สมคิด จูนคลื่นลงตัว

ประมาณสัปดาห์ก่อนมีหมายข่าวใน หน้าสังคมหนังสือพิมพ์ กับรายการที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตนายกรัฐมนตรี จะปาฐกถาพิเศษ เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง หัวใจแห่งการสร้างชาติ ในโอกาสครบรอบ 25 ปี สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จะใช้เวทีนี้ในการอธิบายอย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนว่า เศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่นโยบาย ที่ต้องการให้ประเทศถอยหลัง แต่เป็นนโยบายที่ต้องการให้ประชาชนทุกระดับ ทั้งที่มีรายได้น้อย ปานกลาง และรายได้มาก ตั้งแต่ระดับชุมชนไปถึงระดับประเทศ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้

โดยภาพขัดแย้งแบบหักมุม 180 องศาจากอดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่ชูธงเศรษฐกิจระบบทุนนิยมเต็มสูบตัวจักรสำคัญในระบอบทักษิโณมิก

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแง่ใส่ทันที วันนี้ สังคมเริ่มสับสนว่าตัวตนที่แท้จริงของนายสมคิดมีแนวคิดเรื่องเศรษฐกิจอย่างไรกันแน่

เพราะนายสมคิดคือผู้มีบทบาททางด้านเศรษฐกิจในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อยู่เบื้องหลังระบอบทักษิโณมิกตัวจริง และสนับสนุนเศรษฐกิจระบบทุนนิยมมาตลอด

แต่วันนี้กลับมาชูเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง จึงทำให้มีข้อสงสัยว่าทำไมนายสมคิดเปลี่ยนแปลง ความคิดอย่างรวดเร็วด้วยสาเหตุอะไร

ตามด้วยนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รองหัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ตามกัดติด นายสมคิด อยู่ในรัฐบาลที่มี การทำโครงการและใช้งบประมาณแบบบูรณาการที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ โดยที่ไม่ได้แสดงการไม่เห็นด้วย หรือคัดค้านการบริหารงานด้านเศรษฐกิจอย่างจริงจัง

รู้สึกแปลกใจและสงสัยในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

และก็เป็นอะไรที่ตรงเผงกับปมที่นายเทพไทแห่งประชาธิปัตย์ และนายวีระศักดิ์แห่งพรรคชาติไทยตั้งแง่สงสัย ล่าสุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 44/2550 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานและกระชับ ความเป็นประธานมาได้ยังไงสัมพันธ์ ด้านเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดยแต่งตั้งให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธาน

คำถามนี้เกิดขึ้นกับใครหลายคน ว่ากันว่าแม้แต่ในหมู่คณะรัฐมนตรียังไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน โดยเฉพาะรายของ หม่อมอุ๋ย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ และ รมว.คลัง ยังย้อนถามนักข่าวด้วยสีหน้าเครียดๆ น้ำเสียงไม่เชื่อ

แต่จะไม่แปลกใจเลย ถ้าจำได้กับสิ่งที่ ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ เคยเปิดปูมเบื้องหลังระหว่าง พล.อ.สุรยุทธ์กับนายสมคิดไปก่อนหน้านี้


และก็เป็นที่มาของอาการเหินห่างระหว่าง ทักษิณ กับ สมคิด

นั่นก็เพราะ ทักษิณ ระแวง สมคิด ที่ไปคุยกับผู้ใหญ่ในบ้าน เมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อวิกฤติทางการเมือง ทักษิณ เจียนอยู่เจียนไป ซึ่งผู้ใหญ่คนที่ว่าในวันนั้นก็คือ พล.อ.สุรยุทธ์ในวันนี้นั่นเอง

และจริงๆ สมคิด

โดยเงื่อนไขทางเศรษฐกิจที่เดินมาถึงจุดอับเต็มที ทั้งโดยเงื่อนไข ทางการเมืองภายใต้บรรยากาศการรัฐประหาร ต่างชาติไม่ค่อยสุงสิง ในขณะที่ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลขิงแก่ ก็ไม่มีกึ๋นพอจะไปวิ่งสู้ฟัด กับเศรษฐกิจทุนนิยมโลกเสรีจำเป็นต้องหาอัศวินที่ครบเครื่องมาช่วยงาน และจากคิวโชว์กึ๋นแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่ สมคิด เปิดออกมาบนเวทีที่ศศินทร์ก็ต้องบอกว่า จูนกันได้ลงตัวพอดี.

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