Old Soldier Never Dies ศึกข้ามรุ่น จปร. พี่จิ๋ว-น้องตู่

Old Soldier Never Dies ศึกข้ามรุ่น จปร. พี่จิ๋ว-น้องตู่

"รายงานพิเศษ มติชนสุดสัปดาห์

Old Soldier Never Dies ศึกข้ามรุ่น จปร. "พี่จิ๋ว-น้องตู่" เรื่องงอนๆ ของ "นายจิ๋ว" กับ "เสธ.เอ๊ะ" และอนาคตเรือดำน้ำ อนาคต "บิ๊กยุ้ย"

ณเวลานี้ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ลั่นวาจาแล้วว่า "ไม่กลัวใคร เพราะถ้ากลัว คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้"

ก็เพราะเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุด ทั้งเป็นนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลทหาร และเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติ ที่มีอำนาจมาตรา 44 อยู่ในมือ แบบที่เรียกว่า ล้นฟ้า และครอบจักรวาล

อีกทั้งพกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า ว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ สนับสนุนให้เขาทำหน้าที่จัดระเบียบประเทศ และรักษาความสงบเรียบร้อย แถมย้ำเสมอว่า ผู้นำต่างประเทศก็ไม่ได้มีใครรังเกียจ หรือพูดเรื่องเลือกตั้งอะไร ต่างเข้าใจไทยมากขึ้น

และมั่นใจว่า ประชาชนจำนวนไม่น้อย ที่เคยไม่ชอบ แล้วหันมาชอบ และอีกมากที่ชอบสไตล์การเป็นนายทหารที่ตรงไปตรงมา คิดยังไงพูดอย่างนั้น ออกสไตล์นักเลงลูกทุ่ง แถมไม่กลัวนักข่าว ด่ากราดใส่สื่ออยู่ตลอด

นี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้บิ๊กตู่ห้าวหาญ แบบที่เรียกว่า ห้าวเป้ง มากขึ้น จะขู่ คำราม เตือนสติ ปราม หรือตำหนิ ก่นด่า ได้ทุกผู้ทุกคน

แม้แต่ บิ๊กจิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่เป็นอดีตอะไรหลายๆ อย่าง ทั้งอดีต ผบ.ทบ. อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.กลาโหม เจ้าของฉายา "ขงเบ้งแห่งกองทัพบก" ก็ยังมาถูก พล.อ.ประยุทธ์ ทหารเสือแห่งบูรพาพยัคฆ์ลูบคม ทันทีที่สงสัย และเห็นความไม่ชอบมาพากลในความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ชวลิต

เพราะตั้งแต่มีชื่อบิ๊กจิ๋วถูกเชื่อมโยงกับเหตุคาร์บอมบ์ที่เกาะสมุย โดยนำไปโยงกับกลุ่มวาดะห์ นักการเมืองสายบิ๊กจิ๋วแล้ว การเดินสายไปที่นั่นที่นี่ ก็ถูกจับตามอง

"ไม่ได้ เพราะไม่มีหน้าที่ตรงนั้น อะไรที่เป็นหน้าที่ของการเมือง หรือเกี่ยวข้องกับการเมือง ทำไม่ได้หมด" บิ๊กตู่คำรามใส่พี่จิ๋ว

แนะแค่ว่า ทำได้เพียงการร่วมประชุมกับศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ถ้าอยากจะพบปะกัน ผมกำลังให้ พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ดูรายละเอียดว่าจะประชุมพรรคกันที่ไหนอย่างไร แต่ต้องไม่ใช่การประชุมอิสระ เพราะประชุมกันอยู่แล้ว ทางโทรศัพท์ก็สามารถคุยกันได้ แต่ถ้าอยากประชุมพรรคให้ไปที่ ศปป. จะจัดห้องไว้ให้ แล้วจะให้คนไปนั่งฟังด้วย

"ท่านเป็นใคร ควรจะรู้หรือไม่ ว่าควรต้องทำอะไรอย่างไร ไปถามท่านโน่น เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เคารพท่านอีก แต่นี่เคารพอยู่ เพราะท่านเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา ถ้าท่านทำไปมากกว่านี้ และผิดพลาดมากกว่านี้ คนก็มาเล่นงานผมอีก"

