รัฐบาลไม่สนยัน ทักษิณ นั่งเก้าอี้ต่อ ไม่ยุบ-ไม่ออกเด็ดขาด

รัฐบาลไม่สนยัน ทักษิณ นั่งเก้าอี้ต่อ ไม่ยุบ-ไม่ออกเด็ดขาด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2549 16:03 น.

โฆษกรัฐบาล ปฏิเสธ สุจินดา แนะ ทักษิณ ยุบสภา พร้อมปัดข่าวลือร่าง พ.ร.ฎ.ยุบสภาล่วงหน้า ยันสถานการณ์ยังไม่ถึงขั้นนั้น มั่นใจผู้นำยังบริหารประเทศได้ แถมยอ เติ้ง วางบทบาททางการเมืองได้ดี ย้ำรัฐยังยึดแนวทางชี้แจงในสภาเท่านั้น

วันนี้ (23 ก.พ.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงถึงกรณีที่พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้ยุบสภาว่า หากดูคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.สุจินดา แล้ว ท่านพูดว่าคงไม่น่ามีอะไรรุนแรง นอกนั้นท่านพูดเพียงว่าหากนายกฯ จะตัดสินใจก็น่าจะเลือกการยุบสภา แต่ ณ วันนี้สิ่งที่รัฐบาลเองยังมั่นใจว่าสถานการณ์ในปัจจุบันยังอยู่ในภาวะที่นายกฯ ยังปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ต่อไป ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตัดสินใจในทิศทางใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการลาออก หรือยุบสภาก็ตาม

ผู้สื่อข่าวถามว่า เชื่อว่าจะคุมสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าถ้าทุกๆ ฝ่ายยืนยันในแง่ของการที่จะชุมนุมกันโดยสงบ ทุกฝ่ายมีความเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภาและทุกๆ พรรคพยายามทำให้ปัญหาต่างๆ นอกสภา กลับเข้าสู่รัฐสภา ตรงนี้เป็นจุดสำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น การที่ทุกคนยังไม่มั่นใจในสถานการณ์จะผ่อนคลายลง จะทำให้ระบบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภาของเราได้มีความตั้งมั่นยิ่งขึ้นมากกว่าที่ผ่านมา ในส่วนนี้ตนต้องขอชื่นชมพรรคชาติไทยของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ที่ออกมาพูดว่าจะได้เตรียมประเด็นที่จะอภิปรายในทุกประเด็น ถือว่าเป็นบทบาทที่จะได้รับความชื่นชม เมื่อถามว่า เป็นเพราะพรรคชาติไทยหวังร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ หัวเราะและไม่ตอบคำถาม

เมื่อถามว่า โฆษกฯออกมายืนยันว่า นายกฯ สามารถบริหารประเทศต่อไปได้นั้นจะสวนทางกับสิ่งที่สังคมเรียกร้องว่านายกฯ รวบอำนาจ เผด็จการ มีผลประโยชน์ทับซ้อน ที่ยังไม่มีการชี้แจงให้ชัดเจน นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นต่างๆ ที่เป็นคำถามของสังคม ไม่ว่าเป็นเรื่องของความพยายามปฏิรูปการเมืองเพื่อแก้ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องของอำนาจผู้บริหารประเทศ รวมทั้งการใช้อำนาจหน้าที่ของรัฐเอื้อประโยชน์กับใครเป็นพิเศษนั้น เป็นเรื่องที่เป็นความห่วงใยทีรัฐบาลเองก็ห่วงใย ซึ่งจะได้มีการขอความเห็นจากรัฐสภา ซึ่งในส่วนนี้หากรัฐสภามีข้อเสนออย่างไรที่ชัดเจน เช่น การนำไปสู่การเสนอแก้รัฐธรรมนูญในมาตราต่างๆ หากเป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันรัฐบาลเองก็พร้อมที่จะเดินหน้าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้มีข่าวออกมามาก ล่าสุดมีข่าวร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภา นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้สังคมของเรากลายเป็นสังคมข้อมูลข่าวลือ แทนสังคมข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะสถานการณ์ในช่วง 2-3 วัน ก่อนการชุมนุมวันที่ 26 ก.พ.จะมีข่าวออกมามากมาย อย่างเมื่อวานก็มีสื่อมวลชนสอบถามมายังตนมากมาย ทำให้เห็นว่าเป็นความพยายามของคนบางกลุ่มที่นอกเหนือการสร้างสถานการณ์ตึงเครียดด้วยการลอบวางระเบิดแล้ว ยังมีความพยายามปล่อยข่าวเพื่อหวังว่าการชุมนุมวันที่ 26 ก.พ.จะลุกลามไม่สามารถคุมได้ ช่วงนี้เป็นช่วงสำคัญที่ควรใช้วิจารณญาณ ตรวจสอบที่มาที่ไปของข่าวสาร

