“ราตรี”ได้รับอิสรภาพถึงมาตุภูมิแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้(1 ก.พ.) เวลา 16.00 น. ที่ประเทศกัมพูชา  รมช.มหาดไทยกัมพูชา

ได้เดินทางมาที่เรือนจำเปรย์ซอว์ กรุงพนมเปญ และอ่านพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษกับนักโทษ โดยมีนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้จำนวนหลายคนร้อยคน รับฟังอ่านพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ซึ่งรวมถึงน.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ด้วย ทั้งนี้มีผู้บัญชาการเรือนจำเปรซอร์ นายธัชชยุติ ภักดี เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศของไทย รวมถึงนายวีระ สมความคิด ที่ได้รับการลดโทษ 6 เดือน พร้อมด้วยญาติของน.ส.ราตรี และนายวีระ ร่วมรับฟังด้วย

ภายหลังจากที่น.ส.ราตรี ได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ

หลังการอ่านพระราชกฤษฎีกาฯเสร็จสิ้นแล้ว ได้เดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติ กรุงพนมเปญ ของกัมพูชา เพื่อเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยโดยเครื่องบินของสายการบินไทย ในเวลา 20.40 น. และจะมาถึงท่าอากาศสุวรรณภูมิ ในเวลา 21.45 น. โดยน.ส.ราตรี เปิดเผยหลังถูกปล่อยตัวว่าจะให้สัมภาษณ์เมื่อถึงประเทศไทยแล้ว

ขณะที่นายวีระ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้สึกดีใจกับ น.ส.ราตรี แต่ในส่วนของตน จะใช้สิทธิ์ขอรับการโอนตัวไปรับโทษต่อที่ประเทศไทย เพราะถูกจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 ของจำนวนเวลาที่ต้องโทษ และตนขอให้รัฐบาลหาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่
 

ล่าสุดเมื่อเวลา 21.45 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แน่นขนัดไปด้วยญาติมิตรน.ส.ราตรี
 
รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อเหลืองและประชาชนทั่วไปที่ไปให้กำลังใจและรอรับกลับบ้านรวมทั้งกองทัพนักข่าวที่รอทำทำข่าว โดยเมื่อเดินทางลงจากเครื่องเข้าสู่อาคารผู้โดยสารและเห็นผู้มาต้อนรับล้นหลามเจ้าตัวถึงกับน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลา และเปิดใจเพียงสั้นๆ ว่า ตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะยังไม่รู้สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ขอไปกราบคุณพ่อคุแม่ที่บ้านก่อน และยังไม่รู้สึกดีใจเพราะคุณวีระยังถูกคุมขังอยู่ โดยตนได้กำชับให้คุณวีระดูแลสุขภาพ ขณะที่คุณวีระได้ฝากตนและคนไทยให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ แต่ขอขอบคุณทุกคนที่มารอต้อนรับรวมทั้งคนไทยทุกคนที่ให้กำลังตลอดกว่า 2 ปีที่ถูกคุมขัง  ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยทำผิด.