เต้น”แฉระบายข้าวยุครัฐบาลปชป.ส่อทุจริต

ณัฐวุฒิ”แฉ ระบายข้าวยุครัฐบาล ปชป.ส่อทุจริต ปูด 11 บริษัทโยงนักการเมือง ภท.-ปชป.ลั่นหลักฐานมัดแน่น จ่อร้อง ป.ป.ช. เอาผิด สัปดาห์หน้า เผยเตรียมลงนามเอ็มโอยู เปิดโครงการ “ลูกไม้หล่นไม่ไกลห้าง”

เต้น”แฉระบายข้าวยุครัฐบาลปชป.ส่อทุจริต


                 ที่พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ แถลงว่า ได้มีผู้หวังดีส่งข้อมูลมาให้ในเรื่องการระบายข้าวในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มาให้โดยพบว่ามีการอนุมัติให้จำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลที่มีปริมาณเกินกว่า 1 แสนตัน แก่ 11 บริษัทที่ได้รับการประมูล และการประมูลหลายครั้งพบว่า 11 บริษัทดังกล่าวผลัดกันชนะการประมูลอย่างมีนัยยะ อีกทั้งยังมีเอกชนบางรายสามารถสั่งซื้อข้าวจากรัฐบาลได้โดยใบสั่งซื้อเพียงใบเดียว และสั่งซื้อในราคาที่ต่ำกว่าตลาด สามารถเป็นเจ้าของโควตาสั่งซื้อข้าวจากรัฐบาลมากกว่าเอกชนทุกราย ที่สำคัญมีรายชื่อของคณะกรรมการบริษัทโยงกับฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจน

             ด้วยเหตุนี้พรรคประชาธิปัตย์จึงไม่สามารถปัดความรับผิดชอบ โยนให้เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยพรรคเดียวได้ เพราะมีหลักฐานเป็นมติ ครม.วันที่ 18 พ.ค. 53 โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เสนอการจำหน่ายข้าวในสต็อกรัฐบาลตามแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกตกต่ำ เป็นวาระทราบจร แต่ในตอนท้ายของหนังสือได้ระบุหมายเหตุว่า เรื่องนี้ ครม.ได้หยิบยกขึ้นเป็นเรื่องพิจารณา


            “นอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นยังเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ด้วย เรื่องนี้พรรคภูมิใจไทยทำคนเดียวไม่ได้ พรรคภูมิใจไทยเป็นผู้เสนอและมีพรรคประชาธิปัตย์อนุมัติ หลักฐานความเชื่อมโยงของบริษัทที่ชนะการประมูลกับนักการเมืองผู้มีอำนาจในรัฐบาลขณะนั้นชัดยิ่งกว่าชัด มีรายชื่อชัดเจน รับรองว่าไม่มีชื่ออักษรย่อ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะยื่นคำร้องมอบหลักฐานต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบเอาผิด พร้อมกับมอบให้คณะกรรมการตรวจสอบการระบายข้าวของกระทรวงพาณิชย์ควบคู่กันไป” นายณัฐวุฒิ กล่าว


            นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำเนื่องจากผลผลิตล้นตลาดนั้น ในวันที่ 17 ธ.ค. นี้ ตนเองในฐานะ รมช.พาณิชย์และรับผิดชอบดูแลเรื่องดังกล่าวจะลงในนามบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรด ซึ่งได้ตกลงรับซื้อผลผลิตที่เป็นผัก ผลไม้ ที่ล้นตลาดและราคาตกต่ำจากเกษตรกรเพิ่มจากเดิม 45 เปอร์เซ็นต์ รวม 1.2 แสนตัน นอกจากนี้จะมีการซื้อหมู ไข่ไก่ จากเกษตรกรหากมีปัญหาสภาพราคาตกต่ำ ภายใต้โครงการ “ลูกไม้หล่นไม่ไกลห้าง” นอกจากนี้ยังเปิดพื้นที่ให้จำหน่ายสินค้าโอทอปด้วย


            ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนเรื่องราคาสินค้าปรับเพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายฤดูฝน โดยเฉพาะราคาผัก พรรคเพื่อไทยจึงตั้งคณะทำงานรวบรวมข้อมูล และจะเสนอต่อรมว.พาณิชย์ ในการประชุมพรรควันที่ 25 ธ.ค.นี้ เพื่อเร่งแก้ปัญหาและหามาตราดูแลเรื่องราคาไม่ให้กระทบผู้บริโภค


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์