ยิ่งลักษณ์-เต็งเส่ง ชี้ทวายเป็นอนาคตใหม่ไทย-พม่า

ยิ่งลักษณ์-เต็งเส่ง ประสานเสียง เชื่อโครงการทวายเป็นอนาคตใหม่ของทั้งไทยและพม่า พร้อมเร่งเดินหน้าให้ทันตามกรอบเวลา

ยิ่งลักษณ์-เต็งเส่ง ชี้ทวายเป็นอนาคตใหม่ไทย-พม่า


              น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เต็ง เส่ง ประธานาธิบดีแห่งสหภาพเมียนมาร์ เดินทางไปยังโครงการทวาย (Visitor Center) โดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปความคืบหน้าโครงการ ซึ่ง นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเมียนมาร์ ได้กล่าวยืนยันความสำคัญของโครงการฯว่านอกจากจะยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศและภูมิภาค แล้วยังสำคัญต่อการเชื่อมโยงอาเซียนด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเร่งเดินหน้าและเปิดโอกาสให้ประเทศที่ 3 เช่น ญี่ปุ่นและภาคเอกชนเข้าร่วมสนับสนุนด้วย อีกทั้ง จะมอบให้คณะอนุกรรมการทั้ง 6 ชุด เร่งจัดลำดับความสำคัญของการดำเนินการ องค์ประกอบ และปัจจัยต่างๆ รวมทั้งอุปสรรค ปัญหาต่างๆเพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งผู้นำทั้งสองจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่


             นอกจากนี้ ทางประธานาธิบดีเมียนมาร์ ยังได้แสดงความยินดีที่จะยกระดับด่านสิงขร เป็นด่านถาวรตามที่ไทยได้เสนอมานานแล้ว ขณะที่นายกรัฐมนตรีของไทย ก็จะพิจารณาการก่อสร้างถนนต่อจาก เมียวดี-กอกะเระ และจะเชื่อมต่อไปยังมะระแหม่ง เพื่อการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นตามที่เมียนมาร์เสนอ รวมถึงการพัฒนาเส้นทางรถไฟเก่าบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ด้วย สำหรับเรื่องการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าวที่สิ้นสุดวันที่ 14 ธ.ค. 55 ไทยได้ผ่อนผันระยะเวลาให้อีก 3 เดือน โดยจะอำนวยความสะดวกในการปรับสถานภาพให้เป็นแรงงานถูกต้องตามกฎหมาย


              จากนั้นนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีเมียนมาร์ ได้ร่วมเยี่ยมชมนิทรรศการโครงการทวาย และบ้านตัวอย่างที่ก่อสร้างให้ประชาชนในพื้นที่ ก่อนร่วมหารือเต็มคณะ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ชื่นชมการทำงานของคณะกรรมการร่วมระดับสูงฯ(JHC) คณะกรรมการประสานงานร่วมฯ(JCC) และ Joint-subcommittee ที่ร่วมทำงานอย่างแข็งขันและมีผลสรุปที่คืบหน้า โดยต่างย้ำถึงความสำคัญและประโยชน์ของโครงการที่เป็นอนาคตใหม่ของสองประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ทั้งจากการสร้างประตูการค้าเชื่อมโยงตลาดตะวันตก และผลลัพท์เรื่องการขยายการจ้างงานและยกระดับมาตรฐานฝีมือแรงงาน นอกจากนี้ ยังเห็นชอบแผนการดำเนินงาน หรือ roadmap ให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ ยังให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่และภาคประชาชน และจัดทำแผนการพัฒนาชุมชนทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะปานกลาง โดยเมียนมาร์ยืนยันจะดำเนินการให้ดีที่สุด รวมทั้งประเด็นด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์