ยิ่งลักษณ์นำครม.ใหม่ประกาศเจตนารมณ์ต้านโกง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำ ครม.ชุดใหม่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ “เดินหน้าพัฒนาประเทศไทย โดยยึดหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยการสร้างมิติใหม่ให้เป็นคณะรัฐมนตรีที่มีความโปร่งใสตรวจสอบได้ สร้างการมีส่วนร่วมให้ทุกฝ่ายในสังคมร่วมตรวจสอบให้เกิดความมั่นใจและเดินหน้าพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน”

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นมาโดยตลอด มีการวางแผนยุทธศาสตร์เชิงรุก

สร้างมาตรฐานด้านจริยธรรม คุณธรรม ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีในสังคม และวางระบบช่องทางพิเศษในการรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตในภาครัฐทุกช่องทาง รวมถึงมีการแก้กฎหมายเพื่อให้การตรวจสอบการทุจริตเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้รัฐบาลจะเข้มงวดในการวางขั้นตอนแก้ปัญหาการทุจริตให้พัฒนาเทียบเท่าระดับสากล

โดยมีการกำหนดเป็นมาตรกาเบื้องต้น 3 ประการ ประกอบด้วย

1.การส่งเสริมผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐเปิดเผยข้อมูลกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างในทุกขั้นตอน ตามที่กฎหมายกำหนด และให้ปฏิบัติกับผู้เสนอราคาทุกรายอย่างเท่าเทียม

2.วางมาตรการให้บุคคลจากภาคส่วนต่าง ๆ ในสังคม ได้รับการฝึกอบรมทักษะในการเข้าสังเกตการณ์กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ ให้มีหน้าที่สอดส่องและเสนอแนะในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้เกิดความโปร่งใส และเกิดความเชื่อมั่น หากพบการทุจริตหรือประพฤติมิชอบจะต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที และ

3.รัฐบาลจะจัดตั้งคณะกรรมการทำหน้าที่ขับเคลื่อนการเสริมสร้างความโปร่งใสในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

โดยให้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้บันทึกและติดตามข้อมูล ประสานการทำงานร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านทุจริต (สปท.)และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งติดตามภาพรวมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และนโยบายต่าง ๆ ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

“ดิฉันยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการต่อต้านทุจริต เน้นการกระทำเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม มาตรฐานที่วางไว้จะใช้กับโครงการตามงบประมาณที่มีวงเงินสูง และโครงการที่ประชาชนสนใจเป็นพิเศษ เริ่มจากโครงการรถเมล์เอ็นจีวี ที่ รมว.คมนาคมจะเป็นเจ้าภาพ และในอนาคตจะพัฒนาไปยังโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2
ล้านล้านบาท ยืนยันว่าไม่ว่าใคร มีอิทธิพลเพียงใด หากทำการทุจริตคอร์รัปชั่น รัฐบาลจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไม่ละเว้น”นายกรัฐมนตรี กล่าว