ทรท. เย้ยเห็น..ธาตุแท้ สพรั่ง

นายสุทิน คลังแสง รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าววานนี้ (8 มี.ค.) กรณี พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ประธานบอร์ด ทอท. ระบุว่าถูกลอบกัดจากการที่พรรคไทยรักไทยออกมาเปิดโปง การใช้งบกว่า 7 ล้านบาท ในการเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศว่า

ถ้า พล.อ.สพรั่งบอกว่าพวกตนลอบกัดก็ต้องขอปฏิเสธ เพราะเราทำซึ่งหน้า เป็นการตรวจสอบตามหน้าที่ในฐานะที่พรรคเป็นสถาบันการเมือง ที่จะต้องทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารในภาวะที่ยังไม่มีสภาฯหรือฝ่ายค้าน หาก พล.อ.สพรั่งบริสุทธิ์จริงก็ต้องยอมให้ตรวจสอบ

พร้อมทั้งออกมาชี้แจง ไม่ใช่มาว่าคนอื่นว่าลอบกัดอย่างนี้ ส่วนการย้ำว่าตัวเป็นวีรบุรุษนั้น ตรงนี้พอทำให้สังคมรู้แล้วตัวตนที่แท้จริงของ พล.อ.สพรั่งเป็นอย่างไร มีมาตรฐานอย่างไร เพราะวีรบุรุษส่วนใหญ่เป็นเรื่องของคนรุ่นหลังที่เห็นพ้องและยกย่อง ไม่ใช่มายกยอตัวเอง

นายสุทินกล่าวว่า ในวันที่ 9 มี.ค.นี้ คณะทำงานด้านการเมืองของพรรคจะไปยื่นหนังสือให้กับ ป.ป.ช.และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ตรวจสอบการไปดูงานของบอร์ด ทอท.ว่า มีความถูกต้องเหมาะสมเพียงใด

นอกจากนี้ ยังขอให้มีการตรวจสอบการทำหน้าที่ และการใช้งบประมาณขององค์กรต่างๆที่ตั้งขึ้นมาหลังการรัฐประหารคือ สภานิติบัญญัติ (สนช.) และสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ว่าถูกต้องหรือไม่อย่างไร

เพราะพรรคได้พบข้อมูลความผิดปกติในการดำเนินการใช้งบ และยังเห็นว่าการใช้งบในหลายองค์กรขาดความเหมาะสมถูกต้อง ขัดกับนโยบายรัฐบาลที่อ้างว่ามีคุณธรรม และต้องการปราบคอรัปชัน จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯพิสูจน์ว่าจะสามารถทำตามที่ประกาศได้หรือไม่

นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ทราบมาว่าการเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ของ พล.อ.สพรั่งนั้น แทบไม่ได้ดูงานตามกำหนดการเลย พอไปถึงสถานทูตรายงานตัวเสร็จเรียบร้อย ก็ออกเที่ยวพักผ่อนทันที การกระทำลักษณะนี้

ถ้าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย จะต้องถูกเล่นงานจนเละเทะไปแล้ว ส่วนการที่ พล.อ.สพรั่งบอกว่าเป็นวีรบุรุษ ไม่ต้องถูกตรวจสอบนั้น ถ้าคนมีอำนาจแล้วไม่ต้องถูกตรวจสอบ บ้านเมืองคงจะไม่มีขื่อมีแป อยู่ดีๆมายกตัวเองเป็นวีรบุรุษ ก็เหมือนกับที่คนอีสานเปรียบกลองที่ดังเองโดยไม่มีใครตีว่าเป็นกลองจัญไร

ส่วนตัวคิดว่า พล.อ.สพรั่งออกมาพูดมากๆก็ดีเหมือนกัน ประชาชนจะได้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร คนคนนี้เป็นอย่างไร เหมาะสมแล้วหรือที่เราจะต้องอยู่ภายใต้การปกครองของผู้บริหารแบบนี้

นายนิสิตยังกล่าวถึงการบริหารงานของรัฐบาลว่า ที่ผ่านมารัฐบาลบริหารงานผิดพลาดหลายอย่าง และวันนี้ก็เหมือนอยู่อย่างไร้จุดหมาย ไม่เห็นทิศทาง นโยบาย หรือสิ่งใดที่จะทำให้บ้านเมืองดีขึ้นเลย ประชาชนได้แต่นั่งรอดูต่อไปว่ารัฐบาลจะตัดสินใจเรื่องใดผิดพลาดขึ้นมาอีก

การปฏิวัติครั้งนี้ทำให้การเติบโตของสังคมต้องหยุดชะงัก น่าสงสารแทนประชาชนทั้งประเทศ ส่วนข้าราชการวันนี้ที่ต้องใส่เกียร์ว่างเพราะมันไม่มีอะไรให้ทำ ไม่มีนโยบายเป็นชิ้นเป็นอันให้ทำ แตกต่างจากรัฐบาลชุดก่อนที่ข้าราชการต้องทำงานแทบไม่ได้หยุดพัก

วันนี้สิ่งที่รัฐบาลควรทำที่สุดคือ ต้องรีบจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว โดยระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเดือนไหน วันที่เท่าไหร่

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