เมื่อถามถึงกลุ่มวางระเบิดกับปล่อยข่าวเป็นคนกลุ่มเดียวกันหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เป็นกลุ่มที่มีความตั้งใจและอยากเห็นสถานการณ์การชุมนุมวันที่ 26 ก.พ.แทนที่จะสงบเรียบร้อย กลายเป็นสถานการณ์ที่ยังไม่มีใครประเมินได้ว่าจะมีการพัฒนาต่อไปอย่างไร ส่วนผู้อยู่เบื้องหลังสถานการณ์ต่างๆ จะหวังผลอะไรนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลอยู่ในฐานะถูกปรักปรำ ฉะนั้นการที่จะทำให้เกิดการชัดเจนของข้อมูลทั้งหมด การอภิปรายทั่วไปในรัฐสภาจะทำให้เกิดความกระจ่างของสังคม และเป็นกลไกที่สมาชิกจะให้ความเห็น รัฐบาลเองจะได้รับฟังข้อมูล และตอบข้อมูลที่มีอยู่ให้สมาชิกและรัฐสภาได้รับทราบ คงมีคนบางส่วนที่ไม่ประสงค์จะให้สถานการณ์ของบ้านเมืองอยู่ในความสงบไปจนถึงวันที่ 6 มี.ค.ส่วนจะเป็นคนกลุ่มใดนั้นยังไม่ทราบและไม่อยากปรักปรำใคร

ไทยรักไทยตื่นข่าวถกค้าน แม้ว ยุบสภา - ล้มเวทีเชลียร์ 3 มี.ค.

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2549 17:58 น.

ส.ส.ไทยรักไทยตื่นข่าว ทักษิณ ยุบสภา เรียกประชุมถกเครียด ลงความเห็นไม่เอาด้วย อ้างควรอยู่สู้ต่อไป ชี้ถ้าเลือกตั้งใหม่แล้วชนะกลับมาก็ยังถูกเดินขบวนขับไล่อยู่ดี พร้อมทั้งเลิกล้มเวทีให้กำลังใจ แม้ว 3 มี.ค.แล้ว ระบุดึงปัญหาเข้าถกร่วม 2 สภาแล้ว

วันนี้ (23 ก.พ.) ที่พรรคไทยรักไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ได้มีการประชุม ส.ส.ภาคกลาง พรรคไทยรักไทย โดยมี นายสรอรรถ กลิ่นประทุม รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ประธานภาคกลาง เป็นประธานในที่ประชุม

โดย นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคไทยรักไทย กล่าวภายหลังการประชุมว่า ในที่ประชุมส่วนใหญ่มีความเห็นว่านายกฯ ไม่ควรยุบสภาหรือลาออก ควรอยู่สู้ต่อไป โดยบรรดา ส.ส.ก็ต้องลงพื้นที่นำเสนอนโยบายและชี้แจงข้อเท็จจริงให้มาก เพราะหากยุบสภานายกฯ ก็ยังชนะการเลือกตั้ง แต่กลุ่มผู้คัดค้านคงไม่ยอมเลิกรา

ด้าน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานภาคกลางได้เน้นย้ำให้ ส.ส.ภาคกลางทุกคนหาทางช่วยเหลือพรรค รวมทั้งให้ทุกคนเร่งทำงานในพื้นที่และช่วยนายกฯ อธิบายกับประชาชน และขอให้ทุกคนช่วยกันให้กำลังใจนายกฯ ด้วย

น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคไทยรักไทยจะจัดเวทีให้ประชาชนออกมาแสดงพลังสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3 มี.ค.ว่า ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้ โดยในการประชุมพรรคเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนมี ส.ส.เสนอแนวคิดตั้งเวทีดังกล่าวขึ้น แต่ในเมื่อวันนี้รัฐบาลเลือกใช้ช่องทางผ่านทางรัฐสภา โดยเปิดเวทีให้มีการอภิปรายจากทั้ง 2 สภาแล้ว พรรคจึงเห็นว่าคงไม่มีความจำเป็นที่จะจัดเวทีดังกล่าวอีก โดยจะให้ ส.ส.นำจดหมายเปิดผนึกจากนายกฯ ไปแจกจ่ายทำความเข้าใจประเด็นต่างๆ ที่ถูกกล่าวหากับประชาชน

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ประธานภาค กทม.ก็ได้เรียกประชุม ส.ส.กทม.เพื่อหารือสถานการณ์ทางการเมือง ภายหลังการประชุม โดย น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ส.ส.กทม.รองโฆษกพรรคไทยรักไทย เปิดเผยว่า คุณหญิงสุดารัตน์ได้สั่งการให้ ส.ส.กทม.นำสื่อต่างๆ ที่พรรคจัดทำขึ้นไปเผยแพร่ทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการขายหุ้น และกรณีข้อกล่าวหาของนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เพราะช่วงนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า นอกจากนี้จะจัดโครงการพรรคไทยรักไทยพบประชาชนใน กทม. ทำกิจกรรมพบปะประชาชนอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.นี้เป็นต้นไป และว่าคุณหญิงสุดารัตน์ยังยืนยันด้วยว่าจะยังไม่มีการยุบสภาตามที่มีข่าวออกมา โดยประเมินว่ายังสามารถประคองสถานการณ์ได้อยู่ แม้กระแสในกรุงเทพฯ จะสู้ต่างจังหวัดไม่ได้ก็ตาม ซึ่ง ส.ส.กทม.ต้องเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนให้มากที่สุด

ด้าน นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวการยุบสภาว่า ต้องขอโอกาสให้นายกฯ ชี้แจงในสภาก่อน เพราะที่ผ่านมานายกฯ ถูกกล่าวหาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเวทีของรัฐสภาถือเป็นเวทีที่ดีที่สุดในขณะนี้ โดยนายกฯจะเป็นผู้ชี้แจงด้วยตัวเอง ส่วนเวทีปราศรัยใหญ่เนื่องจาก ส.ส.เป็นผู้เสนอ แต่พรรคยังไม่ตัดสินใจ แต่เมื่อมีการเปิดสภาแล้ว เชื่อว่านายกฯ จะเลือกใช้เวทีของสภา อย่างไรก็ตาม ส.ส.ที่ได้หารือกัน ประเมินว่านายกฯ ยังเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ และพร้อมจะรับฟังในสิ่งที่นายกฯ จะชี้แจงในสภา

ทรท. ระส่ำหนัก! ไพโรจน์ โผล่เรียกร้องนายกฯ ยุบสภาหนี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2549 13:33 น.

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ไทยรักไทยระส่ำหนัก ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ส.ส.โคราช และกรรมการบริหารพรรค ออกโรงเรียกร้องนายกฯ ทักษิณ ยุบสภาฯหนี คืนอำนาจให้กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ เหตุสถานการณ์ถึงทางตันต้องเปลี่ยนแปลง และผวาผู้ชุมนุมกู้ชาติ ฮือปิดล้อมรัฐสภา 6 มี.ค. อ้าง ทักษิณ ลาออกแก้ปัญหาความสมานฉันท์ของคนในชาติไม่ได้ เพราะจะถูกกล่าวหาว่าบล็อกโหวตดันเอาร่างทรงขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกฯ แทน

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย (ทรท.) ประธานคณะกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ และกรรมการบริหารพรรค ทรท. กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ที่สนามหลวง กรุงเทพฯ ว่า การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นนั้นเป็นสิทธิและเป็นเจตนารมณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย จะไปต่อว่าไม่ได้ เพราะเป็นการต่อสู้กันทางความคิด ซึ่งความคิดเห็นของผู้ที่ไปร่วมชุมนุมอยากจะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกไป

แต่ด้วยกระบวนการของรัฐธรรมนูญที่เป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ค่อนข้างชัดเจนในเชิงประจักษ์ ซึ่งทุกคนแม้แต่กลุ่มผู้ชุมนุมก็รับทราบว่าเป็นรัฐธรรมนูญประชาชน และเงื่อนไขการทำผิดกฎหมายของนายกรัฐมนตรีก็ไม่มีอะไร วันนี้มีเฉพาะประเด็นการขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปเท่านั้น และเป็นสถานการณ์ที่ทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้ว