"อย่าลืมว่าท่านไปอยู่กับรัฐบาลมาก่อน และไม่ได้อยู่ข้างรัฐบาลผม ฉะนั้น ท่านก็อยู่ในข่ายเหมือนกัน แต่ผมเคารพท่านเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ในฐานะทหารเก่า และไม่เคยดูถูกท่าน ในความเป็นคนเก่งของท่าน แต่วันนี้ท่านอายุเยอะแล้วนะ" คำพูดบิ๊กตู่ ที่ถูกวิจารณ์กันขรม

ตอนนี้ฝ่าย คสช. และหน่วยการข่าว คสช. ประเมินการข่าวในแง่ลบสุดโต่ง เพราะอ้างว่า พล.อ.ชวลิต ไม่มีสถานะทางการเงินที่มั่นคงนัก ในระยะหลังๆ จนร่ำลือกันว่า ได้ขายคอนโดมิเนียม ริเวอร์ไรน์ ย่านเมืองนนท์ ริมเจ้าพระยา ไปแล้ว ทั้งๆ ที่ความจริง คอนโดฯ ทั้ง 2 ห้องนั้น เป็นของ เสธ.เอ๊ะ พล.อ.เชวงศักดิ์ ทองสลวย นายทหารคนสนิท และของลูกสาวของ พล.อ.ชวลิต เอง

แต่อาจด้วยความเป็นคนไม่ธรรมดาของบิ๊กจิ๋ว ขงเบ้ง ที่แม้วันนี้จะ 83 แล้ว แต่ก็เป็นเสมือนขิงที่ยิ่งแก่ยิ่งเผ็ด ที่ทำให้ใครๆ ต้องหวั่นหวาดทุกครั้งที่ขยับ

อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้ บิ๊กจิ๋วเคยออกมาขย่ม ตอกลิ่มให้เกิดความหวาดระแวงกันเอง ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับกองทัพ และขั้วอำนาจเดียวกัน ด้วยการเตือน พล.อ.ประยุทธ์ จะเจอปฏิวัติซ้อน จนทำให้บิ๊กตู่ต้องสวนว่า "ใครจะปฏิวัติผม" และ "ใครทำตอนนี้ก็โง่"

แต่ก็ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ หวาดหวั่นอยู่ไม่น้อย เพราะเขารู้ดีว่า โอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นทำได้ยากก็ตาม แต่ทว่าก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ หากเมื่อใดที่ประชาชนหมดความนิยมหรือเชื่อถือในตัวเขา

แถมทั้งบิ๊กจิ๋วนั้นเคยเป็นอดีตลูกป๋า พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรษ ที่สั่งสมประสบการณ์และความแยบยล แยบคาย ไว้เพียบ ย่อมมีหมากเกมในการเดินกลยุทธ์ครั้งนี้ เมื่อเห็นว่ารุ่นน้องอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จปร.23 เดินไปในทางที่ผิดพลาด จนต้องออกมาเตือน ในฐานะนายทหาร จปร.1 รุ่นพี่

แต่อย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์ มอง พล.อ.ชวลิต เป็นฝ่ายตรงข้าม เลือกที่จะผละจากอกป๋าไปอยู่พรรคเพื่อไทยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าป๋าเปรมจะส่งจดหมายน้อยเตือนให้คิดให้ดีๆ แล้วก็ตาม

หลังการรัฐประหาร คสช. ก็ส่งคนตามประกบ พล.อ.ชวลิต มาตลอด รวมทั้ง เสธ.หมึก พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ นายทหารมือขวาสายเหยี่ยว แกนนำยังเติร์ก จปร.7 ในอดีต รวมไปถึง พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ด้วย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บิ๊กจิ๋วออกมาสะกิด พล.อ.ประยุทธ์ เพราะก่อนหน้านี้ เช่น การเตือนว่า "เริ่มต้นด้วยดอกไม้ ระวังลงท้ายด้วยก้อนอิฐ" และรัฐประหารซ้ำ มาแล้ว

