เฉลิม เหน็บมาร์คใส่เสื้อแดงเพราะโมโหที่โดนเรื่องหนีทหาร

รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมครม.สัญจร จ.สุรินทร์ ถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญภายหลังมีการสัมมนาพรรคเพื่อไทยว่า
 
ถือว่าตกผลึกแล้วไม่ได้ตกแตกโดยบทสรุปเหลือแนวทางเดียวคือจะเป็นการแก้ไขรายมาตรา แต่ก็ยังมีคนคิดว่าอยากจะลงมติวาระ3ซึ่งก็เป็นสิทธิแต่วงในลึกๆแก้รายมาตรา ส่วนที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโฟนอินมาระบุว่าอยากให้ทำความเข้าใจกับประชาชนก่อนนั้นไม่ได้เป็นการระบุมอบหมายให้ตนทำ เพราะตนทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งตนและนายสุธรรม แสงประทุม และนายอดิศร เพียงเกษ เตรียมการกันแล้วว่าช่วงเย็นวันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์ ช่วงไหนว่างจะตระเวนต่างจังหวัด โดยยึดภาคอีสานและภาคเหนือเป็นหลัก ส่วนกทม.จะเอาลานคนเมืองเพื่อให้คนกทม.รับทราบข้อเท็จจริงบ้าง เชื่อว่าแรงเสียดทานและต่อต้านจะลดลงถ้าเขาเข้าใจ เพราะเรื่องยุ่งยากทั้งหมดมาจากการปฏิวัติ19ก.ย.2549 เท่านั้น
  
เมื่อถามว่าภาคใต้จะลงไปหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ภาคใต้ไปก็ได้ประโยชน์น้อย เพราะเขาตกผลึกแล้ว แต่คงจะไปจังหวัดภูเก็ตและอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะนายสุธรรมเป็นคนใต้ 

เฉลิม เหน็บมาร์คใส่เสื้อแดงเพราะโมโหที่โดนเรื่องหนีทหาร

ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สวมเสื้อแดงขึ้นเวทีปราศรัยจะเป็นการยั่วยุหรือไม่

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่แสดงความเห็น ซึ่งตนดูข่าวแล้ว ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์อาจจะอารมณ์เสีย เพราะคณะของพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่แถลงข่าว จัดหนัก จัดเต็ม ก็เลยจะอารมณ์เสีย อย่างไรก็ตามการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องมีการละลายสีหรือละลายพฤติกรรมอะไรทั้งนั้น 
  
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราจะสำเร็จเรียบร้อย ไม่มีปัญหาเพราะ เพราะมันชัด เขากลัวว่าจะไปตั้งส.ส.ร. เขากลัวไปเองว่าจะแก้อย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งเรายืนยันแล้วในมาตรา 291 ทับ11 กระทบสถาบันไม่ได้ เปลี่ยนแปลงการปกครองไม่ได้ ได้อำนาจมาโดยไม่เป็นบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญไม่ได้ เขียนไว้ชัดแต่เขาไม่เข้าใจ เขาทำให้ไม่เข้าใจ เมื่อเขาไม่เข้าใจก็ลงเป็นรายมาตรา เช่น เลิกผู้ตรวจ วุฒิสภาต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น ควบรวมศาล กกต.ต้องมาโดยรัฐสภา กกต.ต้องมีหน้าที่เลือกตั้งไม่มีหน้าที่ให้ใบแดงใบเหลือง และปปช.มาโดยรัฐสภา คดีความเหมือนเดิม และทั้งหมดอยู่ 4 ปี เอาเวลาของรัฐสภาเป็นหลัก ทำไมคุณ7 ทำไมคุณ9 ไม่มีที่มา ทำไมต้องควบรวมศาล และพรรคเพื่อไทยได้อะไร ก็ทำให้มาตรฐานขึ้น พอมีคดีทีนึงก็เลือกมา 9 ท่านจากองค์ประชุมใหญ่ศาลฎีกา พอตัดสินเสร็จก็จบไป พอมีคดีก็เลือกมา แล้วใครได้ประโยชน์หละ”รองนายกฯ กล่าว
  
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์เกียรติสุรนนท์ ประธานสภา เสนอให้ถอนพ.ร.บ.ปรองดองออกจากสภาว่า

นี่ไม่ใช่จุดยืนของพรรคเพื่อไทย เพราะนายสมศักดิ์ไม่เคยเข้าพรรค เพราะตอนรับเลือกเป็นประธานสภาท่านบอกว่าเพื่อคงความเป็นกลางจะไม่เข้าประชุมพรรค เมื่อไม่เข้าประชุมท่านจึงไม่ทราบ เพราะเขายืนยันกันในพรรคเพื่อไทยแล้วว่าไม่ถอน ส่วนเป็นเพราะนายสมศักดิ์หนักใจที่จะต้องเดินเรื่องนี้ต่อนั้นรองนายกฯ กล่าวว่า “ประธานต้องเหมือนพระ ต้องถือศีลเคร่งครัด จะไปถอนท่านเรื่องอะไร” 
 
เมื่อผู้สื่อข่าวชี้แจงว่าหมายความว่าหมายถึงนายสมศักดิ์เคยถูกฝ่ายค้านโจมตีอย่างหนักจากฝ่ายค้านมาแล้วนั้นเลยอยากจะถอนพรบ.ปรองดองออกหรือเปล่า รองนายกฯ กล่าวว่า
หนักใจอะไร ก็คนเขายื่นมา ก็พรรคประชาธิปัตย์ใช่ไหมหละที่ไปแย่งเก้าอี้ คงไม่มีแล้วมั๊ง จะไปแย่งอะไรบ่อยๆ 
  
“เชื่อผมเถอะอย่าไปตื่นตระหนก การเมืองไม่มีอะไรเลย เรียบร้อยหมด จะไปมีอะไร มีเรื่องเดียวคือรัฐบาลอย่าไปทุจริตถ้าไม่ทุจริต ประชาธิปัตย์ก็ชกลมไป”รองนายกฯ กล่าว
 
เมื่อถามว่าเมื่อไรพรบ.ปรองดองฉบับเฉลิมจะออกมาเสียที ร.ต.อ.เฉลิม ยิ้มกรุ้มกริ่มแล้วกล่าวว่า
 
“ไม่พูดหรอก เดี๋ยวถูกดุ ไม่พูด พูดไปแยอะละ บางครั้งเราเป็นนักการเมืองไม่ใช่จะไปสอนนะ อะไรที่มันทำแล้วรู้ว่าไม่สำเร็จ ไปลองผิดลองถูกทำไม มันต้องศึกษาสถานการณ์รอบด้าน เรารู้นี่ว่าเราไม่มีตัวช่วย เรารู้นี่ว่าเขากำลังรวมสหบาทา ถ้าไปเปิดช่องก็ผั๊วะ อย่าเปิดสิต้องรัดกุม แต่จากนี้ต่อไปก็คงดีขึ้นแหละ คนเราไม่เจอมั่งไม่ค่อยรู้หรอก เก่งทั้งนั้น เก่งทั้งนั้น”

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์