แนวรบตรวจสอบของ คมช. กำลังพังทลาย

แนวรบตรวจสอบของ คมช. กำลังพังทลาย


การยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 ของ คมช. ได้อ้างเหตุผลสี่ประการ และได้รับการขานรับจากประชาชน ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนถึง 98% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นการยึดอำนาจแทนประชาชนเป็นส่วนรวม


แต่เพียงระยะเวลา 14 วัน


คมช. ก็ได้โอนอำนาจความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ให้แก่รัฐบาล ซึ่ง คมช. เป็นผู้เสนอแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี คือพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์

ดังนั้นรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้น จึงเป็นรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจและต้องรับภาระอีกสี่ประการอันเป็นเหตุแห่งการยึดอำนาจไปปฏิบัติด้วย

เพื่อที่จะทำความจริงให้ปรากฏว่า เหตุผลในการยึดอำนาจทั้งสี่ประการนั้นเป็นความจริง คมช. ได้จัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือ คตส. ขึ้น ได้แต่งตั้งกรรมการ ป.ป.ช. กรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. และคณะตุลาการรัฐธรรมนูญแทนตำแหน่งที่ว่างลง พร้อมทั้งยืดอายุการทำงานของผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินด้วย

องค์กรและหน่วยงานเหล่านี้ มีหน้าที่ที่ต้องทำการตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติให้ไว้ให้สำเร็จลุล่วงตามที่ประชาชนได้คาดหวัง และตามที่ คมช. ตลอดจนรัฐบาลได้มอบหมาย

วันเวลาผ่านไป เสียงก่นว่ารัฐบาลขิงแก่และ คมช. โกกิ ที่แสดงออกโดยการนำเสนอของนายธีรยุทธ บุญมี และสื่อมวลชนได้รับการขานรับอย่างกว้างขวาง และผู้คนพากันเรียกร้องให้รัฐบาลและ คมช. ใช้ความเด็ดขาดตลอดจนเร่งดำเนินการจัดการกับผู้ทุจริตคิดชั่วกับแผ่นดินโดยด่วน


ทั้งได้เรียกร้องให้มีการถอนรากถอนโคนลิ่วล้อทรราช


ที่แอบแฝงมา และยังแอบแฝงอยู่ในวงการต่าง ๆ อย่างจริงจัง แต่ปรากฏว่าเงียบกริบ ไม่มีเสียงตอบ ไม่มีเสียงขานรับ

ดูเหมือนว่ามีแต่ คมช. เท่านั้นที่ยังดิ้นรนและมุ่งที่จะพิสูจน์ความจริงเกี่ยวกับเหตุผลในการยึดอำนาจทั้งสี่ประการ ในขณะที่ผู้คนในรัฐบาลและข้าราชการจำนวนมากยังพากันใส่เกียร์ว่าง ไม่นำพาต่อภาระหน้าที่

ยิ่งวันเวลาผ่านไปสถานการณ์ก็พลิกผัน จากการใส่เกียร์ว่าง กลายเป็นเหยียบเบรคและเข้าเกียร์ถอยหลัง และมีความชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที

มาถึงวันนี้ กระบวนการตรวจสอบทั้งหมดขององค์กรต่าง ๆ ที่ถูกจัดตั้งขึ้นโดย คมช. นั้นกำลังถูกตีโต้ทำลายอย่างหนักหน่วงรุนแรง และสถานการณ์น่าวิตกอย่างยิ่ง

เราจำเป็นจะต้องชี้ให้เห็นถึง กระบวนการตีโต้แนวรบการตรวจสอบของ คมช. ที่กำลังก่อตัวขึ้นเป็นขบวน และกำลังตีโต้ทำลายกระบวนการตรวจสอบอย่างหนักหน่วงรุนแรง


ทางที่หนึ่ง คือแนวรบการตรวจสอบของ คตส.


ปรากฏว่าถึงวันนี้ เพิ่งมีมติส่งดำเนินคดีเรียกภาษีคืนได้เพียงรายเดียว นอกนั้นยังคงยักตื้นติดกึกยักลึกติดกัก และอย่างมากในเวลาสองเดือนที่เหลือนี้คงจะมีมติได้ไม่กี่เรื่อง ในขณะเรื่องที่จะต้องตรวจสอบมีหลายร้อยเรื่อง

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. ได้เรียกร้องต่อนายกรัฐมนตรีหลายครั้งเพื่อให้ควบคุมดูแลข้าราชการให้ความร่วมมือในการตรวจสอบแต่ไม่ได้ผล ในที่สุดก็ได้เสนอให้มีมติ ครม. ให้ข้าราชการให้ความร่วมมือถึงสองครั้ง แต่ถูกปฏิเสธ

คตส. จะเผยแพร่ผลงานรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ ก็ไม่จัดเวลาให้ จน คตส. ต้องมีดำริที่จะเช่าเวลาโทรทัศน์เพื่อเผยแพร่การทำงานให้ประชาชนรับทราบ

มติหลายเรื่องก็ยังไม่มีการปฏิบัติ มิหนำซ้ำยังถูกโต้แย้งอย่างหนักหน่วงโดยเฉพาะจากรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีช่วย ตลอดจนข้าราชการระดับสูงทั้งในกระทรวงการคลังและในกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

คตส. กำลังชี้มูลเรื่องทุจริตกรณีซื้อรถดับเพลิงของ กทม. ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกลับเสนอวาระจรให้คณะรัฐมนตรีอนุมติจ่ายค่าซื้อ และเสนอลดภาษีให้แก่ผู้นำเข้า ซึ่งเป็นการตบหน้า คตส. อย่างจัง


