พันธมิตรฯย้ำทักษิณต้องออกไป-สัปดาห์หน้ากดดันเข้มข้น

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 18 มีนาคม 2549 20:20 น.

พันธมิตรฯย้ำจุดยืน ทักษิณ ต้องเสียสละด้วยการลาออกเท่านั้นเพื่อยุติปัญหา ชี้นายกฯเดินหน้าให้มีการเลือกตั้ง 2 เมษายนเป็นการลากสถานการณ์ไปถึงทางตันและจุดต่ำสุดทางการเมืองเปิดทางให้ใช้อำนาจนอกระบบ เตือนหยุดใช้นโยบายลวงโลกเป็นบริวารรับใช้มหาอำนาจ ดึงต่างเข้ามาหาโยชน์ย่ำยีคนจน ย้ำตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปจะเพิ่มการเคลื่อนไหวกดดันให้เข้มข้นขึ้นไปอีกขั้น

วันนี้( 18 มี.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ ดร.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ ผู้อำนวยการสถาบันสหสวรรษระบุว่าควรมีนายกรัฐมนตรีพระราชทาน ว่า การแสดงความเห็นของผู้อภิปรายบนเวทีเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับจุดยืนและความเห็นของแกนนำพันธมิตรฯ ซึ่งผู้อภิปรายก็มีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ในการพูด ก็ขึ้นอยู่กับวิสัยของแต่ละคน แต่ทางแกนนำฯยังยืนยันจุดเดิมว่า จะเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณลาออก หากจะมีการเปลี่ยนแปลง ทางพันธมิตรฯการออกแถลงการณ์อีกครั้งอย่างเป็นทางการ

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ข้อเสนอในช่วงวิกฤตอย่างนี้จะเป็นประโยชน์เพราะข้อเสนอที่มีความหลากหลายจะทำให้ประชาชนสามารถพิจารณาแนวทางต่างๆ และจะเป็นแนวทางในการพัฒนาทางการเมืองต่อไป แต่สถานการณ์การเมืองตอนนี้ แกนนำยังยืนว่ายังไม่ถึงทางตัน และไม่ถึงเวลาที่จะต้องใช้ ม.7 เพียงแต่รอการเสียสละของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่แทนที่ พ.ต.ท.จะเสียสละ กลับลากจูงสถานการณ์การเมืองนำไปสู่การเลือกตั้งในวันที่ 2 เม.ย.49 ซึ่งถือว่าเป็นจุดจบทางเมืองและนำไปสู่การใช้ ม. 7 หรือการใช้อำนาจนอกระบบ

ต้องโทษพ.ต.ท.ทักษิณ ที่นำสานการณ์ไปสู่ทางตัน ตนยังเชื่อว่า สถานการณ์ในตอนนี้สามารถแก้ปัญหาในระบบปกติได้ แต่สัญญาที่ทักษิณให้มาหลายครั้งจะเป็นช่องว่างที่เปิดให้อำนาจนอกระบบเข้ามายึดกุมอำนาจทางการเมือง ถ้าทักษิณลากการเมืองถึงวันที่ 2 เม.ย.49 การเมืองไทยจะไปถึงจุดที่ต่ำสุด ในยุคใช้รัฐธรมนูญฉบับปัจจุบัน นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ถ้าเปรียบเป็นหุ้นก็ถือว่าติดลบ นอกจากนี้เมื่อสถานการณ์ไปถึงจุดนั้นแล้ว เราก็ไม่มีหลักประกันว่า รัฐธรรมนูญจะแก้ไขปัญหาได้ เพราะพ.ต.ท.ทักษิณพยายามสร้างเข้าสู่สถานการณ์ที่เป็นเดดล็อค(dead lock) ทางการเมือง เวลา 10 กว่าวันที่เหลือนับจากนี้ทักษิณควรอยู่กับตัวเองให้มาก และพิจารณาว่าจะคลี่คลายสถานการณ์อย่างไร ไม่ใช่ไปปราศรัยตามที่ต่างๆโจมตีฝ่ายอื่น

ส่วนกรณีที่นายกฯพูดถึงการเว้นวรรคจะนำพาประเทศเข้าสู่โปรแกรมไอเอ็มเอฟอีกครั้ง นายสุริยะใส กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณพยายามจะลวงโลกแบะอ้างว่าการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟก่อนกำหนดเป็นความสำเร็จของไทยรักไทย แต่ในทางกลับกันการบริหารงานภายใต้ การนำของทักษิณกลับมีนโยบายที่เน้นย้ำความเป็นบริวารของมหาอำนาจ แล้วเปิดโอกาสให้ประเทศมหาอำนาจดูดทรัพยากรของแผ่นดิน โดยไร้การตรวจสอบ อย่างเช่น การดำเนินนโยบายเอฟทีเอ ซึ่งสามานย์กว่าไอเอ็มเอฟ แล้วเป็นตรรกะเดียวกับมาตรการที่ดึงให้ต่างประเทศเข้ามาหาประโยชน์โดยไม่คำนึงถึงคนยากคนจน

นายสุริยะใส กล่าวทื้งท้ายด้วยว่า ภายในสัปดาห์หน้า พันธมิตรฯจะเพิ่มระดับการเคลื่อนไหวทางการเมืองขึ้น ซึ่งจะมีการหารือกันภายใน 2-3วันนี้