“มาร์ค” ของขึ้น จวก“ปึ้ง”ขาดจิตสำนึกป้องชาติ

                  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ถึงท่าทีของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศที่หยิบเอาคำพูดของสมเด็จฯฮุน เซนมาแถลงข่าวว่า น่าหดหู่มากที่ รมว.ต่างประเทศของประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นโฆษกให้กับรัฐบาลของอีกประเทศหนึ่งซึ่งเป็นคู่พิพาทของเราในคดีเกี่ยวกับดินแดนในศาลโลก

             โดยไปช่วยโจมตีรัฐบาลที่แล้วของไทยคนเป็น รมว.ต่างประเทศนั้นไม่น่าจะขาดสำนึกว่าหน้าที่ของตนเองคืออะไรขนาดนี้ รัฐบาลนี้มัวแต่ห่วงการตอบโต้กล่าวหาในประเด็นทางการเมือง มากกว่าสนใจงานสำคัญ ก็คือการปกป้องประโยชน์ของประเทศ ไม่ทราบว่าคิดอย่างไรที่มาขยายความงานแถลงของกัมพูชา ในขณะที่เวลาเขาแถลงแล้วกระทบกับประเทศไทย เช่นกล่าวหาว่าประเทศไทยไปรุกรานอธิปไตยเขา ไม่ตอบโต้ แล้วจะให้คนมั่นใจได้อย่างไรว่า ไปต่อสู้กับกัมพูชาในศาลแล้วจะอยู่ข้างไหน

             นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่สำคัญคือแถลงการณ์ของกัมพูชา ไม่มีอะไรเลย มีอย่างเดียวคือกัมพูชาลักไก่นิดหน่อย ที่บอกว่ารัฐบาลของตน โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯในขณะนั้นไปพูดคุยกับเขานั้น 2 ครั้งแรก เป็นการเจรจานอกรอบ เพื่อดูว่าถ้าจะทำกรอบการเจรจาตามมาตรา 190 จะต้องทำอย่างไร แล้วพอต่อมา เราแขวน MOU ปี 44 ก็ไม่มีการดำเนินการเรื่องนี้อีก และที่นายสุเทพ ไปคุนหมิงนั้น ก็ไปงานการประชุมนานาชาติที่จีนเขาจัด ไม่มีการพูดคุยกันเรื่องนี้ พวกตนไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรอยู่แล้ว ไม่ได้คำนึงว่าบริษัทที่มาทำธุรกิจจะได้ประโยชน์อย่างไร

             แต่ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศ นี่คือความแตกต่างระหว่างตนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และสมเด็จฯฮุน เซน และคงจะต่างจากคนในรัฐบาลนี้ด้วย ดังนั้นสิ่งที่รมว.ต่างประเทศต้องตอบคือ ตกลงรัฐบาลนี้โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรฯ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี หรือผู้ที่เกี่ยวข้องคนอื่นๆ เจรจาเรื่องนี้หรือไม่ ตอบมาให้ชัดเจน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สมเด็จฯฮุน เซน มีผลประโยชน์ทางธุรกิจพลังงานหรือไม่

           “ผมว่านอกเหนือจากการสู้คดี รมว.ต่างประเทศยังมีงานอื่นที่ควรจะไปทำมากกว่านี้ ไม่ใช่กลายเป็นว่ากัมพูชาพูดอะไรไปเออ ออ ห่อหมกกับเขาหมด แม้กระทั่งเขาบอกว่า ดินแดนของเราเป็นของเขาก็ยังไปเออ ออ กับเขา แล้วจะไปชนะคดีได้อย่างไร ขอให้ไปตั้งหลักใหม่ในการแก้ปัญหาเรื่องอื่น เช่นปัญหาที่อินโดนีเซียเพิ่งออกประกาศห้ามไม่ให้เราส่งทุเรียนออกไปที่อินโดนีเซีย และยังมีการจำกัดโควต้าการส่งออกลำไยด้วย ปัญหาอย่างนี้รมว.ต่างประเทศได้ทำอะไรหรือยัง ให้ความสนใจบ้างหรือไม่” นายอภิสิทธิ์ กล่าว