ปชป.วางเกมลับชำแหละ 8 รมต. ส่อตายกลางสภา

                  รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการอย่างเป็นความลับ มีเพียงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เท่านั้นที่รวบรวมข้อมูล และร่วมกันประเมินว่า ข้อมูลใดมีน้ำหนักที่จะนำสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ รวมถึงวางตัวผู้อภิปราย แต่จากการประเมินเบื้องต้น น่าจะเป็นการอภิปรายรัฐมนตรีรายบุคคล

               ส่วนเนื้อหานั้นนายจุรินทร์ ระบุว่า ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะยังมีข้อมูลอีกมาก รวมถึงต้องรอข้อมูลของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย อย่างไรก็ตามในที่ประชุมวิปฝ่ายค้าน วันเดียวกันนี้ (6 พ.ย.) ตัวแทนของพรรคภูมิใจไทย ได้พยายามสอบถามถึงข้อมูลที่จะใช้ในการอภิปรายของพรรคประชาธิปัตย์ก่อนจะให้คำตอบว่า พรรคภูมิใจไทย จะร่วมอภิปรายด้วยหรือไม่ ทำให้นายจุรินทร์ ไม่พอใจ และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล

              จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น พบว่า ขณะนี้ฝ่ายค้าน มีข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริต และการกระทำที่ผิดกฎหมายในหลายโครงการของรัฐบาล อาทิ

             1.โครงการรับจำนำข้าว ที่มีการทุจริต ทั้งปมการส่งออกข้าวแบบจีทูจี หรือรัฐต่อรัฐ ปมการสวมสิทธิ์ เวียนเทียนข้าว และการออกใบประทวนในการจำนำข้าว ซึ่งน่าจะมีการโยงถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กนช.) นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เป็นต้น

             2. ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะราคายางพารา ปาล์ม มะพร้าว ในภาคใต้ ซึ่งแม้จะมีการปรับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ออกจากรมช.เกษตรฯ ไปแล้ว แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นเป็นที่ชัดเจน โดยเฉพาะประเด็นการใช้เงินในการพยุงราคายางพารา 1.5 หมื่นล้านบาท แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ อีกทั้งยังมีการลักลอบนำเข้าปาล์มน้ำมัน หลังจากที่รัฐทุ่มงบประมาณในการพยุงราคา ดังนั้นในประเด็นนี้จะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นหลัก ในฐานะที่เป็นผู้ดูแลภาพรวม

             3.การทุจริตการใช้งบน้ำท่วม 1.2 แสนล้านบาท โดยเฉพาะปมการจัดซื้อวิธีพิเศษที่เอื้อต่อการทุจริต และการขุดลอกคูคลอง หลีกเลี่ยงการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอีอ๊อคชั่น ซึ่งมีหลายโครงการที่ไม่เป็นไปตามที่ประมาการวัสดุ หรือบีโอคิว และไม่ควบคุมงานให้เป็นไปตามสัญญาจ้าง นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณตามพ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาทล่าช้า ไม่มีการประกาศราคากลางตามที่ป.ป.ช. เคยแจ้งให้รัฐบาลทราบ ซึ่งในประเด็นนี้ผู้ที่จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี อดีตรมว.วิทยาศาสตร์ฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.)

            4.การดำเนินนโยบายต่างประเทศ ของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นการออกหนังสือเดินทางให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการเดินทางเข้าออกประเทศต่างๆ 

            5.ความล้มเหลวในการบริหารงานในสถานการณ์ความไม่สงบ ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะมีการอภิปรายน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นหลัก

            6.การบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพจนกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ เช่น ตัวเลขการส่งออกที่ตกต่ำ ค่าครองชีพที่สูงขึ้นอันเนื่องมากจากการดำเนินตามนโยบายประชานิยมของรัฐบาล ซึ่งในประเด็นนี้จะมุ่งอภิปรายที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความสนใจคือ ปมการถอดยศทหาร โดยไม่ถูกต้อง และข้ามขั้นตอน ของพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม

           นอกจากนี้ยังมีรายชื่อของร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ฝ่ายค้านให้ความสนใจรวมอยู่ด้วย โดยคาดว่าจะมี 2ประเด็นหลัก คือ

             1.บ่อนการพนัน

             2.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ฐานไม่จับกุมพ.ต.ท.ทักษิณ ในระหว่างที่พบกันที่ฮ่องกง เป็นต้น