เสธ.อ้ายลั่น24พ.ย.ทุกอย่างจบไม่นัดชุมนุมรอบ3

              ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ส่ง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. และพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สีหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปพบพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ แกนนำกลุ่มองค์กรพิทักษ์สนามที่สนามม้านางเลิ้ง ส่วนการประชุมสมช.ในช่วงบ่ายวันนี้จะยังไม่มีการเสนอใช้พ.ร.บ.มั่นคงควบคุมการชุมนุมวันที่24-25พ.ย.และไม่มีการเสนอเรื่องนี้ต่อที่ประชุมครม.ในวันที่20พ.ย.แน่นอน เพเพระเชื่อในความเป็นชายชาติทหารของพล.อ.บุญเลิศที่ยืนยันว่า จะไม่บุกรุกสถานที่ราชการและชุมนุมโดยสงบ

              พล.ต.อ.วรพงษ์ กล่าวหลังหารือกับ พล.อ.บุญเลิศ ว่า ด้านการข่าวจะมีมือที่3เข้ามาป่วนการชุมนุมของกลุ่มเสธอ้าย ขณะที่พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ทุกอย่างจะยุติในการชุมนุมวันที่ 24-25 พ.ย. และจะไม่การนัดชุมนุมครั้งที่ 3 ด้าน พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม แถลงว่า การจัดคาราวานเชิญชวนประชาชนชาวกรุงเทพฯ ให้เข้าร่วมการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. เมื่อวานที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี ตรงข้ามกับผลสำรวจความคิดเห็นของ เอแบคโพล ที่ระบุว่าคนกรุงเทพฯไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ถึง 94.5% ขณะที่ ประชาชนชาวกรุงเทพฯได้แสดงความคิดเห็นผ่านโลกโซเชียลว่าจะเข้าร่วมการชุมนุม ดังนั้น เห็นว่าการสำรวจความคิดเห็นดังกล่าวใช้ไม่ได้

              อย่างไรก็ตาม การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงท่าทีชัดเจนว่าเป็นผู้บงการทางการเมือง ซึ่งดูได้จากการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่ผ่านมา โดยมีข้อความว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” บ่งบอกว่าผู้ที่อยู่นอกระบบการเมืองสามารถทำให้คนในพรรคการเมืองทำตามที่ต้องการได้ รวมถึงการอดีตนายกฯระบุว่าได้ให้คำปรึกษากับนายกรัฐมนตรีที่เป็นน้องสาวเป็นประจำ "แสดงให้เห็นว่าผู้ที่เป็นพี่ชายมีอิทธิพลเหนือน้องสาวตลอดเวลา และทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการปรับครม.หรือโยกย้ายนายทหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะเข้ามาบริเวณใกล้กับประเทศไทย และจะมีนักการเมืองหรือแกนนำของกลุ่ม เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดจนการประดับยศให้นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในต่างประเทศก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ชักใยควบคุมการเมืองไทยคือใคร"พล.อ.ท.วัชระกล่าว

            นอกจากนี้ การโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในการเคลื่อนไหวต่างๆ แสดงให้เห็นว่าเป็นการสร้างอิทธิพลอย่างเด่นชัด ทั้งนี้ หากเกิดข้อผิดพลาดล้มเหลวนำประเทศไทยสู่ความหายนะ ใครจะรับผิดชอบ เพราะอำนาจรัฐไม่สามารถเอื้อมไปถึงพ.ต.ท.ทักษิณได้ และไม่อยู่ในสถานะที่จะต้องรับผิดชอบ คนไทยจะยอมรับได้หรือ สำหรับการเคลื่อนไหวขององค์การพิทักษ์สยามยืนยันว่าไม่ใช่การแช่แข็งประเทศ แต่เป็นการแช่แข็งนักการเมืองที่คิดโกงชาติเท่านั้น และในฐานะประชาชนก็ต้องการคนที่เสียสละเพื่อเข้ามาทำงานเพื่อประเทศชาติ และการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. จะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปที่ไหน และการที่นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ระบุว่า จะมีการไปรวมตัวกันที่ท่าน้ำศิริราชเพื่อกดดันรัฐบาล นั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะกลุ่มพวกตนมีความจงรักภักดี และที่มีการปล่อยข่าวเกี่ยวกับการเคลื่อนขบวนนั้น ถือเป็นการโจมตีองค์การพิทักษ์สยาม

             เมื่อถามว่า พล.ร.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานมูลนิธิรัฐบุรุษ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ จะเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย. นั้น พล.อ.ท.วัชระ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าใครจะไปใครจะมา แต่ทหารที่จะมาร่วมชุมนุมในองค์กรพิทักษ์สยามนั้น เป็นอดีตทหารนอกราชการ ซึ่งมีแค่ 3 คน คือ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การฯ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ รองประธานองค์การฯ และตน ส่วนในวันที่ 24 พ.ย.หาก พล.ร.อ.พะจุลณณ์ เข้าร่วมกับองค์การพิทักษ์สยามก็สามารถทำได้ เพราะถือเป็นสิทธิของประชาชนทั่วไป

            ทั้งนี้ ได้รับคำยืนยันจากกองทัพธรรมว่า จะสามารถดูแลคนจำนวนมากกว่า 1 แสนได้อย่างมีประสิทธิภาพปราศจากปัญหา โดยกองทัพธรรมจะดูแลในเรื่องของเสบียงคลัง ปลดทุกข์ และความปลอดภัย ซึ่งผู้แทนของกองทัพธรรมได้ระบุว่า ขอให้ตำรวจอย่าได้ทำลายห้องสุขา เพราะการทำลายนั้นเป็นการกลั่นแกล้งประชาชน

            นอกจากนี้ ตนยังได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า รัฐบาลมีพฤติกรรมแสดงเจตนาข่มขู่กดดัน ปิดกั้นและคุกคามสิทธิเสรีภาพของนักศึกษา ประชาชนในพื้นที่อีสาน จ.ชลบุรี และนักศึกษาของ ม.รังสิต ซึ่งตนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายในสังคมไทยที่ใช้อำนาจรัฐมาคุกคาม จึงขอให้เลิกเสีย เพราะเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ และอาจถูกฟ้องได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้องค์การพิทักษ์สยามได้เปิดเพจในเฟสบุ๊คชื่อว่า “ศูนย์ข้อมูลข่าวสารกองงานโฆษก องค์การพิทักษ์สยาม” เพื่อเป็นสื่อกลาง ขอให้กดไล้ถ้าเห็นว่าเราทำถูกต้องแล้ว เพื่อให้เห็นตัวเลขการตอบรับของประชากร นอกจากนี้ก็จะเป็นศูนย์รับข้อมูลจากประชาชนด้วย