"พี่จิ๋วไม่น่าพูดอะไร" นั่นเป็นข้อความที่ พล.อ.ประยุทธ์ ส่งถึงคนใกล้ชิด เพื่อขอให้ขอร้อง พล.อ.ชวลิต ให้หยุดแสดงความเห็นทางการเมือง เพราะทำให้น้องๆ ในกองทัพทำงานลำบาก

จนครั้งนั้น พล.อ.ชวลิต ก็ได้รับปากผ่านนายทหารที่ใกล้ชิด ให้แจ้งกับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เลยว่าจะไม่พูดอะไรอีกแล้ว ปล่อยให้น้องได้ทำงานแก้ปัญหาบ้านเมืองไป


แต่ในระหว่างนั้น ปรากฏว่ามีคนในพรรคเพื่อไทยหลายคนมาพบ และชักชวน พล.อ.ชวลิต ให้ไปร่วมกิจกรรมต่างๆ ในต่างจังหวัด เพื่อหมายให้ พล.อ.ชวลิต มาเป็น "หัวขบวน" ในยามที่ขาดหัว หรือแกนนำหลัก

ตามประสาทหารเก่าทหารแก่ อยู่บ้านเฉยๆ ไม่มีอะไรทำก็จะน่าเบื่อ บิ๊กจิ๋วเลยไปร่วมวงกับเขาอยู่เนืองๆ แล้วบ่อยครั้งที่มีการมาพบปะบิ๊กจิ๋วที่คอนโดฯ เมืองนนท์ เพื่อปรึกษาหารือ วิพากษ์วิจารณ์การเมือง จนเป็นที่มาของการได้รับเชิญไปออกพีซทีวี

ด้วยความใจอ่อน ใครพูดอะไรเป็นคนสุดท้าย บิ๊กจิ๋วก็จะเชื่อคนนั้น ความจริงท่านเป็นคนไม่ได้คิดร้าย หรือเป็นศัตรูอะไรกับ คสช. แต่ต้องการเตือนให้ คสช. เร่งคืนประชาธิปไตย


จากที่เคยให้ "สัญญาสุภาพบุรุษ" ผ่านคนใกล้ชิดไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนั้น เมื่อ พล.อ.ชวลิต ออกมาเคลื่อนไหวอีก จึงทำให้บิ๊กตู่ต้องส่งบิ๊กโชย พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.กองกำลังรักษาความสงบ มาพบ พล.อ.ชวลิต ที่คอนโดฯ เอง เพื่อขอร้องมาให้ พล.อ.ชวลิต หยุดเคลื่อนไหว เพราะมีกฎหมายอยู่ และเพื่อให้น้องๆ ทำงานได้ง่ายขึ้น แบบที่ พล.ท.กัมปนาท มาเรียกบิ๊กจิ๋ว ด้วยคำว่า "พ่อ" ทุกคำ และรับฟังคำแนะนำจาก พล.อ.ชวลิต ที่ฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ โดยเน้นที่การคืนประชาธิปไตย

มีรายงานด้วยว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ยังมาพบ เพื่อกราบขอร้อง พล.อ.ชวลิต เพื่อไม่ให้เคลื่อนไหวในช่วงนี้

อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เคยออกมากล่าวชื่นชมให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งลดบทบาทตัวเองในทางการเมืองไปนาน

แต่ยังไม่ทันไร บิ๊กจิ๋ว ก็ไปออกพีซทีวี จนทหารต้องนำกำลังไปบุก แล้วประสานนายทหารใกล้ชิด ให้นำตัว พล.อ.ชวลิต ออกไป ก่อนที่ทหารจะบุกเข้าปิดสถานีนี้ เพราะถือว่าทหารยังให้เกียรติบิ๊กจิ๋ว