สำหรับการชุมนุมที่อาจจะมีการยืดเยื้อต้องเป็นภาระของรัฐบาลที่จะต้องอำนวยความสะดวกและดูแลให้เกิดความเรียบร้อย ซึ่งคนที่เข้าร่วมชุมนุมส่วนใหญ่จะอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นหลัก และบางส่วนมาจากต่างจังหวัดที่จะเข้าไปร่วมสมทบ เช่น กลุ่มที่ยังมีปัญหาคาราคาซัง คือกลุ่มครู เกษตรกรรายย่อย และกลุ่มของลูกศิษย์หลวงตามหาบัว หากกลุ่มผู้ชุมนุมมีจำนวนมากอาจจะทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นได้

ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า หากมีการชุมนุมยืดเยื้อและจะเปิดประชุมสภาฯ ในวันที่ 6 มี.ค.นี้ในเวลา 13.30 น. ซึ่งจะมีการเปิดอภิปรายทั่วไป แต่หากมองสถานการณ์ในวันนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีการเปิดอภิปรายเกิดขึ้นได้หรือไม่ จึงอยากฝากไปถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่ชุมนุมกันอย่างสงบและมีประชาชนเข้าร่วมมากกว่า 4-5 หมื่นคนนั้นหากมาปิดล้อมรัฐสภา ซึ่งมีทางออกแค่ 2 ประตูจะทำกันอย่างไร เพราะมีข่าวออกมาว่ากลุ่มผู้ชุมนุมจะทำการปิดล้อมรัฐสภาในวันดังกล่าว หากนายกรัฐมนตรี, ส.ส., รัฐมนตรี อยู่ในนั้นต้องฝากประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วยว่าจะแก้ไขปัญหาตรงนี้กันอย่างไร

ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ กล่าวต่อว่า ทางออกที่ดีและน่าจะทำให้ทุกฝ่ายรับได้ก็น่าจะใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 3 ที่ระบุว่า อธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยถ้ามีความขัดแย้งที่สูง ตามกรอบของรัฐธรรมนูญคือต้องคืนอำนาจให้กับประชาชนและพิสูจน์กันว่าถ้าใครได้เสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนมากที่สุดก็ถือว่าทุกอย่างต้องจบลงอย่างสมานฉันท์ นำประเทศไทยก้าวไปสู่ความเป็นเลิศต่อไป

การคืนอำนาจให้กับประชาชนต้องยุบสภาฯ แต่ถ้านายกฯ ลาออกปัญหาก็ไม่จบ เพราะหากลาออกแล้วมีการโหวตเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีกันใหม่ก็จะบอกว่ามีการบล็อกโหวตหรือเลือกคนที่เป็นร่างทรงนายกฯ คนเดิมขึ้นมา จึงไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถาวร วันนี้เราถือว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินเมื่อเกิดความคิดขัดแย้งของพี่น้องประชาชนด้วยกัน เพื่อให้เกิดความรักสามัคคีสิ่งที่ทุกคนรับได้ก็คือ ใครได้เสียงข้างมากกลับเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ กล่าว และว่า

นายกรัฐมนตรีควรประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ทันที ถือว่าเหมาะสมที่สุด หรือวันไหนก็ได้แต่ควรจะทำเร็วที่สุด หากจำได้เมื่อครั้งที่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย เรื่องปัญหา ส.ป.ก.4-01 วันที่จะลงมติเวลาประมาณ 13.30 น. ปรากฏว่าก่อนถึงเวลาประมาณ 15 นาที มีการประกาศยุบสภาฯ ทุกอย่างก็ยุติ กลุ่มผู้ชุมนุมก็สลายการชุมนุมไปทั้งหมด และ ส.ส.ต่างลงพื้นที่กันหมด

ฉะนั้น การคืนอำนาจให้ประชาชนถ้าเรายอมรับว่าพี่น้องประชาชน คือคนที่เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ให้เขาไปตัดสินใจจะได้รู้กันว่า 19 ล้านเสียงที่เลือกพรรคไทยรักไทยยังมีอยู่หรือเปล่า คิดว่าทางออกแบบนี้ประชาชนน่าจะรับได้และน่าจะเกิดความสมานฉันท์ของคนในชาติ ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ กล่าวย้ำ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์