ยกเครื่องใหม่แผนแก้ไฟใต้ใช้ต้นปี “ปู”ลงพื้นที่เบิกโรง

                น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.อ.อุดมเดช ศรีตะบุตร เสนาธิการทหารบก พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รองเลขาธิการ ศอ.บต. เลขาธิการสำนักงบประมาณ และเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นต้น ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง

            จากนั้น พล.ท.ภราดร เปิดเผยว่า เป็นการประชุมเพื่อบูรณาการแผนด้านความมั่นคงและการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความชัดเจน สอดคล้องกัน เป็นรูปธรรม และสามารถตอบโจทย์ประชาชนได้ว่าจะมีการขับเคลื่อนอย่างไร ได้ข้อสรุปค่อนข้างสมบูรณ์แล้ว จะนำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปก.กปต.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ จะได้ข้อสรุปเรื่องแผนงาน และการตั้ง ศปก.กปต.ที่ชัดเจน ก่อนนำเข้าที่ประชุมอีกครั้งในวันที่ 19 ธ.ค. เพื่อให้เป็นคำตอบสุดท้าย รวมทั้งสรุปนำเข้าครม.ในวันที่ 25 ธ.ค. จะได้แผนปฏิบัติการที่จะลงไปสู่พื้นที่อย่างชัดเจนว่าภาครัฐจะทำอะไรบ้างตั้งแต่ต้นปีไปจนถึงเดือน ก.ย. 56

            การหารือวันนี้เป็นการบูรณาแผนงานด้านความมั่นคงในวงเงินงบประมาณ 1.3 หมื่นล้าน ที่มี 7 หน่วยงานเป็นเจ้าภาพ โดย กอ.รมน.เป็นเจ้าภาพหลัก กับแผนงานด้านการพัฒนา 9 พันกว่าล้าน ที่มี 12 หน่วยงานเป็นเจ้าภาพ โดยมี ศอ.บต.เป็นเจ้าภาพหลัก เพื่อตกผลึกร่วมกันว่าแผนงานที่ออกมาจะเป็นอย่างไร เพราะนายกฯ ต้องการให้แผนงานที่ได้สามารถตอบสนองในพื้นที่อย่างชัดเจน เช่น แผนงานด้านการศึกษาก็ต้องไปจัดกลุ่มให้ชัดว่างบประมาณอยู่ตรงไหน มีแผนอย่างไร ลงไปปฏิบัติเมื่อไหร่ และออกมาเป็นรูปธรรมอย่างไร

            พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยครูนั้น มีความเข้มข้นตามปกติอยู่แล้ว เพียงแต่มีปัญหาเรื่องการปฏิบัติ ในแง่การสื่อสารระหว่างครูกับหน่วยงานมั่นคงเท่านั้น เพราะบางครั้งเวลาครูอยู่ในพื้นที่นาน ๆ ก็จะเริ่มไม่ระวัง ทำตัวแบบสบาย ๆ เราจึงต้องย้ำเตือนไปว่าแม้จะเสร็จภารกิจก็ต้องมีการสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงให้ชัดเจน เพื่อให้คุ้มครองดูแลครูได้ตามแผนงาน เมื่อถามว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในระยะหลังที่พุ่งเป้าไปที่ครู มีนัยยะอะไรหรือไม่ พล.ท.ภราดร กล่าวว่า เป้าหมายหลักที่กลุ่มขบวนการก่อการร้ายพุ่งเป้าไปคือทหารและตำรวจ แต่ครูก็ตกเป็นอีกเป้าหมายหนึ่ง เพราะเป็นผู้ให้กำเนิดทางการศึกษาที่ต้องซึมซัมเรื่องความคิด ถือเป็นนัยยะพื้นฐานอยู่แล้ว เพราะเป็นการต่อสู้ทางความคิด เราก็มีมาตรการดูแลความปลอดภัยเพียงพออยู่แล้ว เพียงแต่ต้องมีการสื่อสารกันอย่างเข้มข้นระหว่างครูกับหน่วยงานด้านความมั่นคง สำหรับนายกรัฐมนตรีนั้น มีแผนที่จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ภายในเดือน ธ.ค.นี้แน่นอน ความจริงท่านจะลงไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่เนื่องจากแผนปฏิบัติการยังไม่ลงตัว จึงต้องรอให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในวันที่ 12 ธ.ค.นี้ก่อนถึงจะกำหนดวันที่ชัดเจนอีกครั้ง

            พล.ท.ภราดร ยังให้สัมภาษณ์กรณีสถาบันเพื่อการวิจัยเศรษฐกิจและสันติภาพในสหรัฐฯ จัดอันดับประเทศที่มีเหตุก่อการร้ายมากที่สุดในโลก โดยไทยติดอันดับ 8 จาก 158 ประเทศทั่วประเทศ ว่า ถือเป็นสถิติ ยอมรับว่ามีผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศในระดับหนึ่ง แต่ความจริงประเทศไทยคงไม่มีดีกรีความรุนแรงเท่ากับประเทศอื่นที่เกิดปัญหาด้านการก่อการร้าย ทางกระทรวงการต่างประเทศ ที่รับผิดชอบกลุ่มงานด้านสิทธิมนุษยชน และการสร้างความเข้าใจ จะไปทำความเข้าใจกับองค์กรดังกล่าวต่อไป