ปชป.จวกปูทัวร์ต่างประเทศมีจุดประสงค์แอบแฝง

ปชป.จวกปูทัวร์ต่างประเทศมีจุดประสงค์แอบแฝง

อัด"นายกฯ"ทัวร์รอบโลกไม่ช่วยเศรษฐกิจไทย เหตุดุลการค้าไทยติดลบ 3 ปีซ้อน แนะไปพูดต่อหน้าข้าหลวงใหญ่ฯยูเอ็นให้ชัดจะหนุนออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมหรือไม่ ชี้ไทยเตรียมไปเซ็นยกเลิกวีซ่ากับมอนเตเนโกรหวังช่วยใคร

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่รัฐสภา  นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า

กรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีกำหนดการเดินทางเยือนสมาพันธรัฐสวิส อิตาลี และมอนเตเนโกร อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 8-15 ก.ย.นี้ ว่า การที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ 45 ประเทศ ซึ่งใช้เงินไปประมาณ 370 ล้านบาทนั้น ได้สร้างประโยชน์ด้านการค้าขาย เปิดช่องการลงทุน และเพิ่มช่องทางการส่งออกของประเทศไทย แต่จากการตรวจสอบตัวเลขในช่วงที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ พบว่าประเทศไทยขาดดุลการค้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2554 ขาดดุลการค้า ติดลบ 274,739 ล้านบาท และปี2555 ขาดดุลการค้า ติดลบ 730,570 ล้านบาท รวมถึงเดือน ม.ค.-ก.ค.2556 ขาดดุลการค้า ติดลบ 593,072 บาท

ดังนั้น นายกรัฐมนตรีควรใช้เวลาในช่วงนี้ไปเจรจากับประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียที่เป็นผู้ผลิตยางพารารายใหญ่ หรือประเทศผู้รับซื้อรายใหญ่ อย่างจีนหรือญี่ปุ่น เพื่อแก้ปัญหาราคายางพาราในขณะนี้ แต่นายกรัฐมนตรีกลับเลือกเดินทางไปเยือนประเทศอื่นที่ตนไม่ทราบว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร


นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่รัฐบาลระบุว่านายกรัฐมนตรีจะไปพบกับข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ(โอเอชซีเอชอาร์)

ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์และยกระดับสิทธิมนุษชนของไทยนั้น นายกรัฐมนตรีต้องกล้าพูดความจริงว่ากำลังทำอะไรอยู่ในประเทศไทยก่อนที่จะไปเจรจากับเขา ทั้งนี้ โอเอชซีเอชอาร์เคยออกมาเตือนว่าการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมจะเป็นกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ตนจึงขอให้นายกรัฐมนตรีกล้าพูดกับข้าหลวงใหญ่ฯอย่างตรงไปตรงมาว่าท่านจะสนับสนุนการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อไปหรือไม่ ซึ่งนายกรัฐมตรีเคยอยู่ในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์ เมื่อปี 2553 และขอให้ท่านช่วยถามข้าหลวงใหญ่ฯด้วยว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ รวมถึงถามด้วยว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่กับการที่พรรคการเมืองของท่านกำลังเร่งรัดให้ออกกฎหมายล้างผิดให้กับคนที่กระทำละเมิดสิทธิมนุษยชน


โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีอ้างว่าการเดินทางไปมอนเตเนโกรเพื่อเปิดช่องทางการลงทุน
 
แต่น่าแปลกใจว่ากลับไม่มีการนำนักธุรกิจเดินทางร่วมคณะของนายกรัฐมนตรีไปยังประเทศนี้ จึงอยากถามว่านายกรัฐมนตรีต้องการไปพบใครหรือไม่ ส่วนที่จะมีการลงนามการยกเลิกการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง(วีซ่า)ระหว่างไทยกับมอนเตเนโกร มีความจำเป็นที่ต้องทำอย่างนั้นหรือไม่ และจะมีใครได้รับประโยชน์หรือไม่ หรือเพื่อบางคนที่ถือหนังสือเดินทางของมอนเตเนโกรแต่ยังไม่สามารถหาวีซ่าเข้าไทยได้นาน 5 ปี ให้สามารถเดินทางเข้าไทยได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เป็นการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคนในครอบครัวหรือไม่.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์