อี้แจงพร้อมโชว์คลิปยันไม่ได้ป่วน

อี้แจงพร้อมโชว์คลิปยันไม่ได้ป่วน


'อี้'แจงพร้อมโชว์คลิปยันไม่ได้ป่วน

“แทนคุณ” แจงยิบพร้อมโชว์คลิป ยันไม่ได้ป่วน “งานประชาคมดอนเมือง” แต่ “ลูกน้องเก่งการุณ” พาดพิงให้เสียหาย จึงกลับไปที่ห้องประชุม เจอ “เก่ง” วีนแตก ปรี่เข้าคุกคาม

 

          วันที่ 12 พ.ค.56  นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส.กทม.เขต 12 แถลงถึงกรณีที่นายการุณ โหสกุล อดีตส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี จากการปราศรัยใส่ร้ายนายแทนคุณตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา พร้อมทั้งนำหลักฐานมาแถลงข่าว ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้เข้าไปป่วนในงานประชุมประชาคมโครงการเอสเอ็มแอลของชุมชนนิเวศชาวฟ้า ว่า ตนได้ไปร่วมงานดังกล่าวโดยนั่งอยู่ในห้องประชุมด้านหลัง จากนั้นมีอาจารย์ท่านหนึ่งเชิญให้ตนขึ้นไปพูดบนเวที ซึ่งก็ได้ใช้เวลาในการพูดคุยกับชาวบ้านราว 20 นาทีเกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ ก่อนที่จะลงจากเวทีและออกจากห้องไป
 
          นายแทนคุณ กล่าวว่า หลังจากนั้นได้มีชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้งตน ให้กลับเข้าไปที่ห้องประชุม เพราะลูกน้องของนายการุณคือ นายประเวศร์ วัลลภบรรหาร อดีตผู้สมัคร สก.พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวพาดพิงตนให้เกิดความเสียหาย โดยอ้างว่ามีการนำเหล้าไปแจกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งๆ ที่ความจริงคือลูกน้องของตนนำอุปกรณ์เกี่ยวกับการรดน้ำ เช่น แป้ง น้ำอบ ใส่ไว้ในกล่องเหล้าขาวเท่านั้น ซึ่งก็เคยมีการชี้แจงไปแล้วด้วย แต่กลับนำเรื่องนี้ไปพูด ในระหว่างการทำประชาคมเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนจึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปสังเกตการณ์
 
          นายแทนคุณ กล่าวว่า เมื่อกลับเข้าไปในห้องประชุมก็เห็น นายการุณ โหสกุล นั่งอยู่ข้างนางพิมพ์ชนา โหสกุล สก.เขตดอนเมือง ซึ่งเป็นภรรยาของนายการุณ ตนจึงยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ แต่เมื่อนายการุณเห็นก็ไปแย่งไมค์ลูกน้องตัวเองประกาศว่า ถ้างานนี้ยังมีตนอยู่การประชาคมจะไม่เกิดผล ทุกอย่างจะฟรีหมด จึงได้แย้งไปว่า ไม่เกี่ยวกับตนเพราะสามารถทำได้เลยเนื่องจากเป็นภาษีของประชาชน  จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่นายการุณ ปรี่เข้ามาชี้หน้าต่อว่าตนด้วยท่าทีคุกคาม จึงได้บอกไปว่า “อย่าทำร้ายผม” ไม่ใช่เรื่องดราม่า แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจริงๆ รวมทั้งมีลูกน้องและผู้สนับสนุนนายการุณประมาณ 5-6 คนมาล้อมตนไว้ ปิดประตูไม่ให้ออกจากห้อง มีการผลักด้านหลังและในคลิปที่มีการนำขึ้นยูทูปก็ปรากฏชัดว่าศอกของนายการุณดันอยู่ที่หลังของตนด้วย
 