แต่เหตุการณ์เหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้ พล.อ.ชวลิต กับ เสธ.เอ๊ะ พล.อ.เชวงศักดิ์ ซึ่งเป็นนายทหารคนสนิทติดตามมา 30-40 ปี ต้องแตกร้าว เมื่อ เสธ.เอ๊ะ ได้สั่งให้เด็กที่ดูแลคอนโดฯ เขียนข้อความไปปิดทั่วคอนโดฯ เลยว่า "เจ้าของห้องไม่อนุญาตให้ใช้ห้องพัก 9/117 ในทางการเมือง" เพื่อป้องกันไม่ให้นักการเมืองเข้ามาพบ ชักนำ พล.อ.ชวลิต ไปทำกิจกรรมทางการเมืองอีก

แต่ทว่า ถูกตีความผิด พล.อ.ชวลิต จึงเกิดอาการงอน แล้วขนของออกจากคอนโดฯ กลับไปอยู่บ้านปิ่นประภาคม ที่ คุณหญิงหลุยส์ ภริยาอยู่ หลังจากที่ย้ายไปอยู่คอนโดฯ นาน 8 ปี ตั้งแต่ผ่าตัดต่อมลูกหมาก และแพ้ขนสุนัขที่เลี้ยงไว้เต็มบ้าน

"ผมไม่ได้ห้ามนายจิ๋วมาอยู่คอนโดฯ เลย ผมแค่เตือนคนอื่นๆ ที่ชอบมาพบนาย มาชักชวนนายไปทำนั่นทำนี่เท่านั้น เพราะนายจิ๋วท่านเป็นคนใจอ่อน ใครมาขอร้องอะไรก็ช่วย และยอมตามนั้นหมด โดยเฉพาะใครที่มาพูดกับท่านเป็นคนสุดท้าย" เสธ.เอ๊ะ กล่าวสั้นๆ

จนทำให้ พล.อ.ชวลิต กลับมาถูกจับตามองอีกครั้ง พร้อมกระแสข่าวสะพัดว่า บิ๊กจิ๋วอาจกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค ในยามที่สมาชิกแตกฉานซ่านเซ็น


จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องออกมาสำทับ เตือน พล.อ.ชวลิต อีกครั้ง ในเรื่องความเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยการล็อบบี้แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่รู้จักสนิทสนม ให้ไปเจรจากับ พล.อ.ชวลิต หรือแม้แต่ขอให้ พล.อ.เชวงศักดิ์ ช่วยสะกิดนายจิ๋ว

แต่ดูเหมือนว่า จากนี้ หน่วยข่าวทหาร และ คสช. ต้องเปลี่ยนสถานที่เกาะติดบิ๊กจิ๋ว จากคอนโดฯ ไปที่บ้านปิ่นประภาคม


แต่ก็เป็นแค่การเขียนเสือให้วัวกลัว พร้อมๆ กับการเชือดไก่ให้ลิงดู สำหรับแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ออกมาเคลื่อนไหว และที่คิดจะออกมาเคลื่อนไหว โดยอาศัยประเด็นเรื่องร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ เคยออกมาปรามบรรดานักการเมืองว่า "ถ้ายังทะเลาะกัน หรือพูดไม่เชื่อ ก็จะต้องล้างกันสักที" จนนำมาซึ่งประโยคที่ว่า "จะกำจัดขยะมนุษย์ให้หมดไปจากแผ่นดิน"

เรียกได้ว่าในเวลานี้ พล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจมากที่สุดจริงๆ เสมือนว่าทุกวันนี้ ประเทศไทยขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียวจริงๆ


เหมือนกรณีโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่จู่ๆ ความหวังของ ทร. ดับวูบลงทันทีที่คณะรัฐมนตรี เมื่อ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ยังไม่อนุมัติโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ จำนวน 2 ลำ งบประมาณ 3.6 หมื่นล้านของ ทร. แต่มีมติให้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการนี้ และแจกแจงเรื่องแผนการใช้จ่ายงบประมาณก่อน โดยมิได้กำหนดเวลาว่าจะต้องสรุปผลเมื่อใด แต่จนกว่าจะเห็นว่า ทร. มีความพร้อม

ทั้งๆ ที่ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวาณิชย์ ผบ.ทร. ได้เร่งเสนอโครงการนี้เข้าคณะรัฐมนตรี ตามคำแนะนำของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพราะเห็นว่านี่เป็นโอกาสเดียวของ ทร. แล้ว ที่จะได้ในยุครัฐบาลทหาร เพราะหากเป็นรัฐบาลอื่นคงยาก

แต่ทว่า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะทันทีที่มีข่าว ทร. จะปัดฝุ่นโครงการซื้อเรือดำน้ำ ที่ศึกษาความเป็นไปได้ แล้วดูงานมาแล้วหลายครั้ง ขึ้นมาอีกครั้ง กระแสต่อต้าน โจมตีเรื่องความจำเป็นและความคุ้มค่า ถูกขุดขึ้นมาพูดอีกครั้ง แม้ว่า ทร. จะชี้แจงเหตุผลมาหลายยุคหลายสมัย

ยิ่งเมื่อ ทร. เสนอผูกพันงบประมาณเกือบสิบปี แถมทั้งงบประมาณสูง ที่ต้องทำให้ ทร. ใช้งบประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 2,300-6,500 ล้านบาท ซึ่งจะกระทบงบประมาณส่วนอื่นของ ทร. จึงทำให้ บิ๊กโย่ง พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และที่ปรึกษานายกฯ ท้วงติงมา

จึงทำให้ ครม. ให้ผันงบประมาณ 200 ล้านที่ ทร. เสนอผูกพันงบประมาณปีแรก ในการซื้อเรือดำน้ำ มาใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ก่อน ทั้งๆ ที่ ทร. เคยทำการศึกษามาหลายครั้งในรอบเกือบ 20 ปี ที่พยายามผลักดันโครงการเรือดำน้ำมา


เมื่อ ครม. ของ พล.อ.ประยุทธ์ มีมติออกมาเช่นนี้ ก็เลยถูกมองว่า เป็นการแช่แข็งโครงการเรือดำน้ำของ ทร. ไปเรื่อยๆ เพราะ ทร. นั้นมีข้อมูลพร้อมหมดแล้ว อีกทั้งมีการตั้งคณะกรรมการศึกษา และไปดูเรือดำน้ำแต่ละประเทศมา 2 ชุดแล้ว จากชุดของบิ๊กต๊อก พล.ร.อ.ธนะศักดิ์ อุบล รอง เสธ.ทหาร เมื่อครั้งยังเป็นเสนาธิการทหารเรือ จนมาถึงการตั้ง บิ๊กยุ้ย พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผช.ผบ.ทร. เป็นประธานโครงการ

โดยทั้ง พล.ร.อ.ไกรสร และ พล.ร.อ.ณรงค์พล ได้เดินทางไปดูเรือดำน้ำมาหลายประเทศแล้ว ทั้งจีน สวีเดน เยอรมนี โดยมีแผนที่จะไปฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และรัสเซีย


แต่ยังไม่ทันไร ก็โดน ครม.บิ๊กตู่ เบรกเสียจนสิ้นหวัง เพราะการศึกษาความเป็นไปได้ Feasibility Study นั้น ทร. ทำมาหลายครั้ง แล้วก็ตามมาด้วยการ run deep ดำลึกลงๆ จนไม่รู้ว่าจะโผล่ขึ้นมาได้อีกเมื่อใด

สำหรับบิ๊กตู่นั้น แคร์กระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย ไม่ใช่แค่จากสื่อ จากคอลัมน์ต่างๆ ที่ไม่เห็นความจำเป็นของการซื้อเรือดำน้ำ โดยเฉพาะหากซื้อเรือดำน้ำจีน ในราคาเท่าเรือดำน้ำยุโรป แต่คนเสื้อสี ก็ค้าน เช่น คนเสื้อแดง ค้านเพราะว่าไม่ชอบทหาร ไม่รับฟังเหตุผลใดๆ ส่วนฝ่ายหนุน คสช. ก็ห่วงว่าจะทำให้ ครม. ของ พล.อ.ประยุทธ์ เสียหาย หากไฟเขียวให้ซื้อ

ท่ามกลางข่าวลือที่เป็นความหวาดระแวงว่า หาก ทร. มีเรือดำน้ำ ในอนาคตจะเป็นยุทโธปกรณ์ที่คุมได้ยาก หากจะดำน้ำไปพา "ใคร" เข้ามา หรือจะพา "ใคร" หนีออกไป เพราะยากที่จะควบคุมได้


