มาร์คยัน ปชป.พร้อมเดินหน้าค้าน พ.ร.บ.ปรองดองฯ ให้ถึงที่สุด

มาร์คยัน ปชป.พร้อมเดินหน้าค้าน พ.ร.บ.ปรองดองฯ ให้ถึงที่สุด

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการฟ้าวันใหม่
 
ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย แชนแนล ถึงการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ พ.ศ…. เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นการรุกคืบของกลุ่มคนที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ในสิ่งที่ต้องการ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายระบบกฎหมาย และความถูกต้องของบ้านเมือง และไม่ควรเรียกกฎหมายฉบับนี้ว่า “ปรองดอง” เพราะเป็นกฎหมายที่ล้างผิดเข้าสู่สภาแล้วก็ผ่านมาพิจารณา ถ้าวันนี้ยอมให้มีการตรากฎหมายลักษณะนี้ วันข้างหน้าจะไม่สามารถตอบได้เลยในเรื่องให้คนปฏิบัติตามกฎหมา ขอย้ำว่าการที่ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว เขาไม่ได้มาเพื่อล้มล้างรัฐบาล แต่เขามาเคลื่อนไหวเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้


เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการเลื่อนขึ้นพิจารณา 3 วาระรวด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า

เป็นไปได้ยาก เพราะคงต้องใช้เวลา อย่างมากน่าจะแค่ขั้นรับหลักการ และไม่แน่ใจว่าจะเปิดให้มีการอภิปรายมากน้อยแค่ไหน ส่วนได้มีการพูดคุยกันกับถึงเสียงตอบรับกับทางพรรคภูมิใจไทยในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ก็ได้พูดกันภายในวิป ซึ่งก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร แต่สาระสำคัญอยู่ที่รัฐบาลมีเสียงข้างมากอยู่แล้ว ดังนั้น ปัญหาคือรัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร เพราะเป็นกฎหมายที่ผูกพันกับรัฐบาลอย่างชัดเจน


เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะเดินหน้าคัดค้านเรื่องนี้ตามลำพังหรือมีแนวร่วมพรรคอื่น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ในส่วนของฝ่ายค้าน และจากการประชุม ส.ส.พรรค ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวว่าเราต้องคัดค้านเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด


เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าทันทีที่กฎหมายนี้เข้าสภา จะเกิดปัญหาขึ้น

แต่ พล.อ.สนธิบอกว่าเป็นสีสัน เป็นความสวยงาม ในขณะที่นายบรรหาร ศิลปอาชา มองว่าคงไม่เกิดปัญหาความขัดแย้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า แม้นายบรรหารเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ประโยชน์จากกฎหมายฉบับนี้ ตนก็เข้าใจและรู้สึกเห็นใจ แต่การเอาเรื่องนี้มาผสมโรงกับคดีทุจริต และผสมกับเหตุการณ์ปี 53 นั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง สำหรับ พล.อ.สนธินั้นตนไม่เชื่อว่า คนอย่าง พล.อ.สนธิจะไม่ทราบว่า การชุมนุมครั้งนี้นั้นไม่ใช่สีสัน


เมื่อถามว่า หลายคนเกรงว่าจะมีการปิดถนน
 
และกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศเนื่องจากจะมีการจัดประชุมเวทีเศรษฐกิจโลกว่าด้วยเอเชียตะวันออก (World Economic Forum on East Asia) ว่า มันไม่เกี่ยวกัน แต่ถ้ารัฐบาลอยากเห็นบรรยากาศที่ดี รัฐบาลก็ควรถอนกฎหมายออกไป ซึ่งการจัดประชุมครั้งนี้เป็นผลดีกับประเทศ และเป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะได้แสดงออกถึงศักยภาพของประเทศ แต่กลายเป็นว่าการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้กลับมีบรรยากาศที่เงียบเหงา ไม่เป็นที่รับรู้ของประชาชน


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์