          “ผมไม่เคยมีความแค้นเป็นส่วนตัวกับนายการุณ และที่ผ่านมาก็แผ่เมตตาให้ไม่อยากจองเวรจองกรรมกับเก่ง เพราะถือว่ามีเพื่อนห้าร้อย แต่ถ้ามีศัตรูแบบเก่งคนเดียวก็มากเกินพอแล้ว ผมอาสามาเป็นผู้แทนที่ดี หวังว่าคนที่โจมตีว่าผมดราม่า บิดเบือน จะรับฟังความจริงว่าผมไม่ได้ไปป่วน เพราะในงาน สข.ของพรรคเพื่อไทยก็ถ่ายรูปผม ผมไม่โวยวายเพราะเป็นบุคคลสาธารณะพร้อมให้ตรวจสอบ และที่บอกว่า อย่าทำร้ายผมนั้น ไม่ใช่เรื่องดราม่า แต่ผมตกใจและกลัวจริงๆ เพราะไปคนเดียวขณะที่นายการุณก็มีท่าทีคุกคามอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ไม่ใช่การดัดจริตหรือแสดงละคร เพราะนายการุณปรี่เข้ามาหาซึ่งทุกคนก็ทราบดีถึงภาพลักษณ์ของนายการุณว่ามีความถนัดเรื่องหมัดมวยมากกว่าผม” นายแทนคุณ กล่าว
 
          นายแทนคุณ กล่าวว่า ขอตั้งคำถามไปยังนางพิมพ์ชนา ที่กล่าวหาว่าตนไม่มีมารยาททางการเมืองว่า การที่นายการุณไปอยู่ในที่ ที่มีการประชุมเพื่อจัดสรรงบประมาณเหมาะสมหรือไม่ และที่นายการุณเรียกตนว่า “แทนควาย” ผ่านเฟซบุ๊กมาตลอดตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จนถึงการแสดงอิทธิพลว่า หากไม่ใช่เพราะนายการุณไปขอร้องไว้ ตนก็ไม่มีทางเดินในพื้นที่ดอนเมืองได้โดยไม่ถูกกระทืบนั้น คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดของคนที่มีมารยาททางการเมืองหรือไม่ และการที่ตนไปสังเกตการณ์การทำประชาคมที่มีลูกน้องนายการุณพาดพิงให้เสียหาย ไม่สามารถเรียกว่าไปป่วนหรือไม่มีมารยาททางการเมือง แต่ไปเพื่อสังเกตการณ์รักษาประโยชน์ให้ชาวบ้าน เพราะมีกระบวนการให้ชาวบ้านเข้าใจว่า จะได้งบก้อนนี้ก็ต่อเมื่อผ่านนายการุณเท่านั้น ซึ่งไม่ถูกต้องเนื่องจากเงินทั้งหมดเป็นเงินภาษีของประชาชน และตนยังกลับเข้าไปเพื่อรักษาสิทธิของตนเอง ที่ถูกใส่ร้ายด้วย จึงมีการถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน จะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าไม่มีมารยาททางการเมืองได้อย่างไร
 
          นายแทนคุณ กล่าวว่า อยากให้เข้าใจว่า ตนไม่ใช่ต้นเหตุทำให้ถูกตัดสิทธิ แต่พฤติกรรมนายการุณมีการทำผิดกฎหมายจนถูกตัดสิทธทางการเมือง ซึ่งตนรอคอยความยุติธรรมมายาวนานเกือบสองปี และในขณะนี้ก็ยังฟ้องร้องนายเก่งอยู่อีกสองคดี ทั้งแพ่งและอาญา จึงไม่อยากไปแจ้งความดำเนินคดีที่มีการปิดล้อมคุกคามตน เพราะไม่อยากซ้ำเติมนายการุณที่กำลังถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบ อีกทั้งนายการุณก็ไม่ใช่คู่แข่งทางการเมืองของตนด้วย
 
