อุทัยแนะเขียนรัฐธรรมนูญไม่ต้องมากมาตรา

"อุทัย"แนะเขียนธรรมนูญไม่กี่มาตรา ป้องกันการทำรัฐประหารเขียนเป็นพระราชบัญญัติ ลั่นกำหนดขอบเขตนักการเมือง ทำให้รัฐธรรมนูญกลายเป็นกฏหมายอาญา

นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา กล่าวแสดงปาฐกถา เรื่อง"รูปแบบรัฐธรรมนูญที่เหมาะสม"

ว่าการที่รัฐธรรมนูญเขียนหลายมาตราทำให้รกรุงรัง ทั้งที่เขียนไม่กี่มาตราก็ได้ ซึ่งการที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้กำหนดขอบเขตการใช้อำนาจของนักการเมือง เพราะที่ผ่านมามีการโกงกินนั้น ทำให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมุ่งไปที่ผู้ใช้อำนาจว่ามีขอบเขตอะไรบ้าง รัฐธรรมนูญจึงกลายเป็นกฎหมายอาญาทางการเมืองของนักการเมือง กลายเป็นกฎหมายกำหนดลงโทษนักการเมือง ลงโทษพรรคการเมือง ทั้งที่เขียนสั้นๆ ก็ได้ไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งทุกวันนี้ความเป็นอยู่ของประชาชนกฎหมายคุ้มครองประชาชนทุกด้านได้เพียงพออยู่แล้ว และกฎหมายปกติแทบจะไม่ได้ใช้รัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเกิดความไม่เหมาะสมก็จะมีการแก้ไขที่จะเกี่ยวกับเรื่องนักการเมืองทั้งนั้น

นายอุทัย กล่าวว่า สิ่งที่มีความเป็นห่วงในการร่างรัฐธรรมนูญ

คือ 1. นักการเมืองจะทำปู้ยี้ปู้ยำใส่ในรัฐธรรมนูญ โดยหลายคนมีความเป็นห่วงความไม่ชอบพากลของนักการเมือง และ 2.กลัวการปฏิวัติ ที่กลัวการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญปี 2540 ก็เขียนไว้ชัดเจน และปี2550 ก็ได้ลอกมาใช้ และหากมีความเป็นห่วง 2 เรื่องนี้กันมากนั้นต่อไปรัฐธรรมนูญเขียนเพียง 3-4 มาตราก็ได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนมีความคิดมากว่า 30 ปีแล้ว เช่น มาตรา 1 ประเทศเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันจะแบ่งแยกไม่ได้ มาตรา 2 ประเทศไทยปกครองโดยระบอบประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและให้สืบสันติวงศ์เป็นไปตามกฎเกณฑ์ มาตรา 3ประเทศไทยปกครองตามประเพณีโดยการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย หากมีกรณีที่มีความสงสัยก็ให้ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาพิจารณา

นายอุทัย กล่าวอีกว่า เมื่อมีการตั้งคำถามว่ารัฐสภาจะเอาไปไว้ที่ไหน

คณะรัฐมนตรี การเลือกตั้ง องค์กรอิสระที่ควบคุมนักการเมือง ของดีที่อยู่ในรัฐธรรมนูญ ก็สามารถนำไปเขียนไว้ในพระราชบัญญัติก็ได้ ซึ่งการทำแบบนี้ ก็เพื่อป้องกันปฏิวัติ เพราะหากมีการปฏิวัติอีกจะล้มอะไร เนื่องจากรัฐธรรมนูญมีไม่กี่มาตรา และหากกลัวปฏิวัติก็ไม่ต้องเอาสาระทางการเมืองใส่เอาไว้ในรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามการเมืองที่ยุ่งอยู่นั้นก็เพราะการแย่งกันในคณะรัฐมนตรี จึงควรตั้งตำแหน่งให้มากๆ จะได้ไม่ต้องแย่งกัน ขณะนี้มี 36 คน ควรตั้งสัก 100คน ได้เงินเดือนๆ คนละ 1 แสนกว่าบาท รวมแล้วเดือนละ 100 ล้านบาทเพื่อแลกกับการให้การให้การเมืองสงบ