อีกทั้งกองทัพเรือเองก็ถูกคุมกำเนิดทางการเมืองมาตั้งแต่กบฏแมนฮัตตัน ไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนหน่วยกำลังรบ กองพลนาวิกโยธิน ที่เป็นเสมือนทหารราบ ที่ ทร. ก็มีแค่กองพลเดียว ไม่ได้มีการตั้งใหม่ นอกจากมีการตั้งกรมทหารพรานนาวิกโยธิน เพื่อไปทำงานภาคใต้และชายแดน จันทบุรี-ตราด เท่านั้น

ในการรัฐประหาร 2 ครั้งล่าสุด ตั้งแต่ คมช. 19 กันยายน 2549 และ คสช. 22 พฤษภาคม 2557 นั้น ทบ. ล้วนแต่ส่งกำลังทหารมาประกบกำลังของทหารเรือ โดยเฉพาะ นย. มาตลอด เพราะเกรงว่าจะมีแตงโม เพราะมีบิ๊กทหารเรือหลายคนในเวลานั้น สนิทสนมและเป็นเครือญาติกับรัฐบาลเก่า และตระกูลชินวัตร

จึงทำให้ความหวังของกองทัพเรือที่จะมีเรือดำน้ำ ริบหรี่ลง ถึงขั้นที่ พล.ร.อ.ไกรสร ผบ.ทร. เปรยอย่างท้อแท้ว่า "แล้วแต่ดวงชะตาของกองทัพเรือแล้ว"

แต่ที่จับตามองกันมากที่สุดคือ หากไม่ได้ซื้อเรือดำน้ำแล้ว จะมีผลต่อการเลือก ผบ.ทร.คนใหม่ ในการโยกย้ายกันยายนนี้หรือไม่

เพราะในช่วงที่ความหวังที่จะได้ซื้อเรือดำน้ำ ตามที่ พล.อ.ประวิตร มาขายฝันไว้นั้น ก็จับตากันว่า โอกาสที่ บิ๊กยุ้ย พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผช.ผบ.ทร. จะได้เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ เพราะไม่เช่นนั้น พล.ร.อ.ไกรสร คงไม่ขอตัวจาก รอง เสธ.ทหาร บก.กองทัพไทย กลับมาเป็น ผช.ผบ.ทร. อีกทั้งยังแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและจัดซื้อเรือดำน้ำด้วย

ทั้งๆ ที่ตามหลักการและประเพณีของ ทร. แล้ว มักจะต้องมอบหมายให้เสนาธิการทหารเรือ เป็นประธานโครงการ แต่อาจเป็นเพราะ พล.ร.อ.ณรงค์พล นั้นเป็นคนที่ทำโครงการเรือดำน้ำของ ทร. มาตลอด โดยเฉพาะการจัดซื้อเรือดำน้ำเยอรมนีมือสอง จำนวน 6 ลำ ในยุคที่ บิ๊กติ๊ด พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ เป็น ผบ.ทร. ด้วยความที่เขาจบจากโรงเรียนนายเรือเยอรมัน จนได้มีการจัดตั้งกองเรือดำน้ำและศูนย์ฝึกเรือดำน้ำ ขึ้นที่สัตหีบ ชลบุรี

แต่เมื่อโครงการเรือดำน้ำ เหมือนจะดำไม่โผล่อีกครั้ง นั่นจะหมายถึงโอกาสที่ พล.ร.อ.ณรงค์พล จะไม่ได้เป็น ผบ.ทร. ด้วยหรือไม่

แต่คนในกองทัพเรือ เชื่อกันว่า การจะได้ซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการเลือก ผบ.ทร.คนใหม่มากนัก เพราะโอกาสที่ พล.ร.อ.ไกรสร จะเสนอชื่อ พล.ร.อ.ณรงค์พล เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ แทนตนเอง ในโยกย้ายกันยายนนี้ก่อนแล้ว เมื่อ พล.ร.อ.ณรงค์พล เกษียณราชการกันยายน 2559 แล้ว บิ๊กณะ พล.ร.อ.ณะ อารนิจ เสธ.ทร. ก็จะได้เป็นต่ออีก 1 ปี เพราะเขาเกษียณกันยายน 2560

