สุธรรม บุกเมืองคอน อัด ปชป.แก๊งลูกบิด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 20 มีนาคม 2549 13:31 น.

นครศรีธรรมราช - สุธรรม แสงประทุม ยืนยันผู้สมัคร ส.ส.เมืองคอน เป็นสมาชิกครบ 90 วัน อัดแหลก ปชป. กลัวแพ้ สร้างเรื่องก่อกวนการเลือกตั้ง ให้ฉายา แก๊งลูกบิด ยันหลังเลือกตั้งได้ ส.ส.ไม่ครบ 500 ไม่เป็นปัญหา อาจให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

เมื่อวานที่ผ่านมา (19 มี.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช นายสุธรรม แสงประทุม รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย พร้อมด้วย นายณัฎฐประชา เกื้อสกุล ผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 3 พรรคไทยรักไทย ได้เปิดแถลงข่าวตอบโต้ และชี้แจงกรณี นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย น.ส.นริสา อดิเทพวรพันธ์ อดีต ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้แถลงเรียกร้องให้ กกต.ทบทวนตรวจสอบพิจารณาคุณสมบัติของนายณัฎฐประชา หลังจากพบว่ามีความผิดปกติในข้อมูลและหลักฐานการดำรงสมาชิกภาพพรรคไทยรักไทย รวมทั้งได้มีการยื่นเอกสารหลักฐานจำนวนมากกับนายธงชัย วรรณธนะพิศิษฐ์ ผอ.กกต.นครศรีธรรมราชเรียบร้อยแล้ว

นายสุธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกต.ตอบรับความสมบูรณ์ของการสมัครไปเรียบร้อยแล้วและยืนยันว่า นายณัฎฐประชา เป็นสมาชิกของพรรคไทยรักไทยในรุ่นแรกๆ นับตั้งแต่จดทะเบียนพรรคการเมืองมากับรัฐธรรมนูญฉบับนี้บังคับใช้ แต่หลังจากนั้น บิดาของนายณัฎฐประชาได้เสียชีวิตลงเมื่อครบ 50 วัน นายณัฎฐประชา ได้อุปสมบทเพื่อทดแทนบุญคุณ ระหว่างนั้นจึงสิ้นสุดสมาชิกภาพลง ก็ได้เอารายชื่อออกแต่หลังจากลาสิกขาก็ได้สมัครสมาชิกเช่นเดิมพร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นนายณัฎฐประชาและมีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นผู้สมัครเหมือนเดิม

กกต.มีความบกพร่องในเรื่องนี้ ในเว็บไซต์ของเขา เนื่องจากนายจเรได้เปลี่ยนชื่อเป็นณัฎฐประชาจึงมีความสับสนในบางส่วน แต่หลังจากที่นายทะเบียนของพรรคไทยรักไทย คือ นายสมาน เลิศวงศ์รัตน์ ได้ทำหนังสือชี้แจง ทาง กกต.กลาง จึงตอบรับความสมบูรณ์ของสมาชิกภาพครบถ้วนสมบูรณ์

การที่รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กับพวกยกเรื่องนี้มาเป็นเพียงความต้องการสร้างความสับสนให้เกิดขึ้น เพราะประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้งไปแล้วก็หวั่นไหวอยู่ภายใน ว่า ไทยรักไทยจะมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง โอกาสที่ครอบครองภาคใต้มานานจะสูญเสียไป ไทยรักไทยจะมาในครั้งนี้ 1 ปีจริง แต่จะมีผลงานที่โดดเด่น ตรงนี้จึงพยายามที่จะก่อกวนให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบธรรม เช่น บางพื้นที่มีการส่งผู้สมัครพรรคเล็ก หลังจากนั้น ก็มาบิดเบือนอีกว่าเราเป็นคนจ้าง ทั้งๆ ที่เป็นคนส่งไปเอง เอาหัวคะแนนของตนเองมาสมัคร เจตนาทำให้การเลือกตั้งวันที่ 2 เม.ย.มีความสับสนวุ่นวาย

นายสุธรรม ยังกล่าวต่อว่า อยากจะเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคที่ยึดมั่นการปกครองในระบบรัฐสภาโดยเฉพาะนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ทราบว่าไม่พอใจอย่างยิ่งที่พรรคตัดสินใจไม่ส่งผู้สมัคร ส.ส.แต่อย่างว่าก็เป็นอดีตไปแล้วถ้าจะทำอะไรไปก็ไม่เหมาะสม จึงมีแต่ความเครียดเก็บงำอยู่ในใจเท่านั้น ส่วนต่อมา คือ นายอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรคปัจจุบันใคร่ครวญดูว่าถ้าเลือกตั้งครั้งนี้อีกก็แพ้ไทยรักไทย เมื่อแพ้ต้องลาออกเหมือนนายบัญญัติ คือต้องการรักษาฐานะของหัวหน้าพรรค แต่ไม่ได้รักษาระบอบประชาธิปไตย ทำอย่างเดียว คือ ทำให้การเลือกตั้งเดินไปด้วยความยุ่งยากถือได้ว่าเป็นการเดินไปแนวเดียวกับพันธมิตรประชาธิปไตยที่ทำกันอยู่ภายใต้ยุทธการแยกกันเดิน รวมกันตี

ส่วนการเตรียมการปราศรัยที่สนามหลวงของพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 24 มี.ค.2549 นั้น เป็นเรื่องปกติของพรรคการเมือง แต่น่าเสียดายที่พรรคการเมืองเมื่อมีการสมัครรับเลือกตั้งจะนำนโยบายมาเสนอต่อประชาชนแต่ประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วม แต่กลับก่อกวนให้การเลือกตั้งยากและสับสน แต่ประชาชนก็บอกแล้วว่าประชาธิปัตย์ไม่อาสาแต่ประชาชนต้องการผู้แทน ดังนั้นบางครั้งจึงไปกดดัน กกต.จังหวัด

อีกเรื่องคือต้องเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สำนึกอย่าไปหวั่นเกรงจากแรงกดดันของพรรคการเมืองเก่าๆ ที่ผ่านมาดูถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ดูถูกไทยรักไทยไว้มาก ยิ่งดูถูกมากพรรคไทยรักไทยก็ยิ่งใหญ่ไปเรื่อยๆ ขณะที่ประชาธิปัตย์เล็กลงไปเรื่อย ดูถูกไปตกใจไป เรียกว่า ปากกล้าขาสั่น ต่อไปก็ปากเบี้ยวขาเคล็ด และขาหักไปในที่สุด ไอ้พวกแก๊งลูกบิด รอง หน.พรรคไทยรักไทย กล่าว และว่า เขตภาคใต้ไม่ได้เป็นเขตสัมปทานของใคร ไม่ได้เป็นเขตที่ใครยึดครองได้แต่เป็นเขตที่อิสระของคนใต้จะเลือกใครเป็นตัวแทนก็ได้ เที่ยวนี้ประชาธิปัตย์เสียใจที่หัวหน้าพรรคตัดสินใจผิดจึงไปอาละวาดกับคนอื่น

นายสุธรรม กล่าวต่อว่า ส่วนการเจรจากันนั้น เราอยากให้มหาวิทยาลัยที่เป็นที่รวมขององค์ความรู้มาช่วยคลี่คลายปัญหา และวันนี้ เชื่อว่า เดินไปไกลพอสมควรแล้ว ไทยรักไทยจึงปรารถนาให้ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ (ทปอ.) เป็นคนกลางในการแก้ปัญหา มาพูดคุยกันให้เกิดประโยชน์ไม่ใช่มาเพื่อความขัดแย้ง และทุกคนเป็นคนที่เคยดีกันมาก่อนและเป็นคนรู้จักมักคุ้นกันทั้งนั้น ส่วนกรณีการขอพระราชทานนายกฯ นั้น ก็เป็นแนวทางที่มีความประสงค์ดี

ต่อข้อถามจะมีการแก้ปัญหาต่อไปอย่างไรในเมื่อการเลือกตั้งมีแนวโน้มว่าจะได้ ส.ส.ไม่ครบ 500 คนแน่นอน นายสุธรรม กล่าวว่า ต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุดวันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นนั้นจะต้องคลี่คลาย อาจจะวิเคราะห์ว่า พายุจะมาแต่จริงๆ อาจจะสลายหายไปก็ได้ วันนี้จะต้องให้ดีที่สุด และขณะนี้ไทยรักไทยก็ไม่แน่ว่า จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพียงพรรคเดียว รอให้ได้พรรคเดียว แล้วค่อยว่ากันอาจจะใช้ช่องทางให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เมื่อถึงเวลาก็มีทางออก แน่ใจอย่างไรว่าพรรคเล็กไม่ได้รับเลือก อาจจะมีโอกาสก็ได้

ส่วนในกรณีของ นายเอกชัย ศรีวิชัย นั้น นายสุธรรม กล่าวว่า บางช่วงเขาก็เห็นด้วยกับไทยรักไทย บางช่วงก็ไม่เห็นด้วย ประชาธิปัตย์ก็เคยพาไปตระเวนปราศรัยทั่วภาคใต้ วันหนึ่งเวทีสาธารณะเปิดโอกาสให้ไปรณรงค์เลือกตั้ง คิดว่า เขาเป็นศิลปินเป็นคนของประเทศที่รู้ว่าอะไรผิดถูก ฝ่ายค้านถูกเขาก็เอาฝ่ายค้าน รัฐบาลถูกเขาก็เอารัฐบาล ไม่ควรไปปรักปรำ ไม่ใช่ขนไป 250 คนต่อ 1 เขต และพอมีคนรัฐบาลมาก็บอกว่าจ้าง แท้จริงตัวเองเพียบไปแล้ว ขนไปจากลุ่มน้ำปากพนังก็ยังมี เอกชัย ไปร่วมการปราศรัยกับประชาธิปัตย์ในภาคใต้ก็ไม่ได้ตำหนิ มีสิทธิที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ได้ สำหรับพรรคฝ่ายค้านนั้นก็มีคำกลอนขึ้นมามอบให้เขาบอกว่า แพ้เลือกตั้งก็หาว่าซื้อเสียง แพ้คดีก็เลี่ยงว่าซื้อศาล แพ้กีฬาอ้างว่าซื้อกรรมการ ใครชื่นชมรัฐบาลว่าซื้อตัว

ขณะที่ นายณัฎฐประชา เกื้อสกุล กล่าวว่า ยืนยันว่า เป็นสมาชิกตั้งแต่เริ่มต้นและนายสุธรรมทราบดีเป็นคนสรรหาผู้สมัครด้วยตัวเอง ในส่วนตัวทำงานการเมืองในนามพรรคมาโดยตลอด ไม่ได้ขาดจากการเป็นสมาชิกภาพตามการกล่าวหาเลย การสมัครนั้นก็มีคุณสมบัติครบถ้วนทุกประการ กกต.ก็มีหนังสือยืนยันออกมาแล้วเมื่อวันที่ 13 มี.ค.2549 และมีหนังสือรับรองจาก ผอ.เขตการเลือกตั้งเขต 3 เรียบร้อยแล้วและมั่นใจว่าทำงานการเมืองเพื่อประชาชนในพื้นที่เขต 3 และเชื่อมั่นว่าคุณสมบัตินั้นครบถ้วนแน่นอน