          “ผมเชื่อว่าบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมืองกำลังจะเกิดขึ้น ภายในอาทิตย์หน้าจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา มีคนโทรศัพท์มาที่สำนักงานพรรคเขตดอนเมืองว่า “ขอแสดงความยินดีกับส.ส.คนใหม่ แต่ก่อนที่จะได้เป็นต้องตาม “คม” ไปก่อน” ผมเป็นคนปิดตาให้ “คม” (ชุติเดช สุวรรณเกิด) ในวันที่เขาถูกยิงตาย ลูกเมียเขาทรุดลงตรงหน้าผม แต่คดีผ่านมากว่า 1 ปีไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และผมก็ทราบว่าใครทำ ชื่อย่อ "จ." กับ "น." ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายการุณโดยตรง แต่ทำไมตำรวจจึงจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งๆ ที่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่ดอนเมืองตามปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นจะให้ผมมั่นใจได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะมีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ หากนายการุณไม่เลิกพฤติกรรมแสดงอิทธิพล และพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหยุดพฤติกรรมของนายการุณได้ ทำให้ลูกน้องของผมเกิดความหวาดกลัว รวมไปถึงประชาชนก็จะไม่กล้าสนับสนุนผม” นายแทนคุณ กล่าว
 
          นายแทนคุณ กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ดอนเมืองครั้งนี้ อาจเรียกว่ากำลังจะเกิดวิกฤตการแข่งขันทางการเมือง โดยเฉพาะพฤติกรรมของนายการุณที่แสดงออกมาว่ามีอิทธิพลในพื้นที่ และเข้าไปข้องเกี่ยวกับงบประมาณรัฐบาลที่จัดสรรไปยังชุมชน ในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งซ่อมพอดี โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 11 เม.ย.56 ที่ผ่านมา เพียงวันเดียวมีการนำงบเอสเอ็มแอลเข้าไปถึง 8 ชุมชน ตนจึงขอถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นยุติธรรมหรือไม่ และการประชุมประชาคมต้องให้มีการตรวจสอบไม่ได้ กลัวอะไรจึงไม่ให้ตนถ่ายภาพ
 
          “ผมอดทนมาเกือบ 2 ปีกว่าที่กระบวนการยุติธรรมจะเห็นผล และอยากให้นายการุณทราบว่า ผมไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้นายการุณถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แต่สาเหตุเกิดจากนายการุณ ใส่ร้ายป้ายสีผมระหว่างการปราศรัยหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว กล่าวหาว่าผมอกตัญญูทำให้พ่อตาย ซึ่งผมก็ต้องขอความเป็นธรรมเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตัวเองและศักดิ์ศรีของบิดา ไม่แตกต่างจากที่นางพิมพ์ชนก พยายามปกป้องศักดิ์ศรีของสามี แต่ที่แตกต่างกันคือ ผมอยากให้เคารพศีลธรรมอันดี และกติกาของบ้านเมือง แต่ในขณะนี้มีกระบวนการบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าผมโกหก จึงอยากบอกว่า ไม่เคยโกหกเพราะไม่คิดจะอยู่ด้วยความอัปยศไปตลอดชีวิต ผมไม่คิดว่าต้องเป็นนักการเมืองที่เจริญจากการทำลายคู่แข่ง แต่ที่อาสาเข้ามาก็เพื่อทำประโยชน์ให้บ้านเมือง ถ้าสังคมไม่มีขื่อแป ผู้ใช้อำนาจใช้เพื่อพวกพ้อง บิดเบือนข้อเท็จจริงบ้านเมืองก็จะไม่มีทางสงบ” นายแทนคุณ กล่าว
 
          นายแทนคุณ กล่าวต่อไปว่า ผมขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่ด้วยความสุจริต สู้ตามกระบวนการยุติธรรม แม้จะยอมรับว่ากลัวอยู่บ้างแต่ก็พร้อมสู้และเผชิญกับทุกปัญหา โดยมีนักกฎหมายแนะนำให้ตนเขียนเอกสารเอาไว้ว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้องที่อาจทำอันตรายตนบ้าง เพื่อเป็นหลักฐานหากเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์