“ตู่” ปัดรับเงินแลกไม่นั่งตำแหน่ง รมต.

นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จกาณ์แห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า หลายคนตั้งคำถามว่าปรับครม.ทำไมถึงยังมีสีหน้ายิ้มแย้ม ต่อมามีการปล่อยข่าวที่ยังยิ้มได้เพราะไปรับเงินแลกกับการไม่รับตำแหน่ง เลยอยากบอกว่า ตนไม่มีวันขายจิตวิญญาณ ไม่มีวันเอาเกียรติยศเสื้อแดงไปขาย ชีวิตกว่า100 ศพ บาดเจ็บกว่า2,000 คน คุมขังนับไม่ถ้วน

“การปรับ ครม.มีคนถามว่าโดนมา5ครั้งแล้วยังไม่ได้เป็น เลยบอกว่าแค่ครม.ปู5 ยังมีครม.ปู6 เมื่อไม่มีชื่อผมอาจารย์ ธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. เลยบอกว่า ตู่มานั่งเป็นประธานแทนพี่หน่อย

เมื่อเป็นครม.ไม่ได้มาเป็น นปช. แต่ได้ขอบคุณและปฏิเสธไป ขอให้อาจารย์ธิดาได้ทำหน้าที่ต่อไป เนื่องจากสุขภาพยังไม่ดี หมอนรองกระดูกเคลื่อน เจ็บแผ่นหลัง ซึ่งเป็นมาก่อนปรับครม. ไม่ใช่เพิ่งมาเจ็บ และแค่หลังหักไม่ใช่อกหัก เรามีหน้าที่ปกป้องประชาธิปไตย รักษารัฐบาลประชาธิปไตยแต่รัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยต้องปฏิบัติตัวตามเงื่อนไขของประชาชน” นายจตุพร กล่าว

นายจตุพร กล่าวอีกว่า ขอสื่อสารไปยังรัฐบาล 2 ปีแห่งการได้อำนาจโดยการแลกชีวิตประชาชน คนเสื้อแดงยังไม่เคยได้ประโยชน์จากรัฐบาลที่ตัวเองแลกชีวิตให้ แก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่กล้าโหวตวาระ3 ไม่กล้ายอมรับอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ เสนอพ.ร.บ.นิรโทษกรรมปล่อยประชาชนทุกฝ่าย ยกเว้นแกนนำ ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับ เคยสื่อสารไปยังพรรคเพื่อไทย แต่ขณะนี้ดูเหมือนว่ารัฐบาลโดยสภาฯ อยากให้ พ.ร.บ.เงินกู้ 2ล้านล้านบาท พ.ร.บ.งบประมาณ2557 และเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผ่านไปก่อนแล้วค่อยนำเรื่อง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาพิจารณา

อยากถามว่า รัฐบาลจะได้ใช้เงินเหล่านั้นหรือ ถ้ามีการล้มรัฐบาลอีกครั้ง ไม่อยากให้รัฐบาลเห็นแก่เงินมากกว่าประชาชน ขอเรียกร้องรัฐบาลและพรรรคเพื่อไทย ให้เห็นกับประชาชน

โดยนำ พ.ร.บ.ปลดปล่อยประชาชนทุกฝ่ายเข้าสู่สภาในวันที่ 1 ส.ค. ไม่ใช่แค่ช่วยเหลือประชาชนกว่า 20 ชีวิตที่ติดคุก แต่เป็นการให้กำลังใจคนเสื้อแดงกว่า10ล้านคน รวมทั้งมี 20ล้านสายตาจับจ้องมายังรัฐบาล อยากให้รัฐบาลได้แสดงไมตรีต่อคนเสื้อแดงในเรื่องนี้ เพราะถ้ามีการโค่นล้มรัฐบาลอีกครั้ง กำลังใจเขาจะมีแรงถือตีนตบ หัวใจตบให้กับคนที่ไม่มีหัวใจตอบแทนได้หรือ

นอกจากนี้เคยพูดในพรรคหลังเหตุการณ์สลายการชุมนุมว่าคนเสื้อแดงไม่ใช่ของตายสำหรับพรรคที่จะทำอะไรก็ได้ เราเป็นเพื่อน เป็นมิตร นางธิดาคิดทฤษฎี 2 ขา เพื่อไทยและนปช. เดินไปด้วยกัน วันนี้ไม่แน่ใจพรรคเพื่อไทยจะยังนับขานปช.ด้วยหรือไม่ หรือคิดว่าจะเดินขาข้างเดียวได้

นายจตุพร กล่าวว่า ตนไม่เคยแสดงปฏิกิริยาใดๆ พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่มีชื่อตนและพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นรัฐมนตรียังพาหัวใจไปปราศรัย ทำหน้าที่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่ผ่านมาถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว อาจจะหยุดพักไปแล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องตนคนเดียว ยังมีเพื่อนตาย เจ็บ ถูกคุมขังจำนวนมาก จึงไม่มีสิทธิเห็นแก่ตัว เมื่อมีหน้ายิ้มแย้มบางคนเลยทักว่าตนยังมีหัวใจหรือไม่ เลยบอกว่าเคยมี

