จับตา4ตัวเต็งผบ.ทบ.ตาอยู่ มีสิทธิ์แซงโค้งเข้าวิน

การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารกลางปีที่เพิ่งจะคลอดออกมาหมาด ๆ


ถือว่า ไม่ปกติเพราะนี่คือ ปฏิบัติการล้างบางนายทหารฐานขั้วอำนาจเก่าแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยเฉพาะนายทหารซึ่งเป็น นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 10(ตท.10) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลอตสุดท้าย ถูกเด้งเข้ากรุจนหมดสิ้น

จึงเป็นอันว่าความหวังที่กลุ่มอำนาจเก่า


คิดจะอาศัยเครือข่ายในกองทัพเพื่อทำปฏิวัติซ้อนมีอันดับวูบลงแล้วอย่างสิ้นเชิง หนทางเดียวหาก พ.ต.ท.ทักษิณ คิดจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งก็คือ ต้องอาศัยพลังมวลชนนั่นคือเครือข่ายม็อบรากหญ้าในภาคเหนือและอีสาน รวมทั้งข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ ที่ยังจงรักภักดีต่อระบอบทักษิณ

ก่อนหน้าการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ปีที่แล้ว


พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกได้แต่งตั้งโยกย้าย นายทหารคุมกำลังระดับผู้บังคับการกรมและผู้บังคับกองพันทั่วประเทศจำวน 229 คน โดยดันนายทหารที่เป็นคนของตัวเองเข้าไปคุมหน่วยกำลังไว้จนหมดสิ้นเพื่อปูทางไปสู่การรัฐประหารในเวลาต่อมา

นอกจากการแต่งตั้งโยกย้ายช่วงก่อนการรัฐประหารแล้ว


พล.อ.สนธิ ยังปฏิบัติการย้ายล้างบางฐานอำนาจเก่าเป็นระลอกสองในการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้วหลังการรัฐประหาร อย่างไรก็ตาม การย้ายล้างบางระลอกสองก็ยังหลงเหลือนายทหารซึ่งเป็นฐานกำลังของกลุ่มอำนาจเก่าหลงเหลืออยู่อีกบางส่วน

โดยเฉพาะนายทหาร ตท.10 ซึ่งที่สำคัญก็คือ


พล.อ.พรชัย กรานเลิศ ประธานรุ่นนายทหารตท.10 รองเสนาธิการทหาร ถูกย้ายข้ามห้วยมาเป็นที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเมื่อการแต่งตั้งโยกย้ายเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พล.อ.พรชัย ถูกเตะโด่งจากเก้าอี้สำคัญใน 5 เสือกองทัพบก(ทบ.) คือรองผู้บัญชาการทหารบกข้ามห้วยไปเป็นรองเสนาธิการทหารในสังกัดกองบัญชาการทหารสูงสุด

นอกจากนี้ยังย้าย พล.ท.ฉัตรชัย ถาวรบุตร รองเสนาธิการทหารบก


อดีตนายทหารคนสนิทของพ.ต.ท.ทักษิณ ไปนั่งตบยุงเป็นที่ปรึกษาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เช่นเดียวกับ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ ถูกเตะโด่งพ้นขั้วอำนาจไปนั่งเก้าอี้ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ

ทั้งนี้ในช่วงระบอบทักษิณเรืองอำนาจ


ทั้ง พล.อ.พรชัย และ พล.อ.อ.สุกำพล ถูกผลักดันวางตัวให้เป็นผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.)และผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.)คนต่อไป แต่แผนของ พ.ต.ท.ทักษิณ พังทลายลงเสียก่อนเพราะเกิดการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.

ไม่แต่เฉพาะในกองทัพบก


การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารครั้งล่าสุดนี้ยังทำการล้างบางนายทหารตท.10 ตลอดจนบรรดานายทหารที่เป็นเด็กในอาณัติของระบอบทักษิณในทุกเหล่าทัพ ซ้ำเป็นครั้งที่สามซึ่งถือเป็นการสลายฐานกำลังของระบอบทักษิณในกองทัพจนสิ้นซากอย่างแท้จริง

การสลายฐานกำลังของระบอบทักษิณในกองทัพถือเป็นภารกิจสำคัญของ คมช.


