มาร์ค ตีชิ่ง ปัดสั่ง จนท.รัฐฆ่า พัน คำกอง

มาร์ค ตีชิ่ง ปัดสั่ง จนท.รัฐฆ่า พัน คำกอง

เมื่อเวลา 15.35 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 

ให้สัมภาษณ์ถึงผลสรุปของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงแห่งชาติ (คอป.) เกี่ยวกับเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ในปี 2553 ว่า ขอดูรายงานฉบับสมบูรณ์ก่อนจึงจะให้ความเห็นได้ แต่อยากให้ทุกฝ่ายเปิดใจกว้าง เพราะเห็นถึงความตั้งใจของคอป.ในการทำงาน ซึ่งคอป.มีข้อเสนอแนะไปยังฝ่ายต่างๆ ถ้าทุกฝ่ายตระหนักและมาร่วมค้นหาแนวทางการปรองดองก็จะเป็นเรื่องดี ส่วนที่นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช. ระบุว่า รายงานของคอป.ไม่น่าเชื่อถือนั้น ตนคิดว่าอะไรที่ไม่ถูกใจแล้วออกมาปฏิเสธ ทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรต่างๆ ก็จะกลายเป็นปัญหา ยกเว้นการมีข้อมูลมานำเสนอ หักล้างรายงานของคอป.อย่างมีเหตุผล


"ในส่วนของรัฐบาลที่เขียนไว้ในนโยบายและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็พูดหลายครั้งว่าจะยอมรับการทำงานของ คอป. ก็ควรที่จะนำข้อเสนอแนะขอ งคอป.ไปพิจารณา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


เมื่อถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มีชายชุดดำ และสิ่งที่ คอป.ตรวจสอบไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนต้องยึดไว้เป็นข้อมูล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของพนักงานสอบสวนก็ควรนำข้อค้นพบต่างๆ ของคอป.ไปใช้ในสำนวนคดี จะละเลยไม่ได้ ถ้าละเลยก็เหมือนกับจงใจละเว้น

               
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลอาญาตัดสินการเสียชีวิต ของนายพัน คำกอง มาจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ว่า  ได้ติดตามข่าว แต่ยังไม่เห็นคำสั่งศาลฉบับเต็ม แต่ทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยจากขั้นตอนนี้แล้ว ก็ต้องส่งไปที่พนักงานอัยการ และพนักงานสอบสวน


เมื่อถามว่านายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ
 
รับลูกจะดำเนินคดีกับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฐานพยายามฆ่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนจะดูว่าการใช้อำนาจของฝ่ายต่างๆ เป็นไปตามกระบวนการแค่ไหน  ส่วนที่จะมีการโยงว่าเป็นคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) นั้นศาลก็ได้บอกแล้วว่า คำสั่งของศอฉ. เป็นการสั่งให้เข้าควบคุมพื้นที่ ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับการที่สั่งให้ไปฆ่าคน หรือทำให้เกิดความสูญเสีย ฉะนั้นต้องดูสภาวะ แวดล้อม พฤติการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นหน้าที่ของอัยการ และพนักงานสอบสวน แต่ถ้าคนสอบสวนมีอยู่และไม่สะท้อนความจริงคงจะไม่ได้


เมื่อถามว่า นายธาริต ระบุจะนำคดีนี้มาเป็นบรรทัดฐานในการตั้งเป็นคดีฆาตกรรม และจะเรียกคดีอีก 35คดีที่จะเข้าสู่การไต่สวนเป็นคดีฆาตกรรม
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แต่ละคดี จะนำมาผูกโยงกันหมดไม่ได้ เพราะแต่ละเหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นในที่เดียวกันและเวลาเดียวกัน อย่างกรณีของนายพัน ศาลก็ระบุว่าเสียชีวิตจากช่วงที่มีการยิงรถตู้ ซึ่งจะไปใช้กับอีก 20-30 คดีไม่ได้


"ตอนนี้นายธาริต ก็พูด ในสิ่งที่ฝ่ายการเมืองฝ่ายนู้นเขาพูดมาก่อน ซึ่งก็ข้องใจว่าเป็นการชี้นำหรือไม่ โดยผมจะดูหนทางในการดำเนินคดีและทุกฝ่ายต้องอยู่ใต้กระบวนการยุติธรรม ทุกคนมีสิทธิตามกฎหมาย ผมจะดูว่าการดำเนินการต่อจากนี้ไป ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายหรือไม่ ซึ่งคาดว่ากลุ่มที่มีผลประโยชน์ทางการเมืองน่าจะนำเรื่องนี้ไปขยายผล และจะกลายเป็นปัญหาว่าเราไม่พยายามค้นหาความจริงที่นำไปสู่การปรองดอง แต่พยายามสร้างเงื่อนไขให้เกิดความขัดแย้งหรือไม่" นายอภิสิทธิ์ กล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์