เดือด!!กระทู้ชุดดำ ปชป.บี้ลากคอสฆ่าพล.อ.ร่มเกล้า เหลิมพลิ้วยัดข้อหามาร์ค

วันที่ 27 กันยายน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยสามัญทั่วไปที่มี นายยเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1

ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม มีการพิจารณากระทู้ถามสดของ นายนิพิฏ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ สอบถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม 

โดย นายนิพิฏ กล่าวถึงรายงานของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ว่า
 
ในรายงานได้ระบุถึงชายชุดดำ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากการ์ดของ นปช. โดยขณะนี้การ์ด นปช. มีตำแน่งในการบริหาร เช่น เป็นเลขานุการรัฐมนตรีหลายท่าน ดังนั้นเมื่อการ์ด นปช. มีการประสานงานกับชายชุดดำ ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐบาล จะดำเนินคดีกับการ์ด นปช. เหล่านี้อย่างไร และในกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ระบุเมื่อวันที่ 21 เมษายนว่า พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม เสียชีวิตโดยฝีมือของคนเสื้อแดง มีการดำเนินคดีกับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่และคดีไปถึงไหนแล้ว


เดือด!!กระทู้ชุดดำ ปชป.บี้ลากคอสฆ่าพล.อ.ร่มเกล้า เหลิมพลิ้วยัดข้อหามาร์ค

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ชี้แจงแทน กล่าวว่า
 
รัฐบาลชุดที่แล้วได้ตั้ง คอป. ขึ้นมาเพื่อพิจารณาข้อเท็จจริง ซึ่งผลศึกษาของ คอป. ไม่มีผลต่อกระบวนการการสอบสวน แต่เป็นเพียงขอเสนอแนะที่หลายฝ่ายจะรับฟังหรือไม่รับฟัง ก็เป็นดุลพินิจของกระบวนยุติธรรม ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า ไม่มีการรับใช้การเมือง และกระบวนยุติธรรมยังมีความน่าเชื่อถือ ตั้งแต่ที่รัฐบาลได้มีการบริหารราชการก็ไม่ได้มีการดำเนินการอะไรที่นอกเหนือกระบวนการ โดยคณะกรรมการคดีพิเศษ และกรมสวนสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับไว้เป็นคดีพิเศษ แต่คดีนี้มีการเอาไปเก็บไว้ที่ดีเอสไอนานโดยไม่มีการชันสูตรพลิกศพ จากนั้นทางดีเอสไอจึงส่งเรื่องต่อมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งตนก็ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพิ่มเติมอีก 50 คนเมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2555 ยืนยันว่า คดีนี้ถึงใครทำความผิดต้องมีการดำเนินคดีไม่มียกเว้น ไม่มีละเว้น และไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลจะไปอุ้มเผืกร้อน ยืนยันว่าดำเนินการตรงไปตรงมา ทั้งนี้ตนตั้งข้อสังเกตุว่าการ คอป. เอาการ์ดพันธมิตรมาเป็นกรรมการจะว่าอย่างไร

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องของสำนวนคดีที่เกี่ยวกับคนเสื้อแดงนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี

ดังนั้นที่มีการมองว่า รัฐบาลไม่ดำเนินคดีกับคนเสื้อแดงจึงไม่เป็นความจริง ทั้งนี้มีประเด็นน่าสนใจคือกรณี นายพัน คำกอง  ซึ่งเสียชีวิตเมื่อ 14 พค.53 ที่บริเวณถนนราชปรารภ ซึ่งศาลอาญามีคำสั่งว่าเหตุที่เสียชีวิตนั้นเกิดจากปืนที่ใช้ในราชการสงคราม และเป็นฝีมือของเจ้าพนักงานช่วยกันยิงจนถึงแก่ความตาย และศาลระบุชัดว่า เจ้าหน้าที่ทำตามคำสั่ง ศอฉ. แต่ได้รับการคุ้มครอง ย้ำอีกครั้งว่า งานนี้ไม่มีมวยล้มทุกอย่างต้องเดินหน้าตามกระบวนการยุติธรรม

