย์
ทั้งที่การที่หุ้นสูงขึ้นนั้นมาจาก

การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จาก 1.55 ล้านล้านบาท มาเป็น 5.5 ล้านล้านบาท ทุกบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ก็ขึ้นหมด แต่ หุ้นในกลุ่มของซีพี หรือกลุ่มที่สนับสนุนพันธมิตร แต่เขาหาว่าผมรวยผิดปกติ อย่างนี้ต้องอายัดทรัพย์ทั้งตลาดหลัก-ทรัพย์หรือไม่ และที่มีการมากล่าวหาว่าเงินจากการขายหุ้น ในกลุ่มชินจำนวน 7 หมื่นล้านบาทนั้น มีการยักย้ายถ่ายเทแต่ในความจริง เป็นเรื่องธรรมดาที่การขายหุ้นจะมีการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศบ้าง ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็ตรวจสอบได้ แต่กลับมาทึกทักว่าผมรวยผิดปกติ เพราะหุ้นขึ้น

พยายามทำงานแต่ถูกกลั่นแกล้งตลอด

ผมถูกกลั่นแกล้งมาตลอด ทั้งที่การทำธุรกิจที่ผ่านมานั้น บางครั้งก็ลำบากเคยเช็คเด้งถึงขั้นต้องขึ้นศาล ถ้าติดคุกก็คงไม่มีใครรู้จัก หลังจากทำธุรกิจก็คิดว่าควรที่จะตอบแทนแผ่นดิน เพราะเคยเป็นนักเรียนนายร้อย จึงคิดอยากมาทำงานการเมือง และทุ่มเทหมดทั้งชีวิต ตนเคยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้หมด เมื่อมีปัญหาเรื่องสึนามิก็แก้ไขจนได้รับการยกย่องไปทั่วโลก แม้แต่หวัดนกหรือโรคซาร์ ปัญหาในภาคใต้ก็ปราบปราม แต่ก็มีคนมาค้านจนเดี๋ยวนี้กลายเป็นขบวนการแบ่งแยกดินแดนไป

ยึดทั้งพรรคยึดทั้งทรัพย์


อดีตนายกฯกล่าวว่า ตนถูกกลั่นแกล้งมาตั้งแต่เป็นนายกฯ มีการแทรกแซงกระบวนการต่างๆ เพราะเขาอยากให้พ้นจากตำแหน่ง เคยถูกลอบฆ่าแต่เมื่อคนทำถูกจับได้แล้วอัยการส่งฟ้อง เรื่องก็ยังเงียบอยู่ จนเมื่อมาทำงานในต่างประเทศกลับถูกทำรัฐประหาร จริงแล้วได้ข่าวมาตลอดว่าเขาจะไม่ให้ผมเป็นนายกฯ ยึดทรัพย์ และยึดพรรคไทยรักไทย

คดียุบพรรคไทยรักไทย

มีการวางพล็อตแทรกแซงตลอด การอายัดทรัพย์นั้นก็เป็นสัญญาณให้เห็นว่าตนไม่มีเงินแล้ว อยากถามว่านี่หรือประชาธิปไตย คืนอำนาจให้ประชาชนเถอะ เพราะนี่คือประเทศชาติของประชาชน ถ้าเลือกตั้งแล้วพรรคไหนไม่ดี ประชาชนเขาก็เลือกออกเอง

ประกาศสู้เพื่อรักษาศักดิ์ศรี

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ขณะนี้เรากำลังทำประเทศถอยหลังไปหลายสิบปีแบบไร้หลักนิติธรรม ต่างชาติเขาไม่เชื่อถือ แม้แต่หวยบนดินก็ถูกนำไปอยู่ใต้ดินคืนให้พวกพันธมิตรไป ฉากต่อไปที่เขาจะแกล้งคือให้ผมเข้าคุก มีความพยายามที่จะให้คนซัดทอดว่าตนทำผิดให้ได้ กระบวนการแบบนี้ไม่ยุติธรรมที่สุด พี่น้องครับ ผมจะสู้ เพื่อรักษาศักดิ์ศรีเกียรติภูมิ และจะเรียกความเชื่อถือจากกระบวนการยุติธรรม สิ่งที่ทำไปประเทศถอยหลัง เพื่อให้คนกลุ่มหนึ่งสะใจที่ได้ชำระแค้นผม

รังแกตัวเองได้แต่อย่าแกล้งลูกเมีย


อดีตนายกฯกล่าวอีกว่า จะจัดการคนคนเดียวโดยเอาประเทศเป็นเดิมพันเลยหรือ วันนี้ท่านกำลังทำประเทศถอยหลังลงมาก สิ่งที่พวกท่านกล่าวหานั้น ผมไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่พวกท่านนั้นทำยิ่งกว่าผม ภาคใต้ก็แย่ รัฐวิสาหกิจก็มีการร้องเรียนกันมาก ปิดกั้นสื่อ แม้ตนโทรศัพท์เข้าไปสถานีวิทยุชุมชนก็ไปปิดเขา ที่บอกว่าจะสมานฉันท์ก็ตอกลิ่มความแตกแยก ผมบอกแล้วว่าจะเลิกเล่นการเมือง จะทำอะไรกับผมอย่าทำนอกกฎหมาย ไม่ต้องห่วงหรอกผมเลิกเล่นการเมืองแน่

แต่ขออยู่อย่างมีศักดิ์ศรีแบบคนคนหนึ่ง

รังแกผมไม่เป็นไร นี่รังแกลูกเมียผมอีก สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมนั้นไม่คิดว่าจะเกิดในสมัย ศตวรรษที่ 21 ควรจะเกิดในศตวรรษที่ 15-16 มากกว่า ถ้าประเทศไทยมีประชาธิปไตยเมื่อไหร่ ระบอบต่างๆ จะกลับมาเดินของมันเอง ท่านจัดการผมขนาดนี้แล้วก็รีบเลือกตั้งเถอะ จะเอาใครมาเป็นรัฐบาลก็ให้ประชาชนตัดสิน

วอนหันหน้ามาสร้างความสมานฉันท์

อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า ปีนี้เป็นปีมหามงคล ท่านที่มีหน้าที่ตรงนี้ไม่คิดจะสร้างความสมานฉันท์ในชาติเพื่อพระเจ้าอยู่หัวหรือ พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกายเพื่อคนไทยมามากแล้ว พวกท่านยังไม่สำนึกอีกหรือ ร่วมใจกันและหันหน้าเข้าหากัน ท่านไม่ชอบผม แต่ผมก็เป็นคนไทยเรามาฆ่ากันเอง

ในขณะที่ประเทศอื่น

แย่งตลาดการท่องเที่ยวการลงทุนจากไทยแทนที่จะไปแข่งกันต้องมาทะเลาะกันเขาต่างหัวเราะ เห็นแก่ชาติ เห็นแก่ประชาชน เถอะครับอย่าเห็นแก่ความสะใจของพวกท่านเลย ขอเถอะครับ ที่ผมพูดไม่ใช่ว่าผมจะไม่สู้ แต่ผมขอสู้เพื่อรักษาศักดิ์ศรี เพื่อระบอบชาติที่ทุกท่านปู้ยี่ปู้ยำขอให้ระบอบที่ดีคงอยู่ไว้คู่ประเทศไทย ขอให้ความสามัคคีกลับคืนสู่ ประเทศไทย

ลั่น 5 ปี 7 เดือนที่ผ่านมาไม่ผิด


หลายท่านในที่นี้ผมเป็นคนเสนอจัดตั้งท่าน ผมไม่ได้ทวงบุญคุณนะ ผมทำเพื่อชาติ ท่านจัดการผมทำให้ ชาติเสียหาย ผมเชื่อว่าผมต่อสู้ทางกฎหมายได้ เพราะผม ไม่ผิด 5 ปี 7 เดือน ที่ผมทำงานมา ท่านไม่คิดหรือว่าทำให้ ชาติ คิดว่าผมเป็นโจรหรือ ผมพร้อมที่จะกลับ แต่ต้องชัวร์ แล้วมาเผชิญหน้ากันแบบพี่น้อง พูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ด้วย เหตุด้วยผล เพื่อความสามัคคีกลับมาสู่ชาติ ไม่มีประโยชน์ ที่ทำจะแบบนี้ หันหน้าเข้าหากันเพื่อชาติดีกว่า ทำถวายพระเจ้าอยู่หัวในปีมหามงคล

ผมพร้อมที่จะพูดคุยอย่างลูกผู้ชาย

ไม่ใช่พร้อมเพราะเกรงกลัว แต่พร้อมเพราะบางครั้งลูกผู้ชายต้องกัดลิ้นต้องกลืนเลือดต้องทำ เพราะเราอยู่ในชาติเดียวกัน ลองไตร่ตรองดูให้ดีว่าสิ่งที่ท่านคิด คือ อะไร เพื่ออะไร ชาติได้ไหม วันนี้ประชาชนลำบากไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่ท่านกล่าวหาผม 15 ข้อ ท่านได้ทำดีกับผมไหม มันตลกครับ เอาตรงดีกว่า คุยกันอย่างลูก ผู้ชาย หันหน้าเข้าหากันเพื่อให้ชาติรุ่งเรือง ผมพร้อมที่ จะพูดคุย และพร้อมต่อสู้ทุกประเด็น ด้วยกลไกที่ถูกต้อง แต่ขออย่าแทรกแซง

ท้า คตส.แน่จริงอย่าขอ ก.ม.คุ้มครอง

อดีตนายกฯกล่าวอีกว่า เป็นที่รู้กันว่ามีการแทรก แซงทุกกระบวนการ กระบวนการยุบพรรคเห็นชัดเจน ผมถือว่าเรื่องเล็กเรื่องยุบพรรค แต่เป็นเรื่องน่าอับอายไปทั่วโลก หลักกฎหมายหายไปไหนหมด ทฤษฎีความรู้ ไปไหนหมด วิชาเล่มแรกๆ ของกฎหมายหายไปไหนหมด ขอให้คิดให้ดี

แล้ววันนี้ คตส.กำลังขอกฎหมายเพื่อป้องกันตัวเอง

แน่จริงอย่าขอความคุ้มครอง ถ้าบริสุทธิ์ใจ เราสู้ กันในศาล ทำไมต้องออกกฎหมายคุ้มครองตัวเอง แสดงว่า เจตนากลั่นแกล้งใช่หรือไม่ เพราะมีการขอกฎหมายมาคุ้มครองตัวเองด้วย ถ้าท่านคิดอยากจะแกล้งต้องสู้ความจริง ผมพร้อมจะสู้ ท้ายที่สุดนี้ขอเรียกร้องให้ทุกคนหันหน้าเข้าหากัน

แฉคนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า


พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวด้วยว่า คนที่กินเงินเดือนไม่เดือดร้อน คนหาเช้ากินค่ำ คนทำธุรกิจลำบาก เพราะความน่าเชื่อถือมันหมด เม็ดเงินมันหมดมันน้อยลงไปเรื่อย ให้ระบบกฎหมายทำงานอย่าไปแทรกแซง วันนี้องค์กรด้านกฎหมายคิดว่าจะสอนกฎหมายอย่างไรกับการกระทำของ คตส.ที่ผ่านมา ขอให้มาทำอย่างที่สากลเขาทำ เลิกผิดเลิกถูก ทหารก็ไปทำหน้าที่ของทหารอย่ามาขู่ประชาชน ไปสู้กับพวกแบ่งแยกดินแดนดีกว่า โลกนี้เขาไปถึงไหนกันแล้ว ตอนนี้ผมไม่ได้ทะเลาะกับท่านเลย ผมอยู่เมืองนอก

แต่อยากดูว่าท่านทำงานสมานฉันท์ กันได้ไหม

จะโดนปฏิวัติไหม แล้วท่านจะตอบว่าอย่างไร สิ่งเหล่านี้ผมว่าพอ เริ่มต้นใหม่เริ่มต้นที่ปีมหามงคล เริ่มต้นทิ้งความสะใจ แล้วไม่ต้องมาพูดถึงกลุ่มอำนาจเก่าอำนาจใหม่ ตรงไปตรงมามีหลักฐาน อย่าแทรกแซงให้ ระบบกฎหมายทำงาน วันนี้กฎหมายไทย การตัดสินคมช.แทรกแซง ต่างประเทศกำลังมองว่าไทยทำอะไร หลัก กฎหมายหายไปไหนหมด

ขอให้หยุดห้ำหั่นกันได้แล้ว

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวอีกว่า ที่แล้วไปผมเจ็บไม่เป็นไรต่อไปนี้ เราเดินให้ถูกต้องได้ไหม เราทำให้ถูกต้องตามกระบวนการได้ไหม เลิกบิดเบือนข่าวเลิกปิดข่าวได้ไหม เลิกข่มขู่ได้ไหม ทหารไปทำหน้าที่ของทหาร อย่าข่มขู่ ประชาชนคนไทยด้วยกัน ขอเถอะครับ หยุดห้ำหั่นฆ่าฟันกันเองได้แล้ว

อย่าให้ชาติอื่นนั่งหัวเราะเยาะกัน

เขาไปไหนกันแล้ว เรามาทะเลาะกันอยู่ได้ เอาเวลามาแก้ปัญหาชาติจะดีกว่า ผมอยู่เมืองนอก เพราะอยากเห็นท่านทำงานสมานฉันท์ ให้ได้ผมเคยคุยกับท่านสุรยุทธ์บอกตบมือข้างเดียวไม่ดัง ต้องตบสองข้าง ผมวางมือทางการเมืองแล้ว คุยกันเถอะ ขอเถอะ โดยเฉพาะคณะปฏิวัติ เราเคยเป็นนักเรียนเตรียมทหารมาด้วยกัน บอกให้ผมวางมือการเมืองผมก็วางแล้ว ยุบพรรคก็ยุบไปแล้ว

อย่าตัดสินใจแทนคนทั้งชาติ


อดีตนายกฯยังกล่าวด้วยว่า หยุดเถอะ ทุกฝ่ายไปเลือกตั้งเถอะ แล้วประชาชนตัดสินใจอย่างนั้น จบไป แต่วันนี้ไม่เป็นอย่างนั้น ขอร้องทุกฝ่ายเราคนไทยด้วยกันจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะปฏิวัติก็ดี หลายคนเป็นทหารเรียนกันมาอบรมมา ให้จงรักภักดีต่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์เหมือนกัน พี่น้องได้รวมน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อชาติบ้านเมือง ผมพร้อมเสียสละทุกอย่างบอกให้วางมือทางการเมืองผมก็วางแล้ว จะเอายังไงต่อ กล่าวหาผมปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุบพรรคซิ แล้วผมจะสู้เอง ไม่เป็นไร

ยุบพรรคก็ว่ากันไป 111 คน

ก็เล่นการเมืองไม่ได้แล้ว ระบอบประชาธิปไตยก็ดำเนินการไปตามระบบ อย่าตัดสินใจแทนประชาชนทั้งชาติ ให้คนทั้งชาติตัดสินใจเองดีกว่า ขอฝากผู้มีอำนาจทั้งหลายให้ช่วยกันทีว่าจะพาชาติรอดอย่างไร ไม่ใช่วิธีนี้แน่นอน วิธีนี้ก็คือการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รวมพลังกันเพื่อชาติบ้านเมืองของเราครับ ขอขอบคุณและสวัสดีครับพี่น้อง

เปิดเพลงคิดถึงทักษิณก่อนฉายภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าเวลา 21.00 น. ซึ่งเป็นเวลาของการประกาศถ่ายทอดสดเวทีปราศรัยของ นปก. ได้เตรียมเชื่อมสัญญาณเข้าสู่รถถ่ายทอดที่จอดอยู่หลังเวที จากนั้นก็เริ่มเปิดมิวสิกวีดิโอเพลง คิดถึงทักษิณ ดัดแปลงมาจากเพลงคิดถึงของศิลปินร็อก หรั่ง ร็อคเคสต้า โดยภาพในมิวสิกดังกล่าวเป็นภาพที่แสดงเห็นถึงภารกิจต่างๆของอดีตนายกฯ ทีมงานของพีทีวีได้ฉายภาพดังกล่าวนี้ผ่านขึ้นจอมอนิเตอร์ให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 2 หมื่นคน ในท้องสนามหลวงได้ชม ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบกริบก่อนเข้าช่วงสำคัญ

โดยนายณัฐวุฒิประกาศย้ำต่อผู้ชุมนุมด้วยว่า

พี่น้องประชาชนจะได้พบกับนายกฯที่มาจากการเลือกตั้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และขอให้ประชาชนที่ร่วมชุมนุมตะโกนเรียกชื่อของอดีตนายกฯ กระทั่งเวลาผ่านไปราว 1 นาที บนจอมอนิเตอร์ทั้ง 6 จอ ก็เริ่มมีทั้งภาพและเสียงของ พ.ต.ท.ทักษิณปรากฏขึ้น โดยเป็น พ.ต.ท.ทักษิณนั่งบนโต๊ะทำงาน สวมเสื้อสีขาว สวมสูทสีดำคลุมทับ ทันทีที่ภาพนี้ปรากฏขึ้น เรียกเสียงโห่ร้องจากประชาชนดังกึกก้อง

แฟนคลับแม้วเห็นภาพน้ำตาซึม


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างการกล่าวปราศรัยของอดีตนายกฯ ซึ่งใช้เวลาราว 26 นาที นั้น ประชาชนที่รับ ฟัง ต่างตะโกนโห่ร้องด้วยความสะใจเป็นระยะ บางรายถึงกับน้ำตาซึม เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายรักษาความปลอดภัยของพีทีวี ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพราะต้อง ระมัดระวังการถูกบุคคลที่สามมาก่อกวน ระหว่างที่ประชาชน และทีมงานกำลังใจจดใจจ่ออยู่กับภาพและเสียงของอดีตนายกฯ นอกจากนี้เหล่าแกนนำของ นปก. ตลอดจนอดีต ส.ส.ไทยรักไทย ต่างขึ้นมามะรุมมะตุ้มบนเวที เพื่อฟังการ ปราศรัยอดีตนายกฯอย่างใกล้ชิด

กระทั่งจบการปราศรัย

เหล่าแฟนคลับอดีตนายกฯต่างกล่าวสรรเสริญเยินยออดีตนายกฯที่ประกาศที่จะต่อสู้เรียกศักดิ์ศรีกลับคืนมา อย่างไร ก็ตาม ทันทีที่กล่าวจบ มวลชนในท้องสนามหลวงส่วนใหญ่ ก็ออกจากพื้นที่การชุมนุมในท้องสนามหลวง

จักรภพขึ้นชื่นชมยกยอนายเก่า

จากนั้นนายจักรภพ เพ็ญแข ขึ้นปราศรัยกล่าวสรรเสริญเยินยออดีตนายกฯต่างๆนานา โดยอ้างว่าการที่ทำรัฐประหารนั้น เป็นเพราะถูกริษยาตาร้อน ตนจะไม่ขอเรียกว่าอดีตนายกฯ แต่จะเรียกว่านายกฯพร้อมปราศรัย ถามประชาชนว่าพร้อมหรือไม่ที่จะฟังการพูดของอดีตนายกฯ ต่อมานายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวว่า ถ้า การเป็นที่รักของประชาชน แล้วจะต้องถูกทำร้ายจากคนที่อยู่ข้างหลังเผด็จการทั้งหลาย แม้ว่าจะใช้กำลังยึดอำนาจ


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์