ปชป.ชี้ แม้ว ดิ้นเพื่อตัวเองมากกว่าชาติ - ยัน 24 มี.ค.เปิดเวทีถล่ม

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2549 12:51 น.

โฆษกประชาธิปัตย์ ยันพรรคพร้อมขึ้นเวทีเจรจาร่วมกับทุกฝ่าย ชี้ แม้ว เกมแก้รายวันเพื่อรักษาอำนาจตัวเองและพวกพ้องมากกว่าประเทศชาติ ย้ำ 24 มี.ค.แกนนำขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ สนามหลวงเปิดโปงเล่ห์เหลี่ยม ระบอบทักษิณ 5 ปีที่ผ่านมา พร้อมแฉผลกระทบหลังเลือกตั้ง ซัด สุดารัตน์ พูดไม่กระดากปาก 2 เม.ย.คำตอบสุดท้าย ทั้งที่กระบวนการไร้ความน่าเชื่อถือ ควรหาน้ำยาไฮเตอร์มาล้างปาก

วันนี้ (19 มี.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้มีความพยายามจากหลายฝ่ายที่เป็นคนกลางติดต่อประสานงานหาทางเจรจาระหว่างรัฐบาล อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคพร้อมที่จะเจรจาหาทางแก้วิกฤตของประเทศตลอดเวลา แต่สิ่งที่อยากเห็นคือทุกฝ่ายควรมานั่งพบปะพูดคุยกันโดยไม่นำเสนอเงื่อนไขใดๆ เพราะการนำเสนอเงื่อนไขก่อนพบปะพูดคุยต่อสาธารณชน ทำให้โอกาสที่จะได้พบปะเจรจากันเป็นไปอย่างยากลำบาก

พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยปฏิเสธเวทีใด สิ่งที่ปฏิเสธคือความไม่ชอบธรรมของการจัดการ จึงขอเสนอข้อเรียกร้องว่า ก่อนจะมีข้อเสนออะไรออกมาต่อสาธารณะ ควรพบปะพูดคุยอย่างไม่เป็นทางการก่อน เพื่อแลกเปลี่ยนหาข้อสรุปก่อนจะให้ผู้แทนของแต่ละฝ่ายมาเจรจากันครั้งสุดท้ายอีกครั้ง วิธีการนี้จะนำไปสู่การแก้ปัญหาของประเทศชาติได้ พรรคประชาธิปัตย์เชื่อว่าหากทำได้ในลักษณะนี้น่าจะมีส่วนช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าเดิม นายองอาจ กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคได้ติดตามการเคลื่อนไหวทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และพบว่า การเคลื่อนไหวขณะนี้เป็นไปเพื่อรักษาอำนาจของตัวเองและพวกพ้องให้อยู่ยาวนานที่สุดมากกว่าจะรักษาประเทศชาติ ซึ่งมองว่าสามารถแบ่งรูปแบบการดำเนินการของรัฐบาลได้ 5 ส่วน คือ แบ่งแยกและปกครอง สนองความชอบธรรมของตนเอง สร้างภาพเพื่อให้ดูดี ซื้อเวลาหาทางรุก และสร้างความเบื่อหน่ายให้เกิดขึ้นในสังคม และเห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีคุณธรรม

นายองอาจ ยืนยันว่า ในวันที่ 24 มีนาคมนี้ พรรคจะปราศรัยพบปะประชาชนที่ท้องสนามหลวงอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม โดยจะมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค เป็นแกนนำในการปราศรัยหลัก เพื่อเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงานของรัฐบาลตลอด 5 ปีที่ผ่านมาอย่างรอบด้านมากที่สุด และจะอธิบายถึง ระบอบทักษิณ ให้ประชาชนเข้าใจอย่างง่ายๆ ว่า 5 ปีที่ผ่านมาระบอบนี้ทำความเสียหายกับประเทศชาติอย่างไร มูลค่าความเสียหายเท่าใด และหากปล่อยให้เลือกตั้งและ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกจะส่งผลกระทบอย่างไร ซึ่งวันนั้นพรรคจะแสดงจุดยืนชัดเจนตามสถานการณ์บ้านเมืองว่าจุดยืนของพรรคจะเกี่ยวข้องกับจุดเปลี่ยนแปลงของประเทศและทิศทางที่ดีกว่าเดิมอย่างไร

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า พรรคเป็นห่วงกรณีที่มีการลอบทำร้ายแกนนำกลุ่มพันธมิตร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการส่งสัญญาณว่าจะใช้ความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ การเริ่มใช้ความรุนแรงอาจก่อให้เกิดปัญหามากมาย คาดว่าอนาคตจะนำไปสู่การใช้ความรุนแรงมากขึ้นด้วย และมีความเป็นไปได้สูงว่าจะสร้างเงื่อนไขให้นำไปสู่ความรุนแรง นับว่าอันตรายมาก ดังนั้น พรรคเรียกร้องให้ระงับยับยั้งความรุนแรง ซึ่งเป็นภาระหน้าที่รัฐบาลที่ต้องหาทางปกป้องไม่ให้ความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรายบุคคลหรือคณะ

สำหรับกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุคำตอบสุดท้ายในการยุติปัญหาทางการเมืองคือการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายนนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คุณหญิงสุดารัตน์พูดไม่กระดากปาก อยากถามว่าไม่รู้หรืออย่างไรว่ากระบวนการเลือกตั้งที่รัฐบาล และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการอยู่เป็นกระบวนการเลือกตั้งที่เลอะเทอะ ไร้ความเชื่อถือมากที่สุด มีการจ้างคนมาลงสมัครและสมัครคนเดียวโดยไม่มีใครแข่ง เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีความพยายามทำให้ได้เสียงมากที่สุด โดยจะทำให้ได้มากกว่า 19 ล้านเสียงด้วยซ้ำ ซึ่งไม่ทราบว่าจะ ยัด อะไรได้อีก