เสธ.อ้ายแย้มแผนเด็ดล่าชื่อถอดรบ.ปู

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


'เสธ.อ้าย' แย้มแผนเด็ดล่าชื่อถอดถอน'รบ.ปู'เตรียมแฉกลุ่มจาบจ้วงสถาบัน 24 พ.ย.นี้ ซัดรัฐใช้ พรบ.มั่นคงคุม 3 เขต แต่สั่ง ตร.ขวางปชช.ทั่วประเทศ

 


เมื่อเวลา 14.10 น. พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสุกดิบก่อนการชุมนุมวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านการชุมนุมวันที่ 28 ต.ค.ในครั้งนั้น รัฐบาลได้ประเมินว่า จะมีคนมาร่วมชุมนุมแค่ 3 พันคน แต่วันจริงกลับมีคนมาร่วมหลายสิบเท่า แสดงว่าคนส่วนใหญ่ทนไม่ไหวกับรัฐบาลชุดนี้ ที่ปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบัน ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ตนจะนำสิ่งที่มีการจาบจ้วงสถาบันมาแสดงให้เห็น โดยไม่มีการตัดต่อทั้งสิ้น หากเกิดเหตุอะไรก็พร้อมรับผิดชอบ ขณะเดียวกันรัฐบาลมีการทุจริต แต่ยังเตรียมกู้เงินจำนวน 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่มากกว่างบประมาณประเทศ 1 ปี จึงเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก

                

พล.อ.บุญเลิศ กล่าวต่อว่า ส่วนการประกาศ พรบ.ความมั่นคง องค์การพิทักษ์สยามยืนยันมาตลอดว่า จะชุมนุมสงบ ไม่ไปรัฐสภา ไม่มีแผนจับตัวนายกรัฐมนตรีแน่นอน แต่รัฐบาลกลับนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งประเทศ โดยเฉพาะจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เข้ามาในกรุงเทพฯเพื่อปกป้องตัวเอง โดยไม่คำนึงความเสียหายที่ตามมา ทั้งนี้ เรื่องของแผนเด็ดการชุมนุมจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยจำนวนมวลชนส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน และอาจจะเกี่ยวข้องกับการล่าชื่อมวลชนเพื่อถอดถอนรัฐบาลด้วย

                

"หากคนมาไม่ถึง 5 หมื่นเลิก แต่ตอนนี้รัฐบาลกำลังสร้างทำนบมหึมามาขวาง แต่ประชาชนคือ อาวุธของเรา แผนเด็ดอยู่ที่จำนวนมวลชน จะแพ้ชนะอยู่ที่ประชาชน ส่วนมือที่ 3 ขออย่าเรียก เพราะเรื่องนี้มี 2 มือ แค่ผมกับรัฐบาลเท่านั้น" พล.อ.บุญเลิศ กล่าว

                

ด้าน พล.อ.ณัฐชัย เพิ่มทรัพย์ ฝ่ายรับผิดชอบความปลอดภัยผู้ชุมนุม กล่าวว่า พื้นที่รอบนอกจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแล ส่วนพื้นที่ชั้นในจะเป็นหน้าที่ของการ์ดองค์การพิทักษ์สยามดูแล หากเกิดเหตุด้านนอกเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับผิดชอบ แต่ถ้ามีกลุ่มเสื้อแดงมาสร้างเหตุในพื้นที่ชั้นในทำให้มวลชนเดือดร้อน ก็จะมีมาตราการจากหนักไปหาเบา ทั้งนี้ ยืนยันการชุมนุมไม่มีมือที่ 3 เพราะจะมีแต่มือแดงแท้เท่านั้น

                

ขณะที่นายประยงค์ ไชยศรี ทนายความกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวว่า รัฐบาลประกาศพรบ.ความมั่นคงในพื้นที่ 3 เขต แต่กลับใช้อำนาจขัดขวางการชุมนุมทั่วประเทศ จึงเป็นการละเมิดสิทธิประชาชน อีกทั้งรัฐบาลยังห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีร่วมชุมนุม โดยอ้างพรบ.คุ้มครองเด็กและเยาวชนปี 2546 ถือเป็นการขัดขวางทั้งที่รัฐบาลต้องสนับสนันให้เยาวชนมีส่วนร่วมทางการเมือง อย่างไรก็ตาม การชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2552-2553 มีการใช้เด็กและคนแก่เป็นโล่กำบังมวลชน ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่เข้าไปดูแล ดังนั้นไม่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใดที่ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 เข้าร่วมชุมนุม

                

ส่วนพล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ แนวร่วมองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวว่า ขอให้ประชาชนมาให้มากที่สุด ขณะนี้เริ่มมีวิชามารจากเจ้าหน้าที่รัฐและกลุ่มมิฉาชีพเข้ามาขัดขวางการชุมนุม หากพื้นที่ทางเข้าใดพบลวดหนาม กำแพงกั้นมาขวาง ก็ขอให้มวลชนใช้ประสบการณ์ที่เคยชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ให้ได้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์