แนวรบ คตส. กำลังจะเดี้ยง


เพราะเวลาเหลืออยู่อีกเพียง 6 เดือน และทำงานได้จริง ๆ อีกเพียง 2 เดือน คงจะถูกยื้อถูกดึงจนกระทั่งหาความสำเร็จอันใดไม่ได้

ทางที่สอง แนวรบในสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกำลังถูกขัดขวางและตีโต้อย่างหนักหน่วง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินถูกป้ายสีว่าร้ายโดยขบวนการเถื่อนอย่างกว้างขวาง

การตรวจสอบเรื่องความเสียหาย จากการเพิ่มทุนธนาคารทหารไทยโดยไม่มีการลดทุนทำให้แผ่นดินเสียหายนับหมื่นล้านบาทถูกโต้กลับจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังว่าการบริหารงานเศรษฐกิจและการเพิ่มทุนในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกต้องและโปร่งใสทุกประการ

นี่เป็นถ้อยคำเกือบคำต่อคำที่ชัดเจน ถึงการคุ้มครองรับรองการบริหารงานของรัฐบาลทักษิณ โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชัดเจนหรือยังพระคุณท่านทั้งหลาย

ทางที่สาม การตรวจสอบการทุจริตของสนามบินสุวรรณภูมิกำลังถูกโจมตีอย่างกว้างขวาง มีการก่อตั้งขบวนการสื่อเทียมแจกข่าวลงข่าวใส่ร้ายป้ายสีโจมตีพลเอกสพรั่ง กัลยาณมิตร และพลเรือเอก บรรณวิทย์ เก่งเรียน อย่างหนักหน่วงและไม่ละอายต่อบาป


ล่าสุดมีการใช้สินจ้างรางวัลติดสินบนการตรวจสอบ


ให้เปลี่ยนผลจากการปิด สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อซ่อมแซมควบคู่ไปกับการตรวจสอบ เป็นซ่อมไปใช้ไป โดยเอาประเทศไทยเข้าไปเสี่ยงและรับความผิดชอบทั้งหมดแทนการทุจริตฉ้อฉลที่เกิดขึ้นจากการโกงชาติในยุคที่ผ่านมา

ทางที่สี่ ป.ป.ง.หายไปไหนก็ไม่รู้ ไม่เคยปรากฏผลงานประการใด และไม่เคยปรากฏความเคลื่อนไหวในการปฏิบัติหน้าที่ให้ประชาชนได้รู้เห็นเลย ในขณะที่กรมสรรพากรก็ไม่ยอมเรียกเก็บภาษีจากกระบวนการโกงภาษี ทั้ง ๆ ที่ถูกชี้มูลแล้วชี้มูลเล่า

เหล่านี้คือสัญญาณอันตราย ที่แสดงให้เห็นว่ากระบวนการตรวจสอบการทุจริตเพื่อพิสูจน์ความผิดสี่ประการอันเป็นเหตุแห่งการยึดอำนาจกำลังถูกตีโต้ กำลังถูกทำลาย

มันถูกตีโต้และทำลายโดยเครือข่ายอำนาจเก่า ที่แฝงฝังอยู่ในรัฐบาลและในวงข้าราชการ โดยมีสื่อมวลชนและขบวนการใต้ดินต่าง ๆ และเหตุการณ์ชัดเจน กระทั่งเปิดเผยตัวให้เห็นมาจะจะแจ้ง ๆ แดงแจ๋อยู่แล้ว

พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีจะปล่อยให้ คมช. เดี้ยงเพราะพิสูจน์ไม่ได้ว่าเหตุผลในการยึดอำนาจทั้งสี่ประการเป็นความจริงหรืออย่างไร?


คมช.เองก็ควรจะตระหนักถึงภัยพิบัติที่กำลังบังเกิดกับตัวได้แล้วว่า


ไม่ใช่เรื่องหมู ๆ อีกแล้ว และมันกำลังขยายตัวลุกลามจนกระทั่งบางคนกล้าเปิดเผยตัวอย่างโจ๋งครึ่ม ดังตัวอย่างรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังที่รับรองความถูกต้องและรับรองความโปร่งใสของรัฐบาลทักษิณอย่างออกนอกหน้า ดังที่สื่อมวลชนได้ลงคำให้สัมภาษณ์ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2550 นี้แล้ว

คนรู้เห็นกันทั้งเมือง และเห็นด้วยกับการยึดอำนาจกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่กลับพิสูจน์อะไรไม่ได้ ถูกขัดแข้งขัดขาขัดขวางและถูกบ่อนทำลายจนเดี้ยงกันไปหมด

ถ้าพิสูจน์เหตุผลในการยึดอำนาจสี่ประการไม่ได้ คมช.และคณะทหารที่ยึดอำนาจคงตายแน่ ! เหลืออยู่แต่ว่าจะตายวันตายพรุ่งเท่านั้น

พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีจะยืนอยู่ข้าง คมช. หรือจะปล่อยให้สถานการณ์พลิกกลับว่ารัฐบาลที่ผ่านมาไม่ได้มีความผิดอะไร แต่ถูกปล้นอำนาจไปดังที่ลิ่วล้อของอำนาจเก่ากำลังกล่าวหาอยู่อย่างนั้นหรือ?



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพ

โดย ผู้จัดการออนไลน์
จาก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์