ทำให้ นายนิพิฏ กล่าวว่า กระบวนการธรรมยุติธรรมเสื่อมทรุด
 
ล้มเหลวรับใช้การเมือง เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมวันๆ เอาแต่ไปพบผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ที่โรงแรม 5 ดาวเพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย อีกทั้งผู้ใต้บังคับบัญชามีการสอบสวนคดีทุจริต และกำลังสอบสวนถึงคนในรัฐบาลแต่กลับย้ายคนเหล่านั้นออก เพื่อสกัดไม่ให้สอบสวนกระบวนการทุจริต ตนถามถึงเรื่องการดำเนินการกับ พล.อ.ร่มเกล้า แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ตอบ นายพันคำกอง เพื่อพาดพิง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ตนไม่อยากบอว่า ร.ต.อ.เฉลิม โง่ ไม่ฉลาด อย่างไรก็ตาม จากสำนวนสอบสวนนั้นระบุชัดว่าบุคคลชื่อว่า “ส” เป็นสังหาร พล.อ.ร่มเกล้า แต่รัฐบาลกลับไม่มีการดำเนินการ เพราะคนดังกล่าวอยู่ในกลุ่มคนเสื้อแดง ตนจึงขอถามว่า เหตุใดจึงไม่ดำเนินการคดีไปถึงไหนแล้ว

พล.ต.อ.ประชา  พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า
 
 นายนิพิฏ พูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรือไม่ ส่วนเรื่องประกันตัวนั้น ท่านก็คงทราบเรามีหน้าที่ดูแลผู้ที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพราะผู้ที่ไม่มีคำตัดสินยังถือว่าบริสุทธิ์ ตนเป็นผู้นำในการรักษากฎหมายที่ดี ยืนยันว่า ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ใครไปตนก็มอบหมายกรมคุ้มครองสิทธิให้ไปดูแลในเรื่องนี้

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงบุคคล “ส” ที่นายนิพิฏระบุถึงว่า วันนี้ขอให้นายนิพิฏไปหาตนเพื่อพูดคุยว่าบุคคล “ส” นั้นเป็นผู้ใด และยืนยันว่า ตนไม่ได้กล่าวหานายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นได้มีการโต้เถียงกันไปมาโดย นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย
 
ได้ลุกขึ้นประท้วงเนื่องจากเห็นว่า นายนิพิฏ ผิดข้อบังคับและไม่สามารถเอาเอกสารราชการออกมาเผยแพร่ได้ นอกจากนี้ขอให้นายนิพิฏระบุให้ชัดว่า “ส” นั้นหมายถึงผู้ใด
ทั้งนี้ที่ประชุมได้ใช้เวลาอภิปรายตอบโต้พาดพิงกันไปมาอย่างดุเดือดกว่า 1 ชั่วโมง จากกนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงชี้แจงว่า รัฐบาลที่แล้วได้มีผู้ร้องขอความเป็นธรรมเพราะถูกคุมขังหลายราย ตนก็มอบให้กรมคุ้มครองสิทธิดำเนินการ โดยไม่เคยให้ รมว.ยุติธรรม ไปดำเนินการให้กับใคร เพราะความใกล้ชิดหรือคุ้นเคยส่วนตัว การที่ พล.ต.อ.ประชา ชี้แจงก็เห็นว่า ไม่ควรใช้สถานะของตัวเองปะปนกับกรมคุ้มครองสิทธิฯ ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่า ไม่ก้าวก่ายการสอบสวนของพนักงานสอบสวน 

แต่ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม และอธิบดีดีเอสไอให้สัมภาษณ์ไปไกลว่า

คดีนายพัน คำกอง จะเป็นบรรทัดฐานในอีก 35 คดีที่เหลือ ไม่ทราบว่า พูดมาจากตำราใด เพราะเป็นคนละเหตุการณ์ ไม่สามารถนำมาเป็นบรรทัดฐานกันได้ ถ้าทำอย่างตรงไปมา ตนก็เห็นด้วย อย่าเอาการเมืองเข้าแทรก พวกตนเคารพกระบวนการยุติธรรม พร้อมเข้าสู่กระบวนการปกติ ไม่หนีไปไหน แต่งานนี้ต้องไม่มีไอ้ปื้ดมาเกี่ยวข้อง

ขณะที่ร.ต.อ.เฉลิมตอบโต้ว่า ตามหลักกฎหมายการที่ไม่ประสงค์ผล แต่เล็งเห็นผลก็ถือว่า มีเจตนาแล้ว
 
เพราะการยิงไปยังรถตู้ท่ามกลางประชาชนที่สัญจรไปมาก็เล็งเห็นผลได้ ทำให้ นายอภิสิทธิ์ ลุกขึ้นตอบโต้ปิดท้ายว่า ถ้าจะเอาคนที่เล็งเห็นผล ก็ขอให้เอาคนที่สั่ง นปช. ออกมาชุมนุมมาลงโทษด้วย เพราะทำให้บ้านเมืองเสียหาย


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์