หมอวรงค์ ปูดรัฐจ้องนิรโทษคนทำร้ายข้าวไทย

หมอวรงค์ ปูดรัฐจ้องนิรโทษคนทำร้ายข้าวไทย

“หมอวรงค์” ปูด รัฐ จ้อง นิรโทษคนทำร้ายข้าวไทย หลังกำหนดทีโออาร์ประมูลข้าวยกล็อตตามสภาพ ทวง “ปู” ให้คำตอบ “มาดามกง” คือใคร ด่า “ยรรยง” ไร้หลักคิด ดีแต่โฆษณาชวนเชื่อ กล่อมคนไทย มองข้าวไทยไร้ปัญหา เย้ย สื่อต่างชาติ วิเคราะห์ ไทยทวงแชมป์ส่งออกข้าวคืนไม่ได้


นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากการที่ตนเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเมื่อวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อยื่นหลักฐานการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี จากมาดามกง เพื่อให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่จนบัดนี้ผ่านไป 1 สัปดาห์ ยังไม่มีความคืบหน้า แสดงว่า สิ่งที่นายกฯ เคยพูดเรื่องปราบปรามการทุจริต เป็นเพียงการสร้างภาพ

จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯ เร่งเอาจริงเอาจัง และบอกให้ชัดว่า รัฐบาลได้ขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐให้กับมาดามกง จริงหรือไม่ และมาดามกง เป็นคนของประเทศใด ขายข้าวไปจำนวนเท่าไหร่

อยากให้รัฐบาลแสดงความชัดเจนในการเปิดให้องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ เข้าร่วมสร้างความเชื่อมั่นต่อคุณภาพข้าวไทย กรณีมีสารปนเปื้อน แต่ตนคิดว่า รัฐบาลอาจไม่เห็นด้วยเพราะต้องการซุกปัญหาไว้ในพรม


ส่วนกรณีที่นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ ประกาศทวงคืนแชมป์การส่งออกข้าวให้กับประเทศไทย ให้ได้ปีละ 8-8.5 ล้านตันนั้น นพ.วรงค์ กล่าวว่า

ถือเป็นเพียงการโฆษณาชวนเชื่อ พูดแบบไม่มีหลักคิด หวังให้คนไทยเข้าใจว่า ข้าวไทยไม่มีปัญหา ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะจากบทวิเคราะห์ของสื่อต่างชาติ ในวงการค้าข้าว ระบุว่าในปีหน้าประเทศอินเดียจะยังคงครองแชมป์การส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยเวียดนามและไทย ซึ่งไทยจะส่งออกข้าวได้เพียง 7 ล้านตันเท่านั้น


นพ.วรงค์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขทีโออาร์การระบายข้าว 3 ชนิด

โดยให้รัฐบาลประกันคุณภาพข้าว จากเดิมให้ประมูลตามสภาพข้าว เพราะการกำหนดแบบเดิมจะถือได้ว่า เป็นการนิรโทษกรรมให้กับคนที่ทำร้ายข้าวไทยทั้งระบบ เนื่องจากกระบวนการทุจริตที่เกิดขึ้นทั้งจากบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว หรือเซอร์เวเยอร์ โรงสี โกดัง ข้าราชการ และนักการเมือง ที่ทำให้มีข้าวที่ไร้คุณภาพเข้าไปอยู่ในโกดังของรัฐบาล จะพ้นผิดไปได้ แต่หากรัฐบาลกำหนดทีโออาร์เป็นแบบประกันคุณภาพข้าว และผู้ประมูลรับข้าวที่ไร้คุณภาพไปก็สามารถร้องเรียนเสาะหาผู้ทุจริตได้


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์