ที่นับจากนี้ไปจะได้ไม่ต้องกังวลกับความพยายามที่จะก่อรัฐประหารซ้อน อย่างไรก็ตาม คมช.ยังต้องมองเกมเผื่อไว้ในวันข้างหน้าด้วย เพราะหากคมช.ต้องพ้นจากอำนาจอาจถูกตามเช็คบิลย้อนหลังจากกลุ่มอำนาจเก่าได้

ดังนั้นจึงต้องเตรียมการไว้แต่ตั้งบัดนี้


นั่นคือวางทายาทคุมอำนาจในกองทัพโดยเฉพาะกองทัพบกเพื่อเป็นหลักฐานว่า แม้คมช.จะพ้นจากอำนาจไปแล้ว แต่กองทัพก็ยังคงสืบทอดอำนาจสานต่อภารกิจของคมช.ต่อไป

ทั้งนี้ ตำแหน่งผู้นำกองทัพที่สำคัญก็คือ เก้าอี้ผบ.ทบ.


ซึ่ง พล.อ.สนธิ แบไต๋ผู้ที่จะสืบทอดเก้าอี้ผบ.ทบ.คนต่อไปหลังจากที่ตัวเองเกษียณอายุในเดือนต.ค.ที่จะถึงนี้ว่า นอกเหนือจะพิจารณาจากนายทหารซึ่งเป็น 5 เสือทบ.แล้ว ยังต้องพิจารณาปัจจัยหลายอย่าง ประกอบด้วย เช่น ปฏิกิริยาจากสังคม การยอมรับจากทุกเหล่าทัพ และความเชื่อถือศรัทธาจากผู้ใต้บังคับบัญชา

ที่สำคัญ พล.อ.สนธิ บอกเป็นนัยว่า


ผบ.ทบ.เปรียบเสมือนผู้ชี้ชะตาการบริหารประเทศพอสมควร ขณะเดียวกันเรื่องบุคลิกก็เป็นสิ่งสำคัญ เวลาไหนควรจะนิ่มก็นิ่ม เวลาไหนควรจะแข็งก็ต้องแข็ง "

จากคำพูดของ พล.อ.สนธิ ดังกล่าวไม่รู้ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างหรือไม่


โดยเฉพาะกับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และผู้ช่วยเลขาธิการคมช. ซึ่งเป็น 1 ใน 4 นายทหาร ที่เป็นตัวเต็งสืบทอดเก้าอี้ผบ.ทบ.ต่อจาก พล.อ.สนธิ แต่ช่วงหลัง พล.อ.สพรั่ง ซึ่งมีบุคลิกเป็นคนพูดจาโผงผางแบบขวานผ่าซาก และล่าสุดถูกกลุ่มอำนาจเก่าวางแผนดีสเตรดิตทางการเมืองอย่างต่อเนื่องโดยที่สร้างความเสื่อมเสียแก่ พล.อ.สพรั่ง ในฐานะประธานบอร์ดการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย(ทอท.) เป็นอย่างมากคือ ถูกโจมตีว่าผลาญงบประมาณเกือบ 7 ล้านบาทในการนำทีมพาบอร์ดทอท.ไปดูงานที่ยุโรปโดยมีการนำคนในครอบครัวร่วมเดินทางไปด้วย

ส่วนนายตัวเต็งผบ.ทบ.คนต่อไปอีก 3 คนคือ


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้ช่วยผบ.ทบ. และผู้ช่วยเลขาธิการคมช.

พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม และ

พล.อ.มนตรี สังขะทรัพย์ เสนาธิการทหารบก

ก่อนหน้านี้ข่าววงในระบุว่า


พล.อ.สพรั่ง และ พล.อ.อนุพงษ์เป็นคู่ชิงดำที่มาแรง แต่ล่าสุด หลังจากที่ พล.อ.สพรั่ง ถูกโจมตีจนเสียภาพพจน์ ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ก็ยังอ่อนอาวุโสและเหลืออายุราชการอีกหลายปี

เพราะฉะนั้นแนวโน้มทายาทผบ.ทบ.คนต่อไปของพล.อ.สนธิ


อาจเป็นตาอยู่ไม่คนใดก็คนหนึ่งระหว่าง พล.อ.วินัย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.6 กับพล.อ.สนธิ หรือ พล.อ.มนตรี ซึ่งมีบุคลิกสุขุมลุ่มลึกแต่แฝงไว้ด้วยความเฉียบขาด


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์