สถานการณ์วันข้างหน้า พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีผ่าความจริงทุกวันเสาร์ล็อกพื้นที่ใน กทม. กลุ่มไทยสปริงนำเสนอผ่านเว็บไซต์ มีสื่อในเครือข่ายเผยแพร่การชุมนุมอย่างเป็นระบบ จึงกังวลว่าสถานการณ์จะถูกยกระดับขึ้นมา หน้ากากขาวที่ยังเคลื่อนไหว เชื่อการจัดกิจกรรมครั้งหน้าจะมีมวลชนมาร่วมมหาศาลเพื่อหาความชอบธรรมในการจัดการรัฐบาลชุดนี้

นายจตุพร กล่าวอีกว่า เราพร้อมเป็นหลังพิงให้รัฐบาลชุดนี้ แต่รัฐบาลต้องปฏิบัติ3อย่าง

1. ไม่ทุจริตคอรัปชั่น ถ้าเกิดแล้วบอกว่าให้คนเสื้อแดงมาช่วยปกป้องรัฐบาล ซึ่งทำไม่ได้

2.อย่าลุแก่อำนาจ เราว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์อย่างไร ต้องไม่ทำอย่างนั้น

3.รัฐบาลต้องไม่ทรยศต่อประชาชน ที่ร้องขอทั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้รัฐบาลลงนามรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ ตนไม่จำเป็นต้องได้เป็นอะไร ถ้าคุณซื่อสัตย์ก็พร้อมจะไปตายกับคุณอีกรอบ

แต่ถ้าไม่ซื่อสัตย์แล้วลืมเส้นทางที่ได้มาเพราะเลือดเนื้อ คราบน้ำตา ปล่อยให้ทุจริตคอรัปชั่น รัฐบาลจะล้มไปด้วยเงื่อนไขนี้ ขอให้จัดการเรื่องนี้อย่าปล่อยให้เกิดขึ้น ต้องปราบปรามอย่างจริงจัง ก่อนมาเป็นรัฐบาล ข้าราชการกระทรวง ทบวงกรมต่างๆ อยู่ภายใต้รัฐบาล อย่าลืมความลับไม่มีในโลก การพูดเช่นนี้หวังว่าจะไม่มีผล ไม่ได้พูดเพราะโกรธไม่ได้เป็นรัฐมนตรี เป็นการเตือนอย่างฉันท์มิตร

เคยมีคนมาพูดคุยด้วยบอกจะล้มรัฐบาลแต่ติดอยู่เพียงเรื่องเดียวคือคนเสื้อแดง เขายังถามอีกว่าถ้ามีหลักฐานรัฐบาลทุจริต คุณจะอุ้มรัฐบาลหรือไม่ เลยตอบกลับอย่างลูกผู้ชาย ถ้ารัฐบาลทุจริตคุณไม่ต้องมาไล่ก็ได้เดี๋ยวตนจัดการให้เอง

ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช.กล่าวว่า เราทั้งหมดยินดี ต้อนรับ เพราะว่าเกียรติยศ ศักดิ์ศรีจตุพรคือแม่ทัพใหญ่คนเสื้อแดง เวลานี้ยิ่งใหญ่กว่าตำแหน่งรัฐมนตรี ในฐานะนักสู้ เวลาใส่เสื้อแดงเราก็เดินเชิดอยู่แล้ว แม่ทัพใหญ่คนเสื้อแดงมันต้องยิ่งใหญ่กว่าหลายเท่า ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ในทำเนียบ ขออยู่ในใจทำเนียบคนเสื้อแดงทั้งประเทศ ภาระหน้าที่ต้องช่วยกันรับผิดชอบการต่อสู้ของประชาชนด้วยจิตใจรับใช้ประชาชน

แม้แกนนำจำนวนหนึ่งมีภาระหน้าที่เพราะพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกเป็นรัฐบาล แต่ภาระแกนนำนปช.ก็เป็นเรื่องราวที่สืบเนื่องมาจากประวัติศาสตร์การต่อสู้ ไม่ใช่สถาปนาแล้วยิ่งใหญ่ เราจึงต้องพยายามทำให้ดี การสัมนาที่ผ่านมา นอกจากรับทราบการปฏิบัติงานในปี2555-2556 ยังวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างฝ่ายอำมาตย์กับประชาธิปไตย

รวมถึงการปรับโครงสร้างการทำงาน เท่าที่วิเคราะห์สถานการณ์โดยเฉพาะกลุ่มหน้ากากขาวที่พักรบเพราะมีปัญหาการนำภายใน แต่เราก็ให้น้ำหนักเขาไม่สูงมัก ไม่ใช่ประมาท แต่ตัวชี้ขาดในการล้มรัฐบาลคือองค์กรอิสระ การวางแผนของอำมาตย์ยังมีประสิทธิภาพ เป็นเอกภาพสูง ในฝั่งเรายังต้องปรับปรุง การปรับองค์กร ต่อไปจะมีเป็นคณะกรรมการอำนวยการ

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแกนนำในการต่อสู้มาจากปี2552-2553 และคณะกรรมการบริหารงาน นอกจากนี้ในส่วนของนปช.ได้เสนอปฏิบัติการทางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีฝ่ายประชาชนมากมาย อาทิ สร้างภาวการณ์นำร่วมกันที่มีเอกภาพมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมสื่อประชาธิปไตยทุกประเภททั้ง วิทยุชุมชน สถานีโทรทัศน์ สังคมออนไลน์ เปิดโปงความชั่วร้ายขององค์กรอิสระที่ร่วมกันทำรัฐบาลโดยใช้กฎหมายและรัฐธรรมนูญร่วมกับกระบวนการตุลาการภิวัฒน์ เป็นต้น