คลิปนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ออกทีวีพูลแจงเหตุผลประกาศพรบ.มั่นคงฯ รับมือม็อบแช่แข็งเสธ.อ้าย




เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 22 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ภาษาไทยและภาษาอังกฤษชี้แจงถึงประชาชนต่อกรณีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในการควบคุมรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.) หรือทีวีพูล  สาเหตุเนื่องจากมีรายงานทางการข่าวชี้ว่าม็อบจ้องก่อเหตุรุนแรงเป็นภัยความมั่นคง

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า กราบเรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพ วันนี้ดิฉันขอใช้เวลาของพี่น้อง ประชาชน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในประเด็นที่รัฐบาลได้ตัดสินใจประกาศใช้มาตรการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรพ.ศ.2551ในพื้นที่เขตพระนครเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 22-30 พ.ย. 2555

ดิฉันขอเริ่มด้วยการเน้นย้ำว่า รัฐบาลยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อมั่นในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและเชื่อมั่นว่าการใช้เวทีรัฐสภาที่ประกอบด้วยตัวแทนที่มาจากประชาชนมีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันและความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งเป็นวิถีทางที่ถูกต้องตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย 

ทั้งนี้รัฐสภายังมีหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ดังที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งดิฉันก็พร้อมที่จะรับฟังและชี้แจงตามวิถีทางประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา และด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาโดยการเลือกตั้งจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดิฉันยืนยันว่าทุกเรื่องที่ดิฉันและรัฐบาลได้ตัดสินใจจะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้งทั้งจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน

อย่างไรก็ตาม ความเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่การมีสิทธิเสรีภาพเพียงเท่านั้น แต่ต้องมีระบบระเบียบความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม และการที่สังคมจะอยู่ร่วมกันได้ ย่อมมีกฎกติกาขอบเขตของสิทธิเสรีภาพโดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ทั้งยังมีหน้าที่จะต้องช่วยกันรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยไม่ให้ถูกคุกคาม สำหรับการชุมนุม ประท้วง เรียกร้องใดๆ ก็ตาม โดยเฉพาะที่มีพื้นฐานมาจากความเดือดร้อนของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดนั้น สามารถทำได้เป็นสิทธิเสรีภาพที่รับประกันไว้ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยที่การชุมนุมต้องเป็นไปอย่างสงบสันติปราศจากอาวุธ และอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งดิฉันก็พร้อมที่จะรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเรียกร้อง และพร้อมที่จะร่วมแก้ปัญหาความเดือดร้อนนั้นๆ ให้หมดสิ้นไป

แต่หากการรวมตัวชุมนุมกัน ซึ่งจากรายงานของฝ่ายความมั่นคง เป็นการระดมผู้คนจำนวนมากภายใต้แกนนำที่มีท่าทีที่ต้องการจะล้มล้างรัฐบาล ที่มาจากการเลือกตั้ง ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ทั้งพร้อมที่จะใช้ความรุนแรง มีแนวคิดที่จะบุกรุกสถานที่สำคัญ และสร้างความวุ่นวายกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นปกติของสาธารณชนเพื่อ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ซึ่งเมื่อเป็นภัยต่อความมั่นคงและสันติสุขของประชาชน  ซึ่งดิฉันไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น แต่รัฐบาลย่อมต้องมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นของบุคคลใด ทั้งผู้ที่มาชุมนุมและประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญรัฐบาลจะต้องรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว

กลไกการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตามปกติไม่สามารถรองรับได้ จึงเป็นที่มาของมติคณะรัฐมนตรีในวันนี้ มาตรการตามกฎหมายที่กำหนดนั้น ก็เพื่อให้สามารถป้องกันและระงับภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการมีหน่วยปฏิบัติงานหลักก็เพื่อรับผิดชอบบูรณาการและประสานการปฏิบัติ ร่วมกับทุกส่วนราชการในยามที่เกิดสถานการณ์อันเป็นภัยต่อประชาชนในพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่ง  การปฏิบัติการต่างๆ จะเป็นไปอย่างรอบคอบ ปราศจากอาวุธและเป็นไปตามมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ ดิฉันต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางและบริเวณการชุมนุม เพื่อความสงบเรียบร้อย ความสะดวกและความปลอดภัยของท่านเอง มาตรการและกลไกต่างๆ จะเน้นการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และเมื่อเหตุการณ์พัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น ก็จะมีการยกเลิกการใช้มาตรการเหล่านั้นทันที ดิฉันขอยืนยันว่า เมื่อได้รับการเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่แล้ว ดิฉันมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ และพัฒนาประเทศ อีกทั้งนำความสงบสันติคืนให้กับประเทศไทย

ดิฉันเชื่อว่าการลดความขัดแย้งทางการเมืองและการปรองดอง เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนทุกคนโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติศาสนาชนชั้นหรือสีเสื้อใดๆ ขอขอบคุณสำหรับการให้โอกาสดิฉันทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และขอขอบคุณผู้ที่สนับสนุนและให้กำลังใจมา ณ ที่นี้ ดิฉันขอให้คำมั่นว่าจะไม่ย่อท้อ และจะทำงานอย่างสุดความสามารถดังที่ตั้งใจ และสัญญากับพี่น้องประชาชน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์