เฉลิมปัดกลั่นแกล้งอภิสิทธิ์-สุเทพ

7 ธ.ค.55 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ออกมายืนยันว่าพร้อมสู้ดีที่มีผู้เสียชีวิต 91 ศพจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553 ซึ่งรัฐบาลกำลังพยายามเล่นงานในเรื่องนี้ ว่า 

ไม่ใช่รัฐบาลเล่นงาน แต่เป็นไปตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพราะพนักงานสอบสวนไม่ได้มีเฉพาะดีเอสไอ ซึ่งมีทั้ง ตำรวจ และอัยการ ซึ่งอัยการเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ใครไปสั่งไม่ได้ ส่วนใครจะชี้แจงอย่างไรก็ไปว่ากันกับดีเอสไอ รัฐบาลและตนไม่เกี่ยวข้องด้วย

ส่วนกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวว่าเรื่องนี้เป็นเกมการเมืองนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า 

ไม่ใช่ นายชวนนท์ อาจจะเข้าใจไปเอง ตนยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในสากลโลกว่าตนไม่เคยไปกลั่นแกล้ง แล้วไม่เคยไปเอาหลักฐานสักชิ้นที่เป็นเท็จให้บุคคลเหล่านั้นถูกดีเอสไอสอบ ทั้งนี้ความจริงก็คือว่าเมื่อเกิดเหตุใหม่ๆ มีการเอาสำนวนชันสูตรพลิกศพ ไปเก็บไว้ที่ดีเอสไอแล้วไม่ดำเนินการสอบสวน เรื่องมันก็เลยเงียบมาตลอดซึ่งเป็นการผิดหลักกฎหมาย เมื่อตนมารับผิดชอบก็สั่งการว่า เมื่อมีคนตายลักษณะอย่างนี้ตำรวจท้องที่ที่พบศพต้องทำการสอบสวน และอัยการมาร่วม เมื่อเห็นข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้วก็ส่งอัยการ และส่งศาลไต่สวน ตนอ่านคำสั่งศาลก็บอกไว้ว่าใครตายชื่ออะไรทำอะไรรู้หมด ใครทำให้ตาย โดยปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เรื่องก็มาถึงตรงนี้ ใครไปบังคับศาลได้ ใครจะพูดอะไรก็พูดได้ แต่ก็ต้องดูข้อเท็จจริงและเหตุผลประกอบ

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ทั้งนี้เมื่อศาลท่านสั่งว่านายพัน คำกอง เสียชีวิตโดยการกระทำของเจ้าหน้าที่ทหารและเป็นการปฏิบัติตามคำสั่ง ศอฉ. แล้วใครจะแกล้ง แกล้งอย่างไร และจะทำได้ไปหรือไม่ถ้าไม่มีข้อเท็จจริงเช่นนี้

 เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสังเกตว่าคำแถลงของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน คล้ายกับ ร.ต.อ.เฉลิม เหมือนกับมีการตั้งธงไว้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ใช่ คนเรียนกฎหมายนั้นพูดไม่ต่างกัน คำสั่งศาลจะพูดเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร และตนไม่ได้พูดก่อนศาลมีคำวินิจฉัย

เมื่อถามว่าการเลื่อนการแจ้งข้อกล่าวหาสามารถทำได้กี่ครั้ง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องอยู่ที่ดีเอสไอ แต่สมัยที่ตนเป็นสารวัตรกองปราบปรามให้สองครั้ง ส่วนจะเป็นการประวิงเวลาหรือไม่นั้นตนคิดว่าคงไม่ เพราะช้ามาตั้งนานแล้ว

“รัฐบาลชุดนี้กำลังทำให้ความจริงปรากฏ ใครทำผิดต้องรับโทษไม่มีอย่างอื่น ผมจะไปตั้งธงอย่างไร แล้วอัยการเขาเอาด้วยหรือ เขาเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ อย่าไปเข้าใจผิด ไม่มีหรอก จะไปสู้คดีกันอย่างไรก็ช่างเถอะ” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

เมื่อถามถึงเหตุผลที่ฝ่ายค้านระบุว่าจะเป็นการบีบให้เข้าสู่การนิรโทษกรรม ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็คิดไปเอง นี่มันคดีรุนแรง ถ้าใครผิดโทษหนัก ตนไม่ได้บอกว่าใครผิดใครถูก อย่ามาแสดงออกอย่างนี้มันไม่ใช่ข้อเท็จจริง แกล้งกันไม่ได้หรอกคดีอย่างนี้ ส่วนที่นายสุเทพ ระบุว่ายอมติดคุกดีกว่าจะมาบีบให้ออกกฎหมายปรองดอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขั้นตอนมันอีกตั้งนานดีเอสไอ หรืออัยการ อาจจะสั่งไม่ฟ้องก็ได้ อีกยาว ตนไม่แสดงความเห็นไม่ทะเลาะด้วย แต่จะทำงานตามหน้าที่ และครั้งที่ตนสั่งให้ดำเนินการชันสูตรพลิกศพ ก็ไม่รู้ด้วยว่าข้อเท็จจริงจะออกมาเป็นอย่างนี้

ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ ออกมายืนยันว่าจะต่อสู้ทุกขั้นตอน และระบุว่าเป็นการนำประเด็นกลั่นแกล้งทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จะไปกลั่นแกล้งอย่างไร นี่เป็นคดีอาญาแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องการเมือง ส่วนลำดับขั้นตอนทางกฎหมายจากนี้ก็แล้วแต่ดีเอสไอ และคดีนี้รับเป็นคดีพิเศษก่อนตนมารับหน้าที่ประธาน

ผู้สื่อข่าวถามว่านายสุเทพ กับนายอภิสิทธิ์ ยังจะพอมีเวลาพักหายใจ หายคอ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังมีเวลาอีกนาน

ทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ได้กล่าวถึงกรณีคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ได้เชิญร.ต.อ.เฉลิม และผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริงในเหตุการณ์การชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ในวันนี้(7ธ.ค.) ว่า พอดีตนติดธุระ และได้ขอเลื่อนแล้ว และหากโอกาสหน้าได้รับเชิญไปชี้แจงอีกก็จะไป