สนธิ เตรียมรับมือ กระแสวางบอมบ์ วันมาฆะ สงกรานต์

โดยทาง บช.น.ได้มีการประชุมด้านการข่าวเพื่อประเมินสถานการณ์ทุกสัปดาห์

พร้อมสั่งเพิ่มจุดเฝ้าระวังในเมืองกรุงเป็นกว่า 1,000 จุด เน้นรักษาความปลอดภัย สถานทูต หน่วยงานราชการ ห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ แหล่งตลาดนัดและย่านชุมชน

ให้ตำรวจสายตรวจเพิ่มกำลังตั้งด่านวันละ 5 จุด ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยประสานกำลังจากหน่วยทหารกองทัพภาคที่ 1 และเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม. เข้าร่วมเสริมกำลังออกตรวจตราและขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยสอดส่องนั้น

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 ก.พ. ที่กองบัญชาการกองทัพบก

พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลวันมาฆบูชาและวันสงกรานต์ว่า

ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะ ผอ.รมน.

ให้ติดตามเรื่องการข่าวและได้แจ้งเตือนให้หน่วยต่างๆ ในพื้นที่ ดูแลเฝ้าระวังความปลอดภัยให้กับประชาชน ขอย้ำว่าประชาชนทุกคนต้องมีส่วนร่วมด้วย เพราะลำพังเพียงเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดูแลพื้นที่ได้ทั่วถึง

และหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำได้ดีอยู่แล้ว

เช่น การตรวจตราก่อนเข้าสถานบันเทิง อย่าคิดว่าเป็นการละเมิดสิทธิ ทุกคนคงทราบถึงความจำเป็นที่ต้องมีการตรวจตรา

ทั้งนี้ การตรวจตราอยากให้ทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน เพราะช่วงที่ผ่านมาหลังช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา การตรวจตรา ได้ลดน้อยลงไป

พล.อ.มนตรีกล่าวว่า

ภัยการก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เป็นภัยที่จะมีผลกระทบต่อทุกคนโดยจะไม่เลือกสถานที่ ไม่เลือกเจ้าหน้าที่รัฐ ปัญหาได้ กระทบกระเทือนความเป็นอยู่ของประชาชน

การดูแลรักษาความปลอดภัยไม่เฉพาะพื้นที่ กทม.เท่านั้น

แต่ต้องทุกที่ โดยควรจะทำเป็นระเบียบปฏิบัติที่ควรต้องทำ ถ้าทุกคนทำเรื่องนี้จนชินเป็นนิสัย คิดว่าประชาชนจะหายอึดอัดและจะได้จับจ่ายใช้สอยอย่างมีความสุขขึ้น โดยเรื่องนี้ ไม่ได้กระทบเฉพาะประเทศไทย แต่กระทบทั้งโลก

ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยประสานงานกับทางตำรวจเพื่อติดตามสถาน-การณ์

โดยตลอด ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้ในด้านการข่าวพบสิ่งผิดปกติหรือไม่ พล.อ.มนตรีตอบว่า ขณะนี้เท่าที่ ได้รับแจ้งมายังไม่พบสิ่งผิดปกติ โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุจะอาศัยก่อเหตุในวันสำคัญ ที่ประชาชนมารวมกันจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ได้มีการแจ้งเตือนไปแล้ว ทั้งในส่วนของวันมาฆบูชาและวันสงกรานต์

เมื่อถามว่า หน่วยข่าวแจ้งว่าพบผู้ต้องสงสัยจำนวน 10 คน

จะเดินทางเข้ามาก่อเหตุใน กทม.ในช่วง 2-3 วันนี้ พล.อ.มนตรีตอบว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้รับรายงาน เมื่อถามถึงกรณีที่รัฐบาลออสเตรเลียแจ้งเตือนชาวออสเตรเลีย ไม่ให้เดินทางมายังประเทศไทย เพราะอาจเกิดการก่อเหตุ ขึ้น

พล.อ.มนตรีตอบว่า ทางเราไม่ได้คัดค้านอะไร

เพราะเป็นการแจ้งเตือนเป็นหน้าที่ของสถานทูตต่างๆ ที่ต้องดูแล ความปลอดภัยให้กับประชาชนของเขา ดังนั้น เขาจึงแจ้งเตือนว่าที่ใดบ้างที่ควรจะหลีกเลี่ยง เป็นเรื่องธรรมดา ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน

ทาง กอ.รมน.ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในห้วงที่มีเทศกาล เจ้าหน้าที่ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ แต่พื้นที่กว้างขวางและหลากหลาย ลำพังเจ้าหน้าที่อย่างเดียวคงไม่พอ

เพราะคนที่จ้องจะทำกับคนที่เฝ้าระวังมันสู้กันไม่ได้ พล.อ.มนตรีกล่าว

เมื่อถามว่ารู้หรือไม่ว่ากลุ่มที่จ้องจะก่อเหตุเป็นกลุ่มไหน

พล.อ.มนตรีตอบว่า ขออนุญาตไม่เปิดเผย แต่เราได้มีการเฝ้าติดตามในกลุ่มที่ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถามว่าจะมีการเฝ้าสกัดกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่จะเข้ามาก่อเหตุที่ กทม.ด้วยหรือไม่

พล.อ.มนตรีตอบว่า เราติดตามในส่วนนั้นด้วย และในส่วนของกองทัพภาคที่ 4 ก็ได้มีการแถลงไปแล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ก็ได้มีการจับตัว ผู้ต้องสงสัยได้หลายคน และกำลังขยายผลการจับกุมอยู่

พล.อ.มนตรีกล่าวว่า

ในต้นเดือน มี.ค.นี้ ผอ.รมน. จะเชิญ กอ.รมน.ภาค และ กอ.รมน.จังหวัดมาประชุมกัน เพื่อกำชับนโยบายต่างๆ เช่น นโยบายเศรษฐกิจพอเพียง นโยบายความมั่นคงต่างๆ

โครงการที่จะต้องเร่งทำในปี 2550 คือเรื่องอุดมการณ์ความรักชาติ นอกจากนี้ยังกำชับการประชาสัมพันธ์เรื่องงานทำบุญประเทศ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 เม.ย.นี้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