“เฉลิม” ตอบโต้ “ชูวิทย์”ลูก“ดวง” โอนเป็นตำรวจไม่ผิด

ขอบคุณภาพจากเดลินิวส์ขอบคุณภาพจากเดลินิวส์

วานนี้  (29 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ
 
ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ออกมาระบุว่า ร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุง บุตรชาย ย้ายมาสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นการผิดกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่า ก.ตร.ประเทศไทย ทำได้ไม่ผิด แต่ ก.ตร.ประเทศอื่นตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้ศึกษา แล้วขอให้นายชูวิทย์ ลืมคำว่าต้องตรวจสอบในสภาฯ คำว่าจะไม่ไว้วางใจ และขอให้อย่าช้า
 

ทั้งนี้ถ้าหากทราบก่อนหน้านี้ จะไม่ให้ลูกชายมาเป็น เพราะตำรวจแม่นปืน เวลาจับโจรผู้ร้ายผู้บังคับบัญชามักจะเรียกตัวไปใช้งาน ซึ่งก็เสี่ยง ถ้าเป็นทหารสารวัตร ก็ไม่ลำบากอะไร ซึ่งเรื่องนี้คุณแม่ก็ไม่เห็นด้วย แต่เมื่อโอนมาแล้ว เขาชอบก็ต้องตามใจ
 

ส่วนถึงกรณีที่นายชูวิทย์ ออกมาระบุว่ามีการเปิดค้าประเวณีเด็กลาวที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยเบื้องหน้าทำเป็นร้านอาหารนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถ้าทำจริงก็ดำเนินการ ตำรวจไม่มีการละเว้น


สำหรับการดูแลความปลอดภัยของชาวบ้านที่จะมาสนับสนุนและร้องทุกข์กับนายกฯในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่ จ.สุรินทร์ ว่า ตนได้ไปดูพื้นที่ด้วยตัวเองแล้ว ถ้ามา 8000-9000 คน ก็ต้องขอให้อยู่สนามฟุตบอล และเตรียมโพเดียมให้นายกฯขึ้นกล่าว ว่ามีปัญหาอะไร เดือดร้อนอะไร ถ้ามาให้กำลังใจก็ขอบคุณ มีปัญหาก็รับฟัง หรือเรื่องงผลกระทบเรื่องการสร้างเขื่อนตนก็ดูแลอยู่ เรื่องคนเลี้ยงช้าง ทุกอย่างใกล้เสร็จแล้ว และหากใครเดือดร้อนก็ขอให้มา เพราะนานๆ นายกฯจะมา เอง ซึ่งเชื่อว่าตำรวจจะรับมือกับม็อบที่จะมาในวันที่ 30 ก.ค.นี้ได้ เพราะทุกคนมาดี คนเดือดร้อนก็มาร้องนายกฯ คนรักนายกฯก็มาเชียร์นายกฯ ไม่ได้มาประท้วง


ทั้งนี้   รองนายกฯยังได้กล่าวถึง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงนี้เนื่องจากมีสถานการณ์การยิงกันอย่างอุกอาจกลางกรุงฯว่า

  รู้สึกเป็นห่วงตลอดเวลา  เพราะอาวุธปืนอนุญาตให้เข้ามามากในรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งเดิมมีการจดทะเบียนตอนหลังก็แจ้งหายแล้วนำไปขายราคาแพง การควบคุมก็ยาก สมัยตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ไม่เซ็นอนุญาตนำเข้าปืนเลย  ร้านปืนก็ไม่ให้เปิด แต่สมัยรัฐบาลชุดที่แล้วให้เปิดร้านปืนถึง  93 แห่ง ก็นำเข้าปืนสั้น 30 กระบอก ปืนยาว 50 กระบอกต่อปี  จึงเกิดปัญหา
 

"วันนี้ ผบช.น.ได้หารือกับตนแล้ว ได้คำแนะนำว่า ต้องปิดล้อม กวาดล้างและตรวจค้น ซึ่งสามารถจับกุมได้หลายกระบอกก็ดำเนินการอยู่  หากเป็นปืนมีทะเบียน แต่พกพาโดยไม่มีใบอนุญาต ก็ต้องถอนทะเบียน ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด ซึ่งส่วนมากสาเหตุที่เกิดเหตุการณ์คือ 1.เมาสุรา , 2.อาฆาตส่วนตัว ,3.ชู้สาว  , 4.ธุรกิจ  , 5.เกิดจากการเขม่นโดยไม่มีสาเหตุ และ 6. คึกคะนอง  ก็ต้องกวดขัน ตำรวจขยันทำงาน แต่พอเอาจริงก็ถูกด่าจากคนที่ได้รับผลกระทบ ตำรวจก็เสียใจเพราะเขาตั้งใจทำงาน ตนเน้นเรื่องอาชญากรรม อาวุธปืนและยาเสพติด  ส่วนเรื่องอื่นเป็นเรื่องรองแต่ก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย"  รองนายกฯ กล่าวในตอนท้าย 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์