หรือเรียกง่ายๆ ว่า พล.ร.อ.ณรงค์พล กับ พล.ร.อ.ณะ เป็น ผบ.ทร. กันคนละ 1 ปี โดยให้ บิ๊กยุ้ย ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ตท.14 เป็นก่อน จากนั้น พล.ร.อ.ณะ รุ่นน้อง ตท.15 ก็เป็นต่อ

แม้จะไม่มีใครกล้าฟันธงว่า สัญญิงสัญญาในเรื่องแบบนี้ มันจะมีใครรักษาหรือไม่ เพราะเมื่อ พล.ร.อ.ณรงค์พล ขึ้นมาเป็น ผบ.ทร. แล้ว ก็ไม่มีอะไรผูกมัดว่าจะต้องเสนอชื่อ พล.ร.อ.ณะ เป็น ผบ.ทร. ต่อจากตนเองก็ได้

แต่ก็ใช่ว่า พล.ร.อ.ณรงค์พล จะนอนมา เพราะยังไม่มีใครรู้ว่า การจบโรงเรียนนายเรือเยอรมัน จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการขึ้นเป็น ผบ.ทร. หรือไม่ แม้ว่าเขาจะมีเส้นทางรับราชการทหารที่สวยงาม เช่น เป็น ผบ.รล.สู้ไพรินทร์ ผบ.รล.ชลบุรี เป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ เจ้ากรมสรรพาวุธ ทร. รอง เสธ.ทร. และถูกส่งข้ามไปเป็น รอง เสธ.ทหาร บก.กองทัพไทย ก่อนกลับมาเป็น ผช.ผบ.ทร. อย่างฮือฮา เมื่อโยกย้ายเมษายนที่ผ่านมา

เพราะมีชื่อของนายทหารดาวรุ่งหลายคนที่อาจกลายเป็นม้ามืด เช่น บิ๊กเผือก พล.ร.อ.อนุทัย รัตตรังสี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร. และ พล.ร.อ.ประสาน สุขเกษตร


โดยเฉพาะ พล.ร.ท.พงษ์เทพ หนูเทพ ผบ.รร.นายเรือ ที่เป็นดาวรุ่งมาแรง แถมมีลักษณะบุคลิกดี

ตอนนี้จึงไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับแม่ทัพเรือคนใหม่ เพราะไม่แน่ว่า พล.ร.อ.ณะ ก็อาจจะเป็นม้าตีนปลาย เร่งแซงขึ้นมา นั่งเป็น ผบ.ทร. 2 ปีเลยก็เป็นได้ เพราะเขาก็ไม่ได้มีความผิดอะไร อีกทั้งมีโอกาสพิสูจน์ฝีมือ เมื่อรัฐบาลตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ไร้การควบคุม หรือ ศปมผ. ที่ให้ ทร. และ ศรชล. ดูแล โดยมี ผบ.ทร. เป็นประธาน และ เสธ.ทร. เป็นแม่งาน ในการแก้ไขทั้งเรื่องประมงและการค้ามนุษย์ด้วย

อีกทั้งยังมีพลังของเตรียมทหารรุ่น 15 ทั้งใน ทร. เอง และเหล่าทัพ สนับสนุนด้วย เพราะ ตท.15 มีทั้ง บิ๊กต๊อก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รอง ผบ.สส. และ รมว.ยุติธรรม บิ๊กติ๊ก พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผช.ผบ.ทบ. น้องชายนายกฯ ที่จ่อจะเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่อีกด้วย

เรียกได้ว่า ในเวลานี้ไม่มีใครยอมใคร แม้กองทัพเรือจะได้ชื่อว่าเป็นเหล่าตะหานน้ำ ที่ใจเย็น สุภาพบุรุษ ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องการต่อสู้แย่งชิงอำนาจมากนักก็ตาม แต่ก็ต้องบอกว่า อย่ากะพริบตา

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์