เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
กล่าวถึงกรณีการให้ข่าวคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 91 ว่า หลังมีการท้วงติงจากผู้ใหญ่ในกองทัพเรื่องการให้ข่าวของดีเอสไอ จึงได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้ใหญ่ของกองทัพแล้ว และได้กำชับพนักงานสอบสวน รวมทั้งพ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน ไม่ให้เปิดเผยข้อมูลในเรื่องดังกล่าวต่อสื่อมวลชนอีก รวมถึงจะขอยุติการให้ข่าวจนกว่าคดีจะมีความชัดเจน โดยหลังจากนี้ตนจะเป็นผู้แถลงข่าวเพียงผู้เดียว
"การดำเนินคดี พนักงานสอบสวนยังคงทำงานเป็นปกติ แต่การให้ข่าวรายวันคงไม่มี จะแถลงข่าวต่อเมื่อคดีมีความคืบหน้าชัดเจน"นายธาริตกล่าวย้ำ และว่า จะสืบสวนสอบสวนคดี 91 ศพต่อไป ซึ่งคดีดังกล่าวดีเอสไอไม่ได้ทำคดีเพียงลำพัง มีพนักงานอัยการและพนักงานสอบสวนฝีมือดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติกว่า 50 นาย เข้าร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวน โดยจะดำเนินการตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ ไม่มีการตั้งธงว่าจะเอาผิดกับผู้ใด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการเมือง หรือเจ้าหน้าที่รัฐ รวมไปถึงจะยึดการไต่สวนของศาลเป็นหลัก ในการนำมาประกอบสำนวน เพื่อทำความเห็นส่งให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีมีข่าวว่าเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องบางคดี
นายธาริตกล่าวว่า การที่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องในบางคดี แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดเสมอไป และอาจไม่ต้องรับผิดในการกระทำ เพราะอาจทำไปในภาวะจำเป็น หรือปฏิบัติตามคำสั่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย จึงไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา
เมื่อถามว่า คดีดังกล่าวดีเอสไอมุ่งเอาผิดกลุ่มนักการเมืองหรือไม่
นายธาริตปฎิเสธ พร้อมระบุว่า คดีดังกล่าวเป็นเรื่องใหญ่ ดีเอสไอไม่ได้ทำคดีตามลำพัง และพิจารณาตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎในสำนวน สำหรับข่าวที่ปรากฎอาจเป็นความคาดเคลื่อน เพราะการนำเสนอบางครั้งด้วยข้อจำกัดในเรื่องเวลาหรือเนื้อที่ อาจรวบรัดไปบ้างแต่ไม่ได้โทษใคร อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปวิธีการนำเสนอข่าวต่อสาธารณชนจะต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ส่วนตัวรู้สึกเห็นใจทุกฝ่าย ทั้งผู้สูญเสีย ทหารและผู้บาดเจ็บ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
