วันที่ 18 ธันวาคม ภายหลังจากชัดเจนแล้วว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่มีมติเกี่ยวกับการทำประชามติ
โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปทำการศึกษาเพิ่มเติมอีกครั้ง ปรากฏว่า นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มกรีน ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ค “สุริยะใส กตะศิลา” ว่า “ในที่สุดประชุมครม.วันนี้ก็ไม่ได้ข้อยุติในประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ให้ผู้รับผิดชอบไปศึกษาความเป็นไปได้อีก 2-3 สัปดาห์ ผมวิเคราะห์ว่า น่าจะมีสาเหตุจากรัฐบาลยังไม่ตกผลึกว่าจะตั้งประเด็นคำถาม อย่างไรเพื่อให้ประชาชนออกเสียงหาข้อยุติ เพราะคำถามหรือประเด็นที่ตั้งขึ้น จะเป็นตัวบ่งบอกนัยยและวาระซ่อนเร้นได้เหมือนกันว่า รัฐบาลมีเป้าหมายที่แท้จริงอยู่ตรงไหน
แรกเริ่มเดิมที จะตั้งประเด็นออกเสียงประชามติว่า รัฐสภาควรลงมติวาระ 3 หรือไม่ แต่เนื่องจากเกรงว่าจะขัดกับคำวินิฉัยของศาล รธน.จึงมาตั้งประเด็นใหม่ว่า “เห็นควรแก้ รธน.หรือไม่”
แต่รัฐบาลเริ่มหวั่นไหวไม่มั่นใจเพราะถ้าประชามติออกมาว่า ประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข รธน. จะทำให้ประตูปิดไปเลย ล่าสุดพยายามเสนอประเด็นใหม่ โดยจะตั้งประเด็นว่า "เห็นด้วยกับการแก้ไข รธน.ทั้งฉบับหรือไม่" ยิ่งสะท้อนวาระซ่อนเร้นของรัฐบาลว่า ยังไงเสียก็ต้องแก้ รธน.ให้ได้ เพราะกรณนี้ถ้าประชามติไม่ผ่าน รัฐบาลก็จะเสนอแก้เป็นรายมาตราแทน เรียกได้ว่าจะเป็นการแก้ทั้งฉบับหรือรายมาตราก็เอา เพื่อปลายทางฟอกผิดคนๆ เดียว
ถ้าการตั้งประเด็นล่าสุดเป็นแบบนี้ก็เปลือยธาตุแท้และวาระซ่อนเร้นของรัฐบาลได้เป็นอย่างดีว่า ไม่ได้จริงใจที่จะให้ประชาชนตัดสินใจแต่อย่างใด แค่หาเครื่องมือสร้างความชอบธรรมเพื่อรื้อ รธน.เพื่อคนๆ เดียวเท่านั้น
ทั้งปัจจัยความเสี่ยงจากกระแสต้านของสังคมที่จับได้ไล่ทัน
และความเสี่ยงต่อปัญหาทางกฎหมายอีกหลายมิติ จึงทำให้รัฐบาลซื้อเวลาออกไปก่อนสักพักเพื่อตั้งหลักใหม่ แต่ก็เป็นเรื่องยากอยู่ดี เพราะถ้าเจตนารมณ์การแก้ รธน.เพื่อคนๆเดียว ไม่ได้เพื่อประชาชนส่วนใหญ่อะไรต่อมิอะไรก็จะติดขัดไปหมดครับ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
