´จตุพร´ ร้องป.เอาผิด ´สนธิ-อลงกรณ์´ หมิ่นลงชื่อปลดป๋า

´จตุพร´ ร้องป.เอาผิด ´สนธิ-อลงกรณ์´ หมิ่นลงชื่อปลดป๋า


เมื่อเวลา 14.10 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่กองปราบปราม นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด และผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมพีทีวี และนายจักรภพ เพ็ญแข ตัวแทนผู้ผลิตรายการ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รอง ผบก.ป.

เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ เว็บไซต์ผู้จัดการ และนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลังถูกพาดพิงว่าเกี่ยวข้องกับการล่ารายชื่อถอดถอน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ


นายจตุพร กล่าวว่า กรณีนายสนธินั้นได้พูดพาดพิงถึงตนในรายการยามเฝ้าแผ่นดินระบุว่า


มีอดีตนายทหารรับจ้างของอิสลาเอลซึ่งเป็นคนไทยชื่อนายเอนก ชัยชนะ ได้พูดจาหมิ่นเบื้องสูง โดยระบุว่าชายคนดังกล่าวสนิทสนมกับตนทั้งที่ในความเป็นจริงในชีวิตนี้ตนไม่รู้จัก ไม่เคยพบเจอชายคนนี้มาก่อน และไม่ทราบว่าชายคนนี้มีพฤติการณ์ตามที่นายสนธิกล่าวหาหรือไม่แต่การพูดว่าคนๆนี้เกี่ยวข้องกับตนทำให้ตนได้รับความเสียหาย

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมาคือกรณีเว็บไซต์ผู้จัดการเสนอข้อมูลว่าตนเป็นหนึ่งในผู้ที่ลงชื่อในลำดับที่ 2,467 ร่วมกับกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการเพื่อถอดถอน พล.อ.เปรม แต่ต่อมาได้ถอนชื่อออก โดยข้อมูลนี้ยังถูกนำไปเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์อีกหลายฉบับด้วยซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงเพราะตนไม่เคยไปลงชื่อแต่อย่างใดและจะรับผิดชอบในสิ่งที่ตนทำเท่านั้นแต่ที่นายสนธิ และเว็บไซต์ผู้จัดการทำนั้นทำให้มองได้ว่าพยายามโยงตนเข้ากับการหมิ่นเบื้องสูงเพื่อทำลายพีทีวี ส่วนกรณีนายอลงกรณ์ระบุว่าพีทีวีได้ร่วมเข้าชื่อเพื่อถอดถอน พล.อ.เปรมนั้นเป็นความเท็จทั้งสิ้น


นายจตุพร กล่าวด้วยว่า พีทีวีจะยังคงชุมนุมกันต่อไป


โดยในวันที่ 8 เม.ย. จะเริ่มการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป และในวันดังกล่าวจะมีรายละเอียดมากกว่าครั้งที่ผ่านมาโดยจะเป็นความไม่ชอบมาพากลตั้งแต่มีการปฏิวัติเป็นต้นมา

เมื่อถามว่าการชุมนุมแต่ละครั้งมักมีการพาดพิงถึง พล.อ.เปรม เมื่อเป็นเช่นนี้จะเป็นการสร้างความขัดแย้งให้เพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า พีทีวีไม่เคยกล่าวโจมตีใดๆต่อ พล.อ.เปรม เพียงแต่อธิบายความว่าข้อกล่าวหาว่า พล.อ.เปรม อยู่เบื้องหลังการยึดอำนาจนั้นคือ นายสุริยะใส กตะศิลา หนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ให้สัมภาษณ์หนังสืออิมเมจ ฉบับเดือนธันวาคม หากต้องการจะไล่ต้อนก็ต้องไปไล่เอาจากนายสุริยะใส


ด้านนายจักรภพ กล่าวว่า ขณะนี้ดูเหมือนว่าจะมีขบวนการใหม่เกิดขึ้นในบ้านเมือง


ตนอยากใช้คำว่าขบวนการดึงฟ้าต่ำ เพราะว่าเป็นขบวนการที่เมื่อประสบความล้มเหลวในการวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยที่มีความหลากหลายแล้วก็จะหันกลับไปใช้แนวทางเดิมที่เคยใช้ คือ ทำให้เกิดความคิด ความเข้าใจว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวดังกล่าวนั้นมีลักษณะหมิ่นเบื้องสูง

"ประเด็นคือคนเหล่านี้ไม่หยุดยังคงใช้วิธีการในการกล่าวหาว่ามีการจาบจ้วง ทำสิ่งที่ไม่สมควรต่างๆ การมาแจ้งความในวันนี้เพราะเราเชื่อมั่นในศาลสถิตยุติธรรมว่าในห้วงระยะเวลานี้ได้ให้ความยุติธรรมกับผู้ที่ถูกกล่าวหาในทางที่ผิด เพราะฉะนั้นในบ้านเมืองเราต้องมีมาตรฐานว่าความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหารจะต้องยุติลงและต้องไม่มีการดึงเอาของสูงมาเป็นเครื่องมือของคนบางคน" นายจักรภพ กล่าว


นายจักรภพ กล่าวด้วยว่า หากจะมีใครบงการขบวนการดึงฟ้าต่ำอยู่ก็คงเป็นไป


เพราะเร่งปฏิกิริยาการทางเมืองเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง จึงขอเรียกร้องด้วยการแสดงออกอย่างเคารพตัวบทกฎหมายในวันนี้ว่าขอให้ยุติเสีย การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยต้องมีต่อไป และขอให้ประชาชนและสื่อมวลชนช่วยกันจับตาขบวนการดึงฟ้าต่ำอย่าอนุญาตให้คนเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากการอ้างสถาบันที่เราเคารพรักอย่างยิ่งเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

เบื้องต้นพ.ต.อ.สมยศ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายไว้เป็นหลักฐานเพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งดำเนินการต